Movenpick Resort Khaoyai ปราสาทกลางขุนเขาที่ใส่ใจสุขภาพของผู้เข้าพัก
Brand Story

Movenpick Resort Khaoyai ปราสาทกลางขุนเขาที่ใส่ใจสุขภาพของผู้เข้าพัก

Focus
  • Movenpick Resort Khaoyai รีสอร์ทในบรรยากาศสไตล์ยุโรป กับโอเพ่นสเปซกว้างขวางที่สามารถทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ได้ตลอดวัน ตั้งแต่ออกกำลังกายยามเช้าอย่าง Nordic Walk  หรือโซนที่เหมาะจูงมือเด็ก ๆ  ไปทำกิจกรรมอย่าง My Ozone Animal Club
  •  นอกจากจุด Instagram Spot ที่ถือว่าเป็นจุดขายแล้ว Movenpick Resort Khaoyai ยังมีในส่วนบริการด้านสุขภาพอย่าง Pacacee Wellness Khaoyai ที่มีทั้งการตรวจสุขภาพตามแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย และการทำทรีตเมนต์หรือสปา

เขาใหญ่ ชื่อนี้ดูจะกลายเป็นอีกจุดหมายสำหรับรับอากาศเย็นสบายได้เกือบตลอดทั้งปี ยิ่งเข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะไปรับลมเย็น ๆ อากาศสบาย ๆ ที่เขาใหญ่กันสักครั้ง ซึ่งนอกจากอากาศ และธรรมชาติแล้วอีกหนึ่งปัจจัยที่ใครๆ ก็รักเขาใหญ่ คือ เดินทางไม่ไกลมาก แค่ราว 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็พาเราไปถึงจุดหมาย ซึ่งปลายทางของเราในครั้งนี้คือ Movenpick Resort Khaoyai (เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่) ที่เมื่อก้าวเข้าไปแล้วเหมือนหลุดไปในอีกเมืองหนึ่งอย่างไรอย่างงั้น

หลายคนอาจเคยคุ้นที่นี่ในชื่อ My Ozone Khaoyai มาก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาเพิ่งมาเปลี่ยนชื่อเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2563 นี้เอง หลังจากได้ทีม Movenpick เครือโรงแรมสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาบริหารในส่วนของโรงแรมอย่างจริงจังขึ้น โดยยังคงรูปแบบสไตล์อาคารและพื้นที่โดยรอบเอาไว้เช่นเดิม

Movenpick Resort Khaoyai

ที่เห็นเป็นปราสาทเรียงตัวกันอยู่ คือส่วนของอาคารห้องพักที่มีอยู่เดิม 2 อาคาร และอีกหนึ่งอาคารที่ต่อเติมขึ้นใหม่ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์ช่วงกลางปี พ.ศ. 2564 แต่ละอาคารจะตกแต่งห้องพักด้วยสไตล์ที่ต่างกันไป มีตั้งแต่ตึกสไตล์เรเนซองส์ โมเดิร์นบาโรก และล่าสุดกับสไตล์โมเดิร์นยุโรป ซึ่งทุกห้องเปิดรับวิวสนามกอล์ฟที่โปร่งโล่งสบายตา นอกจากสเปซในห้องที่กว้าง วิวดีแล้ว จุดเด่นที่ชอบที่สุดของที่นี่คือทุก ๆ ห้องออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางลมเป็นหลัก ทำให้แขกที่มาพักสามารถเปิดม่านเปิดประตูออกไปรับแสงรับลมจากธรรมชาติบริเวณระเบียงได้อย่างเต็มที่

Movenpick Resort Khaoyai
Movenpick Resort Khaoyai

นอกจากห้องพักที่มีให้เลือกหลายแบบ เริ่มต้นจาก 1 ห้องนอนขนาด 44 ตารางเมตร ไปจนถึง 2 ห้องนอนและใหญ่สุดกับเพนต์เฮาส์ขนาด 3 ห้องนอน ที่นี่ยังมีส่วนของวิลลา 50 หลังที่ให้บรรยากาศเหมือนบ้านพักตากอากาศตามชื่อ Corsica ซึ่งตั้งตามชื่อเมืองตากอากาศของประเทศฝรั่งเศส เหตุผลที่ Movenpick Resort Khaoyai ตั้งใจออกแบบสไตล์ห้องพักและวิลลาให้ต่างกันเพราะตั้งใจให้แขกสามารถเลือกห้องที่ให้ความรู้สึกต่างกันไปในแต่ละครั้งที่มาเข้าพักได้แบบไม่เบื่อ โดยมีอีกหนึ่งความใส่ใจเล็ก ๆ คือการทำพื้นที่ให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถเข้าถึงในทุก ๆ พื้นที่ได้ด้วย

นอกจาก Movenpick Resort Khaoyai จะมีโอเพ่นสเปซสวย ๆ ให้รื่นรมย์ไปกับพื้นที่กว้างขวาง บวกกับมี Instagram Spots หลายจุดให้ได้พกคอสตูมมาเก็บภาพกันเพลิน ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีส่วนกิจกรรมที่ถือว่าตอบโจทย์กับทุกเพศทุกวัยแบบที่สามารถอยู่ภายในรีสอร์ตได้ชิล ๆ ตลอดวัน โดยเฉพาะคนรักสุขภาพนี่ถือว่าตอบโจทย์สุดเพราะส่วนของฟิตเนสและสระว่ายน้ำเปิดให้เข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากต้องการความเซฟหน่อย จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลในช่วงเวลา 6 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม 

Movenpick Resort Khaoyai

นอกจากนี้ยังมีศูนย์ดูแลสุขภาพอย่าง Pacacee Wellness Khaoyai พานาซีเวลเนส เขาใหญ่ ที่เปิดให้บริการอยู่ภายในอาคารต้อนรับ ติดกับโซนล็อบบี้ ใครที่หาเวลาเช็กสุขภาพอยู่ที่นี่เขามี Check Up Program แบบที่ไม่ได้จองมาก่อนก็สามารถวอล์กอินเข้าไปใช้บริการได้ โดยการตรวจสุขภาพจะเริ่มจากการกรอกประวัติ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ตรวจมวลกล้ามเนื้อ มวลไขมันและอัตราการเผาพลาญ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาเราไปที่ห้องแล็บเพื่อตรวจ Bio Body Scan ผ่านเทคโนโลยี Electro Interstitial Scan (IES) จากเยอรมนี ที่เขาเคลมว่าให้ผลแม่นยำอยู่ที่ราว 70 เปอร์เซ็นต์

การตรวจแบบ Bio Body Scan จะเป็นการส่งกระแสไฟฟ้าแบบอ่อนผ่านตัวนำเข้าสู่ร่างกาย เพื่อตรวจหาประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งจะใช้เวลาราว 3 นาทีในการประมวลผล โดยจะแสดงผล Bio Feedback ผ่านหน้าจอออกมาในลักษณะของแท่งกราฟ 9 แท่งที่จะระบุความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพเป็น 5 สีคือ สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน สีฟ้าและสีเขียว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอธิบายผลการตรวจให้เราฟังว่ามีระบบใด อวัยวะจุดไหนบ้างที่เริ่มส่อแววเสี่ยง และควรปรับพฤติกรรมอย่างไร โดยสีที่ควรระวังที่สุดคือ สีแดงและสีเหลืองที่ถือว่ามีความเสื่อมของระบบหรืออวัยวะอยู่ในระดับสูง

Movenpick Resort Khaoyai

ถัดมาอีกห้องจะเป็นการตรวจแบบ Live Blood Analysis ด้วยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วนำไปส่องผ่านกล้องเพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ซึ่งรูปลักษณะของเม็ดเลือดก็สามารถบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยโปรแกรมที่ว่ามานี้เป็นการตรวจแบบเวชศาสตร์ชะลอวัยที่จะต่างจากการตรวจสุขภาพที่คุ้นเคยกันทั่วไป โดยจะเน้นมองหาแนวโน้มความเสี่ยงด้านสุขภาพ เพื่อให้เราสามารถวางแผนปรับพฤติกรรมในการดูแลรักษาสุขภาพเพื่อชะลอความเสื่อมให้ดีขึ้น หรือวางแผนการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดต่อไปได้

Pacacee Wellness Khaoyai ยังมีในส่วนของ Treatment และ Detoxification Program เช่นการใช้โอโซนบำบัด การสวนล้างลำไส้ การให้วิตามิน ไปจนถึงส่วนของสปาดูแลผิวเปิดให้บริการอยู่ด้วย โดยสามารถวอล์กอินเข้ามาได้เช่นกัน หรือหากจองมาก่อนเขาก็มีโปรแกรมพิเศษที่จองคู่กับห้องพักอยู่เป็นระยะเช่นโปรแกรม 2 Day 1 Night กับการตรวจสุขภาพและทำการดีท็อกซ์ 1 โปรแกรม จุดนี้สามารถสอบถามโดยตรงกับทาง Panacee ได้เลย 

ตัดภาพมาที่กิจกรรมกลางแจ้งกันบ้าง นอกจากสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม พื้นที่ด้านนอกอาคารก็เหมาะมาก ๆ กับการตื่นมารับอากาศดี ๆ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายยามเช้า ลืมบอกไปว่าส่วนของฟิตเนสที่นี่เขามีคลาสโยคะ และอุปกรณ์ Nordic Walk ไว้บริการด้วยหรือก็คือการเดินเพื่อสุขภาพโดยใช้ไม้ค้ำยัน ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของกล้ามเนื้อแขน หัวไหล่ ไปจนถึงช่วยพัฒนาระบบประสาท ลดโอกาสการเกิดอัลไซเมอร์ไปในตัวเพราะในการเดินแบบ Nordic Walk เราต้องคอยควบคุมจังหวะการก้าวเท้าและไม้ค้ำยันให้สัมพันธ์กันอยู่เสมอ

โซน My Ozone Animal Club ก็เหมาะที่จะเดินจูงเด็ก ๆ เข้าไปสำรวจกัน เพราะมีทั้งคอกม้า แกะ แพะ ไก่และกระต่าย ที่เราสามารถซื้ออาหารป้อนน้อง ๆ ได้ เดินลึกเข้าไปเอาใจสายเฮลตี้โดยเฉพาะ กับแปลงผักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่มีทั้งผักสลัดอย่างกรีนโอ๊ก เบบี้เรดคอส เรดคอรัล ลูกหม่อน ไปจนถึงพืชผักสมุนไพรอย่างกะเพรา โหระพา ตะไคร้ ที่เรามั่นใจได้ว่าจะได้กินผักสด ๆ จากห้องอาหาร Flavours of Khao Yai ของที่นี่แน่นอน และหากว่าใครสนใจอยากเก็บผักสด ๆ หิ้วกลับบ้านด้วยแล้ว ก็สามารถทำได้ โดยสนนราคาอยู่ที่ราวกิโลกรัมละ 100 บาทต้น ๆ แจ้งเจ้าหน้าที่ของที่นี่ได้เลย

เรียกว่าที่นี่มีหลายมุมหลายจุดให้ได้หมุนเวียนเปลี่ยนบรรยากาศได้ตั้งแต่เช้าจดเย็น หรือจะแวะเติมพลังยามบ่ายกับ Afternnoon Tea กลางสวนที่ Castleton Cafe ระหว่างวันก็ยังได้ แต่สำหรับสาย Activity ตัวจริงที่อยากออกไปสำรวจข้างนอกดูสักหน่อย ที่นี่ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลกับเส้นทางถนนธนะรัชต์มากนัก ขับรถแวะออกไปสัมผัสบรรยากาศของเขาใหญ่ได้แบบสบาย ๆ เลย

Fact File


Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ