ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม เปิด “ฐานบัญชาการลับแห่งอนาคต” ชวนพลิกฟื้น คืนสมดุลโลก ด้วยหลัก Triple R
Better Living

ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม เปิด “ฐานบัญชาการลับแห่งอนาคต” ชวนพลิกฟื้น คืนสมดุลโลก ด้วยหลัก Triple R

Focus
  • กลับมาอีกครั้งสำหรับนิทรรศการพิเศษเนื่องใน “งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์” ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ “โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ” แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย เข้าชมฟรี! จนถึงวันเด็กแห่งชาติปี 2569
  • ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอมได้เนรมิตโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำให้เป็น ฐานบัญชาการลับแห่งอนาคต ในธีม EGCO Base: Mission for Change

สมัยก่อนถ้าถามว่าขนอมมีอะไร คนขนอมจะบอกว่ามีโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ”

จากพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่มีความพิเศษด้านการออกแบบวิศวกรรมและมีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศในฐานะ “โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ” ลำแรกและลำเดียวของไทย ที่เคยส่งความสว่างไสวไปยังพื้นที่ปักษ์ใต้ และกลายเป็นความหวังเมื่อประเทศต้องเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนไฟฟ้าเมื่อปี พ.ศ.2523 ปัจจุบันแม้โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำได้ปลดเกษียณจากการทำหน้าที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ได้ก้าวสู่บทบาทใหม่ในฐานะ ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่แค่เก็บรักษาจิกซอว์ทางประวัติศาสตร์ด้านพลังงาน แต่ยังเดินหน้าจุดประกายแรงบันดาลใจและส่งต่อองค์ความรู้ด้านพลังงาน เทคโนโลยี นวัตกรรม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมประสบการณ์เรียนรู้ให้เยาวชนอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะองค์ความรู้ที่ช่วยพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นั่นจึงเป็นที่มาของการจัด งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ พร้อมนิทรรศการหมุนเวียนชุดพิเศษของศูนย์เรียนรู้ฯ เป็นประจำทุกปี จนกลายเป็นหมุดหมายความสนุกทางวิทยาศาสตร์ที่เยาวชนในพื้นที่ขนอมและภาคใต้รอคอย

ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม

“นิทรรศการพิเศษในแต่ละปีของศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอมไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเล่าประวัติศาสตร์ของโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย เพราะเมื่อบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ตั้งใจอนุรักษ์และปลุกพื้นที่แห่งนี้ให้มีชีวิตแล้ว ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ก็ต้องเป็นจุดเชื่อมไปยังโลกในอนาคตด้วย โดยเฉพาะปัจจุบันที่เราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน ศูนย์เรียนรู้ฯ ต้องการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านนวัตกรรมและพลังงาน เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นพลเมืองโลก เราเชื่อว่าการบ่มเพาะและสร้างแรงบันดาลใจจากพื้นที่การเรียนรู้ตรงนี้จะสามารถจุดประกายให้เยาวชนเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ต่อไปไม่ว่าเยาวชนจะเติบโตไปทำอะไร เราเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ที่เขาได้เรียนรู้จากตรงนี้จะยังคงอยู่”

พินทุ์สุดา เปี่ยมปิติ ผู้จัดการส่วนกิจกรรมองค์กรและสังคม ฝ่ายสื่อสารองค์กร EGCO Group เล่าถึงแนวคิดของการจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และนิทรรศการพิเศษ_ประจำปี 2568 ในพื้นที่ประวัติศาสตร์โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ ซึ่งเป็นอีกนิทรรศการวิทยาศาสตร์ประจำปีของภาคใต้ ที่เด็ก ๆ รอคอย

ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม
พินทุ์สุดา เปี่ยมปิติ ผู้จัดการส่วนกิจกรรมองค์กรและสังคม ฝ่ายสื่อสารองค์กร EGCO Group

สำหรับปี 2568 ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เนรมิตโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำให้เป็น ฐานบัญชาการลับแห่งอนาคต ในธีม EGCO Base: Mission for Change ชวนเด็ก ๆ และเยาวชนมาร่วมสวมบทบาทเป็น Re-Gen Hero ออกไปทำภารกิจช่วยพลิกฟื้น คืนสมดุลโลก (Regenerative) ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ผ่านปฏิบัติการ Triple R นั่นคือ

  • Refuse การปฏิเสธหรือยุติการทำลายความสมบูรณ์ทางธรรมชาติตั้งแต่ต้นทาง
  • Refill การฟื้นฟูและเติมความสมบูรณ์ทางธรรมชาติให้ฟื้นคืนโดยเร็ว
  • และสุดท้ายคือ Reverse เพื่อสร้างผลกระทบเชิงย้อนจากทางลบสู่ทางบวก โดยหวังผลให้โลกฟื้นคืนสมดุลสู่ความสมบูรณ์
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม

“สำหรับแนวคิด Triple R ต้องบอกว่า EGCO Group เริ่มจากความเชื่อขององค์กรที่ว่า “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” โดยปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่เราพูดกันมานาน พวกเราชาว EGCO Group เห็นพ้องกันถึงความสำคัญของการสร้างต้นทางที่ดี ว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนได้ และเราก็ขับเคลื่อนประเด็นนี้กันมาอย่างต่อเนื่อง โดยแนวคิด Triple R เกิดจากปัญหาสิ่งแวดล้อม วิกฤติการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนคาดเดาได้ยากและรุนแรงขึ้น เราเลยนำแนวคิด Regenerative หรือ การพลิกฟื้น คืนสมดุลโลก มาใช้ เพื่อตอกย้ำความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า มีความจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และต้องการให้เกิดอิมแพคดีดกลับเชิงบวกที่ใหญ่พอ ๆ กับวิกฤติที่เกิดขึ้น” พินทุ์สุดา ขยายความหมายของปฏิบัติการ Triple R ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เยาวชนเรียนรู้และลงมือทำในทันที

ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม

สำหรับนิทรรศการพิเศษปีนี้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 โซนหลัก โดยใช้บรรยากาศของโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำของจริงเป็นสถานที่จัดนิทรรศการ เริ่มจากโซนที่ 1 EGCO Base Mission: ฐานลับเปลี่ยนโลก เปิดฉากนิทรรศการด้วยบรรยากาศของฐานลับและชวนถอดรหัส Triple R ไปกับภาพยนตร์ 4 มิติ จากจุดนี้ทุกคนจะได้รับพาสปอร์ตภารกิจนำสู่โซนถัดไป

ต่อด้วยโซนที่ 2 EGCO Regenerative: ภารกิจค้นหานวัตกรรม ชวนค้นหานวัตกรรมเปลี่ยนโลกด้วยแนวคิด Regenerative ทั้งจากประเทศไทยและทั่วโลก รวมถึงไอเดียจากนวัตกรน้อยหรือเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในปี 2567 และไฮไลต์สำหรับโซนนี้คือ 30 ผลงานนวัตกรรม จากการประกวดออกแบบ “Mission for Change: Reverse the ImpactRevitalize Future Community Co-design Competition” ที่ชวนเยาวชนในพื้นที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช มาแชร์ไอเดียนวัตกรรมฟื้นฟูระบบนิเวศและชุมชน และร่วมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นำ AI มาใช้นำเสนอแนวคิด Regenerative ที่ช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์เมืองขนอมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นผลงานจากเยาวชน แต่เราได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของเยาวชนที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนของพวกเขาให้คงอยู่อย่างยั่งยืน หลายไอเดียถ้าได้รับการส่งเสริมหรือพัฒนาก็สามารถนำไปต่อยอดได้เลย

ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม

ปิดท้ายด้วยโซนที่ 3 EGCO Act Now or Never! : เปลี่ยนโลกด้วยมือเรา สนุกไปกับกิจกรรม Magic Wall ระบายสีภาพนวัตกรรม Regenerative จากนั้นแชร์ภาพขึ้นจอ พร้อมจุดถ่ายภาพแปลงร่างเป็นนวัตกรน้อย Re-Gen Hero ด้วยเทคโนโลยี AI ก่อนชวนคิดแชร์ไอเดียนวัตกรรมเปลี่ยนแปลงขนอม เพื่อฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศให้ดีขึ้นกว่าเดิม

 (จากซ้าย) ฐิติกานต์ ศรชัย สุภัสสรา ทวยเจริญ และ ญาณิศา เชิญทอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนท้องเนียนคณาภิบาล

“ชอบโซนฉายภาพยนตร์ AI เพราะเป็นภาพอนาคต ทำให้ได้รู้เหตุการณ์เกี่ยวกับอนาคต ได้ความรู้และเห็นคุณค่าของธรรมชาติมากขึ้น” สุภัสสรา ทวยเจริญ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนท้องเนียนคณาภิบาล แชร์ความรู้สึกหลังจากเข้าชมนิทรรศการ

ด้าน ญาณิศา เชิญทอง จากชั้นปีเดียวกันกล่าวว่าชื่นชอบห้อง Khanom in the Garden ซึ่งต่อยอดจากนิทรรศการ Glowing in the Dark เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพที่เคยจัดแสดงไปเมื่อปีที่แล้วและได้รับความสนใจอย่างมาก ปีนี้ได้มีการยกกลับมาให้ชมบางส่วนอีกครั้งสำหรับใครที่พลาดไป และ ฐิติกานต์ ศรชัย เพื่อนนักเรียนที่เดินทางมาด้วยกันบอกเล่าความประทับใจว่า

“ชอบกิจกรรมในโซนสุดท้าย เพราะได้ฝึกทักษะวาดรูปและลงมือทำ ก่อนหน้านี้อาจจะไม่ค่อยชอบวิทยาศาสตร์มาก แต่พอได้มาร่วมกิจกรรมก็รู้สึกว่าชอบวิทยาศาสตร์มากขึ้นไปเลย”

อีกสิ่งที่เป็นไฮไลต์ของนิทรรศการครั้งนี้ คือ การต่อยอดไอเดียจากข้อความสู่ภาพอนาคต โดยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โดยได้ความร่วมมือจากนักศึกษาสำนักวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เข้ามาช่วยทำให้ความคิดและภาพฝันในการประกวด Mission for Change ของน้อง ๆ เห็นความเป็นไปได้จริงมากขึ้น ซึ่งทาง พินทุ์สุดา ได้ให้มุมมองต่อการนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งในการประกวดและจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ว่า “เรามองว่าเราจะสามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ทำอะไรได้บ้าง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในยุคนี้และกว่าเด็ก ๆ จะโต AI จะยิ่งพัฒนาไปอีก เราจะสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญาให้เขาคุ้นชินกับการใช้สิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร โดยที่ต้องมีความตระหนักรู้ด้วยว่า AI มีหน้าที่อะไร และสามารถนำ AI มาเป็นเครื่องมือช่วยเสริมให้เราทำอะไรได้บ้าง”

หลังจากเดินทัวร์นิทรรศการจนจบ เราพบว่าความโดดเด่นของนิทรรศการพิเศษในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ปีนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ไอเดียนวัตกรรมเชิงลึก ที่ส่งต่อจากการจัดกิจกรรมในปี 2567 ที่ผ่านมา โดย เยาวชนส่วนใหญ่มีไอเดียนวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับบริบทของพื้นที่ โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่อำเภอขนอม ที่นำเสนอไอเดียแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชนซึ่งเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งเป็นมุมมองที่ผู้ใหญ่อาจคาดไม่ถึงว่าสายตาคู่เล็ก ๆ ของเยาวชนจะมองเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ ทำให้ในปี 2568 EGCO Group ได้จัดการประกวดออกแบบ Mission for Change ชวนเยาวชนในพื้นที่มาคิดต่อยอดไอเดียด้านสิ่งแวดล้อมในสเกลที่ใหญ่กว่าเดิม โดยเป้าหมายต่อไปคือ การนำไอเดียเหล่านี้ให้ไปไกลมากกว่าการประกวดและจัดแสดง แต่พร้อมส่งต่อไอเดียของเยาวชนไปยังภาครัฐในท้องถิ่น และระดับจังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้ไอเดียจากพลเมืองโลกรุ่นเยาว์ร่วมสร้างสรรค์อนาคตของชุมชน สิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้ไปด้วยกัน

“เยาวชนเหล่านี้โตขึ้นทุกวัน กระบวนการเรียนรู้ก็เกิดขึ้นทุกวันเช่นกัน การที่เยาวชนอยากเห็นว่าอนาคตบ้านเขาเป็นยังไงไม่เกี่ยวกับช่วงอายุ พอน้อง ๆ ได้ลงมือทำ เราจึงได้เห็นว่าไอเดียที่น้อง ๆคิดไม่ได้ต่างไปจากนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจริงแล้ว ยิ่งคอนเฟิร์มว่าศักยภาพของพวกเขาชัดเจนมาก ดังนั้นสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราจะทำได้ คือ การส่งเสริมให้เกิดพื้นที่แสดงศักยภาพ เปิดโอกาสและชวนให้เขามองไปถึงอนาคต แล้วนำเครื่องมือ เช่น AI เข้ามาทำงานร่วมกับเขา”

พินทุ์สุดากล่าวย้ำถึงศักยภาพเยาวชนที่ไม่ควรมองข้าม สอดคล้องกับความเชื่อของ EGCO Group ที่มุ่งดูแลต้นทางของสังคมและประเทศ นั่นก็คือเหล่าต้นกล้าเยาวชนเพื่อให้ได้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับนิทรรศการพิเศษครั้งนี้ที่เนื้อหาส่วนหนึ่งมาจากนวัตกรรมของเยาวชนในพื้นที่ที่ต้องการสร้างความยั่งยืนในชุมชนนั่นเอง

Fact File

  • ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้เข้าชมฟรี! ทุกวันอังคาร-วันเสาร์ (หยุดวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09:00-16:00 น.
  • นิทรรศการพิเศษของศูนย์เรียนรู้ฯ  ประจำปี 2568 เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันเด็กแห่งชาติปี 2569 (วันที่ 10 มกราคม 2569)
  • รายละเอียดเพิ่มเติม www.egco.com/th/khanom-learningcenter โทร. 075 -466-062 หรือ 098-014-2249

Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ

Photographer

วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
เป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่ฝั่งธนฯ เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย ต่อระดับปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มศว ประสานมิตร เมื่อเรียนจบใหม่ ๆ ทำงานเป็นผู้ช่วยดีเจคลื่นกรีนเวฟพักหนึ่ง ก่อนมาเป็นนักเขียนและช่างภาพที่กองบรรณาธิการนิตยสาร ผู้หญิงวันนี้ จากนั้นย้ายมาเป็นช่างภาพสำนักพิมพ์สารคดีปี 2539 โดยถ่ายภาพในหนังสือชุด “เพื่อความเข้าใจในแผ่นดิน” ต่อมาถ่ายภาพลงนิตยสาร สารคดี มีผลงานเช่นเรื่อง หมอเทีย ปอเนาะ เป่าแก้ว กะหล่ำปลี โรคหัวใจ โทรเลข ยางพารา ฯลฯ