24 ข้อต้องรู้เพื่อป้องกันและรับมือ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
Better Living

24 ข้อต้องรู้เพื่อป้องกันและรับมือ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

Focus
  • ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019-nCoV หรือ ไวรัสอู่ฮั่น เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Corona Virus [CoV] พบเชื้อครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2562 เริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
  • การแพร่เชื้อเกิดขึ้นโดยการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู่ป่วย เช่น การไอ จาม น้ำมูก
  • เมื่อมีอาการเสี่ยง ไม่ควรซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่น ยาลูกกลอน ยาชุด หรือยาซอง เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานไม่ดี จนกระตุ้นให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น

ในที่สุด องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ตัดสินใจประกาศให้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก เป็นภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมตัวรับมืออย่างไม่ตื่นตระหนก Sarakadee Lite จึงขอนำ 24 ข้อต้องรู้ เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา มาฝากกัน

1.ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหนึ่งคนสามารถแพร่กระจายเชื้อสู่คนอื่นได้ประมาณ 2-3 คน

2.การแพร่เชื้อเกิดขึ้นโดยการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู่ป่วย เช่น การไอ จาม น้ำมูก

3.ไวรัสโคโรนา สุดท้ายถ้ากำจัดไม่ได้หมดจะกลายเป็นไข้หวัดประจำปี เหมือนกับไข้หวัดอื่นๆ

4.คนที่เคยเป็นแล้วสามารถเป็นอีกได้ แต่อาการอาจน้อยกว่าตอนเป็นครั้งแรก

5.โรคนี้มีระยะฟักตัว 14 วัน ถ้าไม่มีการแสดงอาการในระยะนี้ก็ไม่มีโอกาสเสี่ยง

6.คนที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ คือ โรคหัวใจ ความดันสูง มะเร็ง

7.เมื่อมีอาการเสี่ยง ไม่ควรซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่น ยาลูกกลอน ยาชุด หรือยาซอง เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานไม่ดี จนกระตุ้นให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น

8.หน้ากากอนามัยที่เป็นผ้าป้องกันได้ แต่อาจไม่ดีเท่าหน้ากากอนามัยแบบมาตรฐานที่มีขายตามท้องตลาด ซึ่งใส่เพียงชิ้นเดียวก็ป้องกันได้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำวิธีทำหน้ากากอนามัยใช้เองแบบง่ายๆ คลิก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

9.การใส่หน้ากากอนามัยควรให้ด้านที่เป็นสีเข้ม เช่น สีเขียว สีฟ้า อยู่ด้านนอก เพราะด้านในของหน้ากากอนามัยจะมีวัสดุสำหรับซึมซับน้ำมูก น้ำลายไว้ ส่วนด้านนอกที่สีเข้มเป็นวัสดุกันน้ำ ช่วยไม่ให้น้ำมูกน้ำลายที่ซึมซับจากคนป่วยไปกระจายอยู่ในอากาศ

10.หน้ากากอนามัย รุ่น N95 ที่บุคลากรการแพทย์ในสถานพยาบาลต่างๆ ใช้เป็นปกติ สามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้มากกว่าหน้ากากอนามัยธรรมดา (แต่ต้องใส่อย่างถูกวิธี)

11.ผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่สาธารณะ ควรทำความสะอาดพื้นที่ร้านตามปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความพิเศษ เพราะเชื้อจะอยู่ในสภาวะอากาศได้ไม่นาน

12.บุคลากรทางการแพทย์ตอนนี้ต้องทำงานอย่างหนัก เพราะต้องดูแลทั้งคนที่มีโอกาสเสี่ยง และคนที่ไม่มีโอกาสเสี่ยงแต่ก็มาตรวจ ซึ่งในกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเสี่ยง การมาโรงพยาบาลอาจได้รับเชื้อกลับไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

13.การสั่งสินค้าออนไลน์จากจีนไม่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ เพราะเชื้อโรคอยู่ในอากาศปกติได้ไม่นาน กว่าสินค้าจะส่งถึงไทยเชื้อโรคก็ตายแล้ว

14.ตอนนี้มีการเข้าใจผิดว่า สามารถติดเชื้อได้ด้วยการมองตา ทั้งที่จริงแล้วผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่ตา เนื่องจากมือไปสัมผัสสารคัดหลั่งจากการไอหรือจาม แล้วไปขยี้ตา ไม่ใช่ที่การมองตาอย่างที่เข้าใจ

15.ผู้ติดเชื้อที่มีสภาวะร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว และไม่มีโรคกระตุ้น เป็นแล้วสามารถหายได้เอง โดยอาจไม่ต้องใช้ยาใดๆ

16.ผู้เสียชีวิตในจีนส่วนหนึ่งตายเพราะมีโรคกระตุ้น เช่น ผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคหัวใจ เมื่อเป็นแล้วหัวใจทำงานเร็วขึ้นจนเสียชีวิต

17.การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลฆ่าเชื้อให้สะอาด ซับให้แห้ง ก่อนจะเอามือสัมผัสใบหน้า จมูกหรือปากของตัวเอง

18.ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่า หรือรับประทานเนื้อสัตว์ป่า

19.ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019-nCoV หรือ ไวรัสอู่ฮั่น เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Corona Virus [CoV] พบเชื้อครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2562 เริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อกลุ่มแรกๆ ล้วนมีประวัติเคยทำงานที่ตลาดค้าอาหารทะเลใจกลางเมือง

20. Journal of Medical Virology ได้เผยแพร่ผลการรายงานล่าสุดที่สันนิษฐานว่า “งู” อาจจะเป็นสัตว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้จากค้างคาวมาสู่คน เพราะการกลายพันธุ์ของตัวรับบนส่วนหนามของไวรัสมีความคล้ายคลึงกับการกลายพันธุ์ของหนามไวรัสโคโรนาที่พบในงู

21. Journal of Medical Virology ได้เขียนวิเคราะห์ดีเอ็นเอของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า มีความใกล้ชิดทางพันธุกรรมกับไวรัส โรคซาร์ส (SARS-CoV) และ โรคเมอร์ส (MERS-CoV) ที่มาจากค้างคาวมากที่สุด

22. สำนักข่าว เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า จำนวนผู้ป่วยด้วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่พบตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วอยู่ที่ 9,816 รายทั่วโลก ในจำนวนนี้อยู่ที่ประเทศจีน 9,692 ราย (สถิติเวลา 11.00 น. วันที่ 31 มกราคม 2563) ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มเป็น 213 ราย และทั้งหมดอยู่ในประเทศจีน

23. กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่พบในประเทศไทยมีจำนวน 14 ราย (สถิติ ณ วันที่ 30 มกราคม 2563) เป็นผู้ได้รับเชื้อมาจากต่างประเทศทั้งหมด จำนวนนี้รักษาหายจนปลอดเชื้อและอนุญาตให้กลับบ้านได้ 6 ราย ส่วนที่เหลืออีก 8 ราย รักษาตัวในห้องแยกโรคของโรงพยาบาลและไม่มีรายใดอาการรุนแรง

24. ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือพิ้นที่เสี่ยง หากมีไข้และอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ขอให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และรีบปรึกษาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขทันทีหรือโทร.1422

อ้างอิง

  • ข้อมูลโดย ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิค รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  • งานเสวนา Science Cafe หัวข้อ จับตามอง โรคอุบัติใหม่ ไวรัสโคโรนา เรื่องจริงไวรัสโคโรนา โดย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วันที่ 27 มกราคม 2563
  • Journal of Medical Virology

Author

นายแว่นสีชา
เริ่มต้นจาก โครงการค่ายนักเขียนสารคดี สะท้อนปัญหาสังคม ครั้งที่ 2 ก่อนฝึกฝนจับประเด็น ก้มหน้าอยู่หลังแป้นพิมพ์มากว่า 10 ปี ชอบเดินทางคุยเรื่อยเปื่อยกับชาวบ้าน แต่บางครั้งขังตัวเอง ให้อยู่กับการทดลองอะไรใหม่ๆ
ทศพร กลิ่นหอม
นักเขียนสายบันเทิง สังคม ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ เคยประจำการอยู่ที่ เมเนจเจอร์ออนไลน์ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และรายการ ET Thailand ปัจจุบันรับจ้างทั่วไป