เปิดมุมมองชีวิตหลังไมค์เดี่ยวไมโครไฟนของ โน้ส อุดม แต้พานิช ผ่าน Lost in DOMLAND ที่อาจกลบน้ำตาด้วยเสียงหัวเราะ
Faces

เปิดมุมมองชีวิตหลังไมค์เดี่ยวไมโครไฟนของ โน้ส อุดม แต้พานิช ผ่าน Lost in DOMLAND ที่อาจกลบน้ำตาด้วยเสียงหัวเราะ

Focus
  • Lost in DOMLAND เป็นนิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งใหญ่สุดของ โน้ส-อุดม แต้พานิช เจ้าพ่อสแตนด์อัพคอมเมดี้ หรือ เดี่ยวไมโครโฟน
  • นิทรรศการรวบรวมผลงานศิลปะกว่า 1,000 ชิ้นที่ โน้ส อุดม สร้างสรรค์ไว้ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีมาจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตรของไอคอนสยาม
  • ภาพสเก็ตซ์ ภาพวาด ประติมากรรม สื่อผสม ดิจิทัลอาร์ต และ กองทัพประติมากรรมสัตว์ประหลาดที่ประกอบฉากในการแสดงเดี่ยว 13 ได้นำมาโชว์ใน 16 ห้องจัดแสดง

ภายใต้เสียงหัวเราะอาจซ่อนน้ำตา ภายใต้เรื่องตลกเฮฮาอาจกลั่นมาจากความเศร้าหมอง ภายใต้สีสันสดใสอาจเป็นการกลบเกลื่อนช่วงเวลามืดมน และภายใต้ภาพลักษณ์ของนักเล่าเรื่องตลกเสียดสีอารมณ์ดีแนวสแตนด์อัพคอมเมดี้ หรือ เดี่ยวไมโครโฟน โน้ส อุดม แต้พานิช ได้เปิดมุมมองชีวิตหลังไมค์ผ่านงานศิลปะที่เขากล่าวว่า “เป็นสิ่งที่ช่วยระบายความกดดันและรักษาสมดุลของชีวิต” กับนิทรรศการเดี่ยวชื่อ Lost in DOMLAND  ที่รวบรวมผลงานศิลปะกว่า 1,000 ชิ้น จัดแสดงบนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ณ The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2568 

โน้ส อุดม

เทรนดี้ แกลเลอรี่ ได้รวบรวมผลงานศิลปะที่ โน้ส อุดม สร้างสรรค์ไว้ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มาจัดแสดงไว้มากที่สุดในนิทรรศการนี้ตั้งแต่ ภาพสเก็ตซ์ ภาพวาด ประติมากรรม สื่อผสม และ ดิจิทัลอาร์ต ทั้งชิ้นงานขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ความสูง 6 เมตร รวมถึงชิ้นงานบางส่วนที่เคยใช้เป็นของประกอบฉากในการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนของเขามาแล้วที่สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคและวัสดุหลากหลาย อาทิ บรอนซ์รมดำ ไฟเบอร์กลาส เซรามิกเผาแบบรากุ อีพ็อกซี เหล็ก ผ้าแคนวาส ไม้ พรม และวัสดุเหลือใช้ต่างๆ ผสมผสานกับความคิดนอกกรอบออกมาเป็นคาแรคเตอร์แปลกประหลาดพิสดารที่นำมาโชว์ใน 16 ห้องจัดแสดง

โน้ส อุดม
โน้ส อุดม

ทางเข้านิทรรศการทำเป็นทางเดินแคบๆคล้ายดั่งโพรงกระต่ายให้ผู้ชมก้าวเข้าสู่การผจญภัยในโลกอันแปลกประหลาดของอุดมที่เขาเรียกว่า ดมแลนด์ หรือ DOMLAND โดยสิ่งที่ผู้ชมจะพบเจอลำดับแรกคือประติมากรรมไฟเบอร์กลาสความสูง 6 เมตรชื่อ “ลุงดม” ที่ใช้เป็นคีย์วิชวลของงานในครั้งนี้และตั้งโดดเด่นตรงกลางของห้องแรก และแน่นอนว่าต้นแบบของคาแรคเตอร์คือ โน้ส อุดม ด้วยจุดเด่นคือจมูกโตสีแดง ใส่แว่นตาสวมหมวก และแต่งชุดนักเรียนที่ล้อความเป็น “เด็กโข่ง”

ส่วนชุดนักเรียนนั้นเป็นกางเกงขาสั้นสีกากีตามแบบกางเกงทั่วไปของนักเรียนชายแต่เสื้อนักเรียนสีขาวกลับเป็นคอปกบัวคล้ายกับของนักเรียนหญิง และรองเท้าเป็นคัชชูสีชมพูช็อกกิ้งพิงค์ การใช้ความเป็นเด็กโข่งของคาแรคเตอร์ลุงดมของ โน้ส อุดม ในวัยกลางคนสื่อถึงคีย์แมสเสจอย่างหนึ่งของงานตามคำพูดของนักเขียนบทละครชื่อดังชาวไอริช จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ (George Bernard Shaw) ที่ โน้ส อุดม ได้นำคำพูดของเขามาประกอบในงานบางชิ้นที่ว่า “เราไม่ได้หยุดเล่นเพราะเราแก่ลง แต่เราแก่ลงเพราะเราหยุดเล่น”

Lost in DOMLAND

ต่อจากนั้นเป็นห้องที่เต็มไปด้วยงานสเกตซ์และงานดรออิ้งที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายจากงานสองมิติสู่งานประติมากรรมต่างๆ ผลงานทั้งหมดที่นำมาจัดแสดงเป็นคอลเลคชันส่วนตัวที่เขาได้รวบรวมไว้ตลอดเส้นทางสายศิลปะโดย โน้ส (ไม่ได้ปรากฎตัวในงานรอบสื่อ) ได้กล่าวถึงแนวคิดในการทำงานของเขาผ่านวิดีโอบทสนทนา 20 นาทีกับ นิ้วกลม-สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ในห้องจัดแสดงหนึ่งว่า “ศิลปะเป็นไดอารี่ที่บันทึกความรู้สึกในช่วงเวลานั้นๆ เป็นดอกไม้ที่ออกดอกทุกวันและไม่มีวันไหนที่ไม่ทำ เหมือนการหายใจ”

โน้ส อุดม
สัตว์ประหลาดบนสายพาน
โน้ส อุดม

ถัดมาเป็นห้องที่จัดแสดงประติมากรรมขนาดย่อมซึ่งส่วนใหญ่ถอดแบบมาจากภาพสเกตซ์ที่เขาร่างไว้เป็นคาแรคเตอร์สัตว์ประหลาดไฮบริด บางตัวดูคล้ายโดราเอมอนผสมทานูกิและสวมสร้อยสีทองลายศิวลึงค์ บางตัวเหมือนกบตาโปนแต่สันหลังเป็นรูปขั้นบันได ส่วนชิ้นงานที่เป็นเซรามิกเผาด้วยเทคนิครากุจัดแสดงในตู้กระจก และคอลเลคชันประติมากรรมเหล็กจัดแสดงในรูปแบบ “สัตว์ประหลาดบนสายพาน” โดยจัดฉากให้เหมือนกับเคาน์เตอร์บาร์ที่เสิร์ฟสายพานซูชิและเหล่ากองทัพสัตว์ประหลาดค่อยๆเคลื่อนออกมาจากอุโมงค์

“สีสันสดใสอาจกำลังกลบเกลื่อนหรือเสียดสีตัวเองหรือเปล่า ศิลปะเหมือนการเล่นตลกให้ตัวเองดู เป็นการล้อเลียนตัวเองหรือเปล่า บางทีชีวิตดาร์กก็ไม่ได้ทำสีดำ คอมเมเดี้ยนเป็นพวกที่แปรรูปความเจ็บปวดให้เป็นความตลก ไม่รู้ว่าการทำศิลปะของเราเป็นแบบนี้ไหม ยังไม่ได้วิเคราะห์จริงจัง” โน้ตกล่าวในตอนหนึ่งของวิดีโอบทสนทนา

อีกหนึ่งไฮไลต์ของนิทรรศการคือ ห้องประติมากรรมไฟเบอร์กลาสขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์หน้าตาประหลาดพิกลพิการกว่า 80 ชิ้น เช่น สัตว์มีหูเหมือนกระต่ายแต่มีหลายขาเหมือนแมงมุมใส่ส้นสูง จระเข้ยืนสองขากำลังงับหัวคน ประติมากรรมเหล่านี้เคยใช้ประกอบฉากเวที เดี่ยวไมโครโฟน 13 มาแล้วและศิลปินต้องการสื่อแมสเสจที่ว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

Lost in DOMLAND

“เวลาทำเดี่ยว เหมือนเราทำอาหารเสิร์ฟคนอื่นๆ มีทั้งคนกินวีแกน คนแพ้กลูเตน ไม่กินหมู แพ้ผงชูรส แยกแยะยิบย่อยเต็มไปหมด มันยากและเหนื่อย แต่ทำงานศิลปะเราไม่ต้องแคร์ ชอบอะไรก็ใส่เลย ใช้ความรู้สึกนำ แต่เดี่ยวใช้ความคิด เราเห็นภาพตัวเองแก่เฒ่าก็ยังทำศิลปะ แต่ไม่เห็นภาพตัวเองอยู่บนเวที” โน้สกล่าวในวิดีโอตอนหนึ่ง

Lost in DOMLAND
ห้อง มอนสเตอร์โชว์

ถัดไปเป็นห้องที่เรียกว่า “มอนสเตอร์โชว์” ที่มีเหล่าสัตว์ประหลาดสีดำด้วยวัสดุบรอนซ์รมดำยืนอยู่บนแท่นหมุนคล้ายกับการนำเสนอสินค้าในงานมอเตอร์โชว์ บนผนังข้างๆเป็นภาพวาดบนกระดานรูปทรงไม้ปิงปองที่เปรียบเสมือนการโต้ตอบบทสนทนาระหว่างศิลปินกับผู้ชม และอีกหนึ่งห้องไฮไลต์คือ ห้อง Kaleidoscope ที่มีประติมากรรม Dom Dog อยู่ตรงกลางในห้องกระจกสะท้อนฉากต่างๆโดยประติมากรรมนี้เป็นหนึ่งในผลงานซิกเนเจอร์ของ โน้ส อุดม  ที่เป็นตัวแทนความรู้สึกของการเป็น อันเดอร์ด็อก หรือผู้ที่เป็นมวยรอง

Lost in DOMLAND
ห้อง Kaleidoscope

“พ่อตายตอน 6 ขวบ แม่พาอพยพไปอยู่สุรินทร์ ไปในที่ไม่มีใครรู้จัก เราไปเข้าโรงเรียนตอนกลางเทอมกลายเป็นคนไม่เข้าพวก เป็น outsider ไว้เปียด้วยก็โดนแกล้ง โดนบูลลี่ ตั้งแต่ประถมจึงเริ่มใช้การขีดเขียน วาดรูปเป็นการบันทึก เป็นที่หลบภัย เหมือนเป็นการบำบัด ศิลปะจึงเป็นการเอาชีวิตรอดและรักษาสมดุลของสิ่งมีชีวิตชื่อ อุดม แต้พานิช”

โน้ส อุดม

จากนั้นเป็นห้องจัดแสดง “เทพทำใจ” ประติมากรรมสีทองรูปหัวกล้วยขนาดความสูง 3 เมตร และผนังสองข้างรายล้อมไปด้วยเทพทันใจองค์ขนาดย่อม แม้การจัดวางจะเหมือนกับมีเทพองค์ประธานและสาวกโดยรอบ ทางแกลลอรีระบุว่ามีไว้เตือนสติว่า “ชีวิตเป็นของเรา จะเลือกให้มันซับซ้อน หรือปล่อยให้มันง่าย?” ต่อด้วยห้องที่ปูพรมสีชมพูและจัดแสดงศิลปะจากผืนพรม ก่อนปิดท้ายด้วยชุดภาพวาดบนผืนผ้าใบขนาด 4×9 เมตร และก้าวออกจาก ดมแลนด์ พร้อมข้อความตรงพื้นทางออกว่า move on

โน้ส อุดม
Lost in DOMLAND

ด้านหน้านิทรรศการยังมีโซนจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เช่น กล่องสุ่มอาร์ตทอยลุงดม เสื้อ หมวก กระเป๋า กระบอกน้ำเก็บความเย็น และปลอกยาดม รวมไปถึงป๊อปอัพคาเฟ่ Domland x Oh My Godmother กับขนมและเครื่องดื่มที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ

โน้ส อุดม

Fact File

  • Lost in DOMLAND จัดแสดง ณ The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2568 
  • บัตรเข้าชมราคา 850 บาท ซื้อได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือ www.allticket.com/event/lostindomland และ บัตรราคา 250 บาท สำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม. (จำหน่ายหน้างานเท่านั้น)

Author

เกษศิรินทร์ ผลธรรมปาลิต
Feature Editor ประจำ Sarakadee Lite อดีต บรรณาธิการข่าวไลฟ์สไตล์ Nation ผู้นิยมคลุกวงในแวดวงศิลปวัฒนธรรมจนได้ขุดเรื่องซีฟๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ

Photographer

วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
เป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่ฝั่งธนฯ เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย ต่อระดับปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มศว ประสานมิตร เมื่อเรียนจบใหม่ ๆ ทำงานเป็นผู้ช่วยดีเจคลื่นกรีนเวฟพักหนึ่ง ก่อนมาเป็นนักเขียนและช่างภาพที่กองบรรณาธิการนิตยสาร ผู้หญิงวันนี้ จากนั้นย้ายมาเป็นช่างภาพสำนักพิมพ์สารคดีปี 2539 โดยถ่ายภาพในหนังสือชุด “เพื่อความเข้าใจในแผ่นดิน” ต่อมาถ่ายภาพลงนิตยสาร สารคดี มีผลงานเช่นเรื่อง หมอเทีย ปอเนาะ เป่าแก้ว กะหล่ำปลี โรคหัวใจ โทรเลข ยางพารา ฯลฯ