เปิดวิสัยทัศน์ Krabi Prototype ผลักดันท่องเที่ยว “กระบี่” สู่ต้นแบบการท่องเที่ยวยั่งยืนที่ทำได้จริงและเที่ยวได้จริง
Better Living

เปิดวิสัยทัศน์ Krabi Prototype ผลักดันท่องเที่ยว “กระบี่” สู่ต้นแบบการท่องเที่ยวยั่งยืนที่ทำได้จริงและเที่ยวได้จริง

Focus
  • กระบี่กลายเป็น bucket list ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันว่าจะได้มาดื่มด่ำความสวยงามระดับตำนานของอ่าวมาหยาสักครั้ง แต่เราไม่หยุดแค่นั้น จังหวัดกระบี่กำลังทำงานร่วมกับ 8 ชุมชนท่องเที่ยวในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน
  • กระบี่มีสถานประกอบการที่ได้รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards)  16 แห่ง โครงการยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน (STAR) 117 แห่ง และโครงการ CF Hotels ที่มุ่งลดคาร์บอนฟุตพรินต์มากถึง 65 แห่ง

“กระบี่” ชื่อนี้คือจังหวัดริมฝั่งอันดามันที่โด่งดังระดับโลกไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่สวยติดอันดับโลก เกาะสุด unseen กลางทะเลที่น้ำใสราวคริสตัล ไปจนถึงการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้การท่องเที่ยว เฉพาะอ่าวมาหยาแห่งเดียวมีการติดแฮชแท็กในโซเชียลมีเดียสูงถึง 2.2 ล้านแฮชแท็ก แต่มากกว่าความสวยงามของท้องทะเล กระบี่ยังโดดเด่นด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ จุดบรรจบระหว่างผืนป่า ปากแม่น้ำ และท้องทะเล ส่งต่อสู่การท่องเที่ยวที่ครบทั้งเชิงนิเวศ ธรรมชาติ สุขภาพ รวมทั้งวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะของกระบี่ การทำให้จังหวัดกระบี่ที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมยังสามารถคงไว้ซึ่งความสวยงามของธรรมชาติและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Krabi Prototype การผลักดันกระบี่สู่เมืองต้นแบบของการท่องเที่ยวยั่งยืน

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าการท่องเที่ยวยั่งยืน การท่องเที่ยวแบบกรีนไม่ใช่เพียงแนวโน้ม หรือเทรนด์ที่มาแล้วก็จบไป แต่ความยั่งยืน ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ เพราะเรื่องความกรีนถูกมองว่าเป็น ความทันสมัย และ ความรับผิดชอบ ที่ผ่านมาชัดเจนว่านักท่องเที่ยว รวมทั้งการท่องเที่ยวแบบองค์กรเลือกท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางที่มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับการรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจังหวัดกระบี่เองเป็นพื้นที่ศักยภาพที่มีความเด่นชัดในเรื่องของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อยู่ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันตามพื้นที่สินค้าเชิงยุทธศาสตร์ 2568 และอีกทั้งในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาสถานที่ท่องเที่ยวของกระบี่อย่าง‘น้ำพุร้อนเค็ม คลองท่อม’ ยังได้การรับรองเกณฑ์ยั่งยืนในระดับสากล Green Destinations Top 100 Stories 2023 ประเภท environment & climate กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก ดังนั้นกระบี่จึงได้รับเลือกขึ้นมาพัฒนาสู่เมืองต้นแบบของการท่องเที่ยวยั่งยืน”

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดกระบี่ที่ทำให้เกิด โครงการ Krabi Prototype ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จับมือกับผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติ โดยนอกจากจะเร่งผลักดันผู้ประกอบการในพื้นที่กระบี่ให้เข้าสู่เกณฑ์ความยั่งยืนของ ททท. อันได้แก่ STGs STAR, Thailand Tourism Award (TTA) และ CF-Hotels แล้ว ทาง ททท. ยังเดินหน้าต่อยอดกระบี่สู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นการเสนอแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่อย่างอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เข้าสู่ Green Destinations Top 100 Stories การผลักดันแหล่งท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในจังหวัดกระบี่ จำนวน 11 ราย เข้าสู่เครือข่ายพันธมิตรทางการท่องเที่ยวยั่งยืนกว่า 160 แห่งทั่วโลกของ Tourism Cares องค์กรจากสหรัฐอเมริกาที่มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมเตรียมให้จังหวัดกระบี่เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน Tourism Cares Summit ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อประกาศความเป็นหมุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของโลกในเรื่องการท่องเที่ยวยั่งยืน

“นักท่องเที่ยวยุคใหม่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่มีความหมาย นิยมเลือกใช้บริการโรงแรมที่มีนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ลดพลาสติก ใช้พลังงานสะอาด หรือสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น โดยพวกเขายินดีจ่ายค่าบริการเพื่อประสบการณ์หรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าตัดสินจากราคา”

ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยย้ำถึงกระแสการท่องเที่ยวแบบกรีนที่นักท่องเที่ยวกำลังมองหา ซึ่งถ้ากลับมามองความพร้อมของจังหวัดกระบี่เอง พบว่าผู้ประกอบการจังหวัดกระบี่มีความตื่นตัวและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมสินค้าและบริการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนของ ททท. โดยปัจจุบันในจังหวัดกระบี่มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนของ ททท. อย่างรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) จำนวน 16 แห่ง ผ่านเกณฑ์โครงการยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน (STAR) จำนวน 117 แห่ง และเป็นผู้ประกอบการในโครงการ CF Hotels ที่มุ่งลดคาร์บอนฟุตพรินต์มากถึง 65 แห่ง ซึ่งพร้อมปรับโครงสร้างโรงแรมสู่การใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ลดการใช้พลาสติก เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่งทางไกล ขณะเดียวกันชุมชนเองก็มีการเรียนรู้การคัดแยกขยะจากต้นทางไปจนถึงหน่วยงานรัฐที่มีกระบวนการจัดการขยะ โดยเฉพาะขยะบนเกาะส่งสู่โรงงานขยะบนเมนแลนด์เพื่อนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้า

เมื่อคอนเซปต์รักษ์โลกกลายเป็นจุดขายสำหรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ต่อให้ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวจะมีการปรับขึ้นลงตามสถานการณ์โลก แต่กระบี่ที่มีความแข็งแรงด้านความยั่งยืนกลับสามารถรักษาตัวเลขนักท่องเที่ยวไว้ได้ เฉพาะปี 2567 ที่ผ่านมากระบี่ยังคงครองรายได้ด้านการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ โดยสร้างรายได้หมุนเวียนทั้งสิ้น 91,042 ล้านบาท

Krabi Prototype

“กระบี่เป็นเมืองค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน กิจกรรมท่องเที่ยวเน้นไปทางธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชน สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามากระบี่ ครึ่งหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย และอีกครึ่งหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยสำหรับตลาดต่างชาติชัดเจนว่ายุโรปคือตลาดใหญ่ของกระบี่ และที่น่าสนใจคือกลุ่มอาเซียน อย่างนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็เป็นอีกกลุ่มสำคัญที่นิยมเดินทางมาซ้ำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความประทับใจต่อประสบการณ์ในการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มจากดูไบและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตามอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน มีศักยภาพด้านกำลังซื้อสูงและมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นสปา รีสอร์ตระดับหรู หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยรวมแล้ว ททท. มองว่ากระบี่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ และมีโอกาสในการขยายกลุ่มตลาดที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณค่าทางวัฒนธรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว”

Krabi Prototype

ด้าน อังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เล่าถึงภาพรวมการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของกระบี่ว่านักท่องเที่ยวชาวยุโรปมักให้ความสนใจกับธรรมชาติของกระบี่เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล เกาะ น้ำตก ดูนก ปีนผา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเอ็กซ์ตรีมที่ชอบกีฬาปีนผา พายคายัก ส่วนกลุ่มสแกนดิเนเวีย หรือตะวันออกกลางจะเป็นกลุ่มรักสุขภาพ นิยมไปคลองท่อมเพื่อแช่น้ำพุร้อนเค็ม หรือไม่ก็ใช้บริการสปาในโรงแรม โดยเฉพาะกลุ่มสแกนดิเนเวียจะเป็นกลุ่มท่องเที่ยวระยะยาวที่ใช้เวลาพักผ่อนเป็นเดือนและมักมาแบบครอบครัว ซึ่งนั่นทำให้กระบี่เองเดินหน้าพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ครบถ้วนและหลากหลายยิ่งขึ้นโดยยังคงยึดความยั่งยืนเป็นหลัก

Krabi Prototype

“กระบี่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบ 2 ขา คือ การท่องเที่ยวคู่การเกษตร ที่นี่เป็นแหล่งปลูกปาล์มใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ บางพื้นที่มีการปลูกยางพารา ทุเรียนมูซังคิงสายพันธุ์มาเลเซีย และกาแฟโรบัสต้าที่กำลังเป็นที่นิยม ในด้านการท่องเที่ยวกระบี่กลายเป็น bucket list ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันว่าจะได้มาดื่มด่ำความสวยงามระดับตำนานของอ่าวมาหยาสักครั้ง แต่เราไม่หยุดแค่นั้น จังหวัดกระบี่กำลังทำงานร่วมกับ 8 ชุมชนท่องเที่ยวในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน อย่างเกาะกลางที่มีการบริการล่องเรือหัวโทงที่เป็นอัตลักษณ์ของกระบี่ไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สอนเขียนบาติก ผ้าปาเต๊ะ สาธิตเลี้ยงผึ้งชันโรง นอกจากนี้ยังมีชุมชนไหนหนังที่ได้รับความนิยมจากกิจกรรมพายเรือคายัก ชุมชนแหลมสักกับวิถีชีวิตของ 3ชนชาติ ไทย จีน มุสลิม ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว อีกทั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาก็กำลังได้รับการสนับสนุนให้เข้าสู่ Green Destinations Top 100 Stories ด้วยความหลากหลายของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หาดทรายขาว แนวปะการัง ถ้ำระดับน้ำทะเล และเป็นแหล่งอาศัยของนกเงือกที่บอกถึงความสมดุลของธรรมชาติ”

Krabi Prototype

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ย้ำถึงความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ที่มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และชุมชนท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องโดยยังคงใส่เรื่องการดูแลธรรมชาติและความยั่งยืนลงไปเป็นแกนหลัก ซึ่งเรื่องความยั่งยืนนี้เป็นเหมือน ปฏิญญา ที่ชาวเมืองกระบี่ยึดมั่นมานานนับ 10 ปี นำมาสู่ความร่วมมือในการสร้างทัศนียภาพเมืองและชายหาดที่แตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ถ้าสังเกตจะพบว่าชายหาดที่กระบี่ไร้ร่มหลากสี ไม่มีกองทัพเตียงผ้าใบ หรือหาบเร่แผงลอย หาดทรายยังคงเงียบสงบไร้เสียงรบกวนของเจ็ตสกี หรือกิจกรรมทางน้ำที่ใช้มอเตอร์

Krabi Prototype

“ชาวกระบี่ทั้งชุมชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ต่างมีความเห็นพ้องไปทางเดียวกันเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ส่วนใหญ่ตื่นตัว เพราะมีตัวอย่างให้เห็นจากนักท่องเที่ยวจริงๆ ที่มาเที่ยวกระบี่ เขาเห็นว่าเราแตกต่างจากที่อื่น ชายหาดของเราไม่มีร่ม หรือเก้าอี้ชายหาด ไม่มีกิจกรรมทางน้ำที่ใช้มอเตอร์ เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ นี่เป็นปฏิญญาจังหวัด เหมือนสัญญาใจที่เราชาวกระบี่ทำร่วมกันมากว่า 10 ปีแล้ว ภาคเอกชนเองก็คุยกันว่าอยากสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ เรื่องนี้เราเห็นพ้องกันรวมทั้งบนเกาะต่างๆ ทุกวันนี้ภาคเอกชนพยายามทำให้ทุกพื้นที่เป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน อย่างร้านอาหาร คาเฟ่ เราจะมีเกมคัดแยกขยะ เพื่อว่าในอนาคตประชาชนมีความเข้าใจแล้วรัฐจะได้มาสนับสนุนเราได้ง่ายขึ้น อย่างการจัดเตรียมถังขยะ ถังสีแดง สีเขียว สีเหลืองคืออะไร ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ความพร้อมเหล่านี้ทำให้การดำเนินงานต่อสู่เป้าหมายความยั่งยืนเกิดขึ้นได้ไม่ยาก”

Krabi Prototype

ชัยภัทร วสุนทรา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ ย้ำความพร้อมของจังหวัดกระบี่ในการเดินหน้าสู่เมืองต้นแบบ Krabi Prototype ที่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะแนวความคิดเรื่องความยั่งยืนได้เริ่มสอดแทรกอยู่ในวิถีประจำวันของชาวกระบี่ โดยเฉพาะความหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นหัวใจของพวกเขาชาวกระบี่

ท้ายที่สุดนี้ Krabi Prototype ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิด แต่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง “กระบี่” จะไม่ใช่แค่เพียงจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางเท่านั้น แต่จะกลายเป็นต้นแบบของเมืองท่องเที่ยวที่สามารถรักษาความงามของธรรมชาติ วิถีชีวิต ความร่วมมือร่วมใจของคนพื้นที่ ควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของชุมชนได้อย่างสมดุล นี่คือก้าวสำคัญที่พิสูจน์ว่า การท่องเที่ยวยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่สามารถ “ทำได้จริง และเที่ยวได้จริง” ที่กระบี่


Author

ภัทรวดี แสงมณี
อดีตนักข่าวไลฟ์สไตล์ The Nation และ Bangkok Post ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆผ่านการพูดคุยกับผู้คนและสิ่งที่พบเจอระหว่างการเดินทาง