เปิดประตู Storybook Mansion บ้านที่เป็นต้นกำเนิดจินตนาการในงาน วอลท์ ดิสนีย์
Faces

เปิดประตู Storybook Mansion บ้านที่เป็นต้นกำเนิดจินตนาการในงาน วอลท์ ดิสนีย์

Focus
  • Storybook Mansion บ้านเก่าของผู้ก่อตั้งดิสนีย์หลังนี้ประกาศให้เช่าในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 บริหารจัดการโดยบริษัท Compass ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในฮอลลีวูด ราคาให้เช่าราว 4 แสนบาทต่อเดือน
  • Walt Disney’s Storybook Mansion เป็นบ้านเก่าที่ วอลท์ ดิสนีย์ เคยอาศัยอยู่กับภรรยา ลิเลียน และลูกสองคน นานเกือบ 2 ทศวรรษตั้งแต่ ค.ศ. 1932-1950

บ้านที่ได้รับฉายาว่าเป็น Storybook Mansion ที่พำนักของ วอลท์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอและดิสนีย์แลนด์ ยาวนานถึง 18 ปี  ช่วง ค.ศ. 1932-1950 ล่าสุดเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ประกาศหาผู้เช่าพร้อมเผยโฉมบ้านแห่งความสุขในยุคที่ดิสนีย์สร้างสรรค์ตัวละครและภาพยนตร์งานคลาสสิก

วอลท์ ดิสนีย์ (ภาพ :d23.com)

Walt Disney’s Storybook Mansion เป็นบ้านเก่าที่ วอลท์ ดิสนีย์ เคยอาศัยอยู่กับภรรยา ลิเลียน และลูกสองคนนานเกือบ 2 ทศวรรษตั้งแต่ ค.ศ. 1932-1950 ในช่วงเริ่มแรกของการสร้างอาณาจักรดิสนีย์ โครงสร้างและการตกแต่งตัวบ้านสะท้อนภาพจินตนาการที่คุ้นตาในงานภาพยนตร์คลาสสิกของดิสนีย์ และว่ากันว่าสถาปัตยกรรมและงานศิลปะตกแต่งในบ้านหลังนี้เป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานแอนิเมชันและตัวละครของดิสนีย์ยุคแรก รวมถึง สโนไวต์ (Snow White) และ แมรี ป็อปปินส์ (Mary Poppins)

Storybook Mansion
Walt Disney’s Storybook Mansion (ภาพ : compass.com)

บ้านนี้ถูกเรียกว่าเป็น Storybook Cottage หรือ Storybook Mansion เพราะเป็นที่พำนักของ วอลท์ ดิสนีย์ ระหว่างที่เขาสร้างสรรค์ตัวละครในงานคลาสสิกยุครุ่งเรืองของวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ หลังจากแจ้งเกิดจากการ์ตูน มิกกี้เมาส์ โดยที่ตั้งของบ้านอยู่บนย่านวอกกิงเวย์  เขตลอสเฟลีซ (Los Feliz) เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย มีพื้นที่ใช้สอย 6,400 ตารางฟุต (ประมาณ 594 ตารางเมตร) รวมบนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 6,800 ตารางฟุต (ประมาณ 632 ตารางเมตร) ตัวบ้านเป็นบ้านสองชั้น สำหรับสมาชิกในครอบครัวรวมภรรยาและลูกอีกสองคน มีห้องทั้งหมด 12 ห้อง แบ่งเป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องโฮมเทียเตอร์สำหรับดูหนังฟังเพลงภายในบ้าน ซึ่งตามประวัติบอกว่า เป็นห้องที่ วอลท์ ดิสนีย์ เอาไว้ดูฟิล์มภาพยนตร์ของดิสนีย์เพื่อตรวจงานสร้างสรรค์อย่างละเอียดด้วยตัวเองก่อนจะอนุมัติผลงานภาพยนตร์ฉบับสมบูรณ์เผยแพร่สู่สาธารณะ

Storybook Mansion
ห้องโฮมเทียเตอร์สำหรับดูหนังฟังเพลงภายในบ้านเป็นห้องที่ วอลท์ ดิสนีย์ เอาไว้ดูฟิล์มภาพยนตร์ของดิสนีย์เพื่อตรวจงานสร้างสรรค์ (ภาพ : compass.com)

ภายในตัวบ้านยังคงรักษาสภาพและรูปแบบการตกแต่งภายในไว้ตามต้นฉบับเดิม ทั้งเพดานติดไฟสว่างเรืองรอง ผนังไม้ระแนง และเตาผิงอิฐ รวมถึงหน้าต่างที่ยังเป็นวัสดุออริจินัลมองเห็นวิวเมืองลอสแอนเจลิสอย่างชัดเจน ช้้นล่างของบ้านมีพื้นที่ทางเดินที่ตกแต่งเป็นระเบียบ สระว่ายน้ำ พื้นที่รับประทานอาหารติดตั้งระแนงไม้เลื้อยโปร่งตา และโรงรถ จอดรถยนต์ได้ถึง 10 คัน  เถาไม้เลื้อยที่ขึ้นตามระแนงไม้ ผนังด้านนอก และรั้วบ้าน รวมถึงไฮไลต์บ้านเด็กเล่นธีมบ้านสโนไวต์ ซึ่งดิสนีย์สร้างให้ลูกสาวสองคนเล่นกันริมสระว่ายน้ำ เป็นภาพที่พ้องกับความเป็นบ้านแห่งผู้สร้างตำนานแห่งโลกแฟนตาซี 

Storybook Mansion
(ภาพ : compass.com)

เบื้องหลังการก่อสร้าง Storybook Mansion

หลังจากมีชื่อเสียงและรายได้จากความสำเร็จของการ์ตูนมิกกี้เมาส์ และคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดสั้น (จากเรื่อง Silly Symphonies Flowers and Trees) วอลท์ ดิสนีย์ เริ่มสร้างบ้านหลังใหม่เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่หลังจากรู้ว่า ลิเลียน ดิสนีย์ ภรรยากำลังตั้งท้องลูกคนแรก แม้ว่าทารกจะเสียชีวิตในครรภ์ แต่บ้านหลังนี้ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1932  และครอบครัวดิสนีย์ย้ายจากบ้านเดิมที่ลีริกอเวนิว (Lyric Avenue) เข้าอยู่อย่างถาวร แม้ลูกคนแรกจะเสียชีวิตในครรภ์ แต่บ้านหลังนี้ก็เป็นที่พักพิงแสนสุขของดิสนีย์พร้อมกับภรรยาลิเลียน และ ไดแอน มารี (Diane Marie) ลูกสาวที่เกิดใน ค.ศ.  1933 และ ชารอน เม (Sharon Mae) ลูกสาวบุญธรรมที่ดิสนีย์รับอุปการะใน ค.ศ. 1936 

Storybook Mansion
บ้านเด็กเล่นธีมบ้านสโนไวต์ ซึ่งดิสนีย์สร้างให้ลูกสาวสองคนเล่นกันริมสระว่ายน้ำ
(ภาพ : compass.com)

Storybook Mansion สร้างเสร็จภายในเวลาแค่ 2 เดือนด้วยงบประมาณการก่อสร้าง 5 หมื่นดอลลาร์ใน ค.ศ. 1932 งานสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมในสไตล์เฟรนช์นอร์มัง (French Norman) หรืออาคารยุคกลางที่สร้างในแคว้นนอร์มังดีของฝรั่งเศส ที่กลับมาเป็นกระแสนิยมของชาวอเมริกันในยุค 1920-1930 งานออกแบบโดย Frank Crowhurst  ซึ่งเป็นคนออกแบบอาคารสำนักงานของบริษัท Walt Disney Co. ด้วย

Storybook Mansion
บ้านดูเหมือนปราสาทเก่าในยุโรป และเป็นแบบที่คุ้นตาเหมือนปราสาทเจ้าหญิงนิทรา
(ภาพ : compass.com)

ลักษณะเด่นของอาคารที่ได้อิทธิพลสไตล์เฟรนช์นอร์มัง คือด้านหน้ามีหอคอยทรงกลมติดอยู่กับตัวบ้านตรงยอดเป็นหลังคาทรงกรวยคว่ำ ซึ่งทำให้บ้านดูเหมือนปราสาทเก่าในยุโรป และเป็นแบบที่คุ้นตาเหมือนปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty’s Castle) หนึ่งในเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เป็นตำนานในงานสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ด้วย ไฮไลต์ของบ้านยังมีบ้านเด็กเล่นธีมบ้านสโนไวต์ ซึ่งดิสนีย์สร้างให้ลูกสาวสองคนเล่นกันริมสระว่ายน้ำช่วงเวลาการพักอาศัยในบ้านหลังนี้เหลื่อมซ้อนกับช่วงเวลาที่ดิสนีย์สร้างสรรค์งานภาพยนตร์แอนิเมชันที่กลายมาเป็นผลงานคลาสสิกและเปิดตำนานของวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ ตั้งแต่งานสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวเรื่องแรกของดิสนีย์ Snow White and the Seven Dwarfs (สโนไวต์และคนแคระทั้งเจ็ด) ซึ่งเริ่มงานสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1934 และออกฉายครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1937 สร้างประวัติศาสตร์เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวเรื่องแรกที่ใช้เทคนิคเซลแอนิเมชัน (cel animation) การแอนิเมตหรือสร้างภาพเคลื่อนไหวจากภาพวาดมือทีละเฟรมลงบนแผ่นฟิล์มใสที่เรียกว่าเซล [ย่อมาจากเซลลูลอยด์ (celluloide)]  ผลงานภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องอื่นๆ ที่สร้างขึ้นในช่วงที่ วอลท์ ดิสนีย์ อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้รวมถึงเรื่องราวของหุ่นไม้พิน็อกคิโอใน Pinocchio (ออกฉาย ค.ศ. 1940), ช้างน้อยดัมโบใน Dumbo (1941), และกวางน้อยแบมบีใน Bambi (1942)

(ภาพ : compass.com)

จินตนาการสร้างสรรค์บนแผ่นฟิล์มเชื่อมโยงกับชีวิตในบ้านของวอลท์ด้วย นอกจากหลังคาทรงกรวยเหมือนยอดปราสาทที่สตอรีบุ๊กแมนชันยังมีบริเวณสวนนอกบ้านที่มีสัตว์น้อยใหญ่มาวิ่งเล่นได้ จากที่ วอลท์ ดิสนีย์ เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร   Better Homes and Garden ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ.1940 หลังจากอยู่ในบ้านของครอบครัวแสนสุขมาถึง 8 ปีว่า

“ในบริเวณบ้านของเรา มีสุนัขจิ้งจอก นกกระทา พอสซัม กระต่าย โรดรันเนอร์ นก และสัตว์ต่างๆ ซึ่งเราทำให้พวกมันรู้สึกไม่แปลกแยก”  

ขณะที่ลูกสาวสองคนที่เติบโตในบ้านหลังนี้ได้ฟังนิทานจากเรื่องราวในหนังสือวรรณกรรมเด็กอย่างเรื่องของหมีพูห์ (Winnie the Pooh) และ แมรี ป็อปปินส์ สาวใช้ที่เหาะเหินเดินอากาศลงมาตามปล่องควันได้ (Mary Poppins) ช่วงเวลานี้เอง ที่ วอลท์ ดิสนีย์ ได้วาดภาพและสร้างสรรค์ตัวละครคลาสสิกทั้งสองนี้เป็นภาพยนตร์ 

ทำเลที่ตั้งของสตอรีบุ๊กแมนชัน อยู่ใกล้กับสวนสนุกกริฟฟิทพาร์ก (Griffith Park) ซึ่งเป็นที่ที่ดิสนีย์พาครอบครัวไปพักผ่อนทำกิจกรรมร่วมกันในวันเสาร์ และเล่นเครื่องเล่น “ม้าหมุน” ที่นั่น จุดประกายให้เขาสร้างสวนสนุกที่เติมเต็มจินตนาการที่ชื่อดิสนีย์แลนด์  (Disneyland) ในเวลาต่อมานั่นเอง 

(ภาพ : compass.com)

ปีสุดท้ายของการอาศัยอยู่ในบ้านนี้ ดิสนีย์สตูดิโอส์ปล่อยงานสร้างสรรค์ที่เป็นตำนานของวงการถึงสองเรื่อง นั่นคือ Treasure Island (1950) ภาพยนตร์คนแสดงจริงหรือไลฟ์แอกชันเรื่องแรกของดิสนีย์ เล่าเรื่องราวผจญภัยในเกาะมหาสมบัติ และภาพยนตร์แอนิเมชัน Cinderella ที่มีปราสาทในเรื่องรูปแบบสถาปัตยกรรมทรงหอคอยกลมหลังคากรวยคว่ำ เป็นต้นแบบปราสาทเจ้าหญิงในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และโลโกของดิสนีย์แลนด์นั่นเอง

หลังจากอยู่บ้าน Storybook Mansion ที่มีสัญลักษณ์ยอดปราสาทเจ้าหญิงบนหลังคาและบ้านเด็กเล่นสโนไวท์มาถึง 18 ปี ครอบครัวดิสนีย์ก็ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ในพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมที่ Carolwood Drive ในย่าน Holmby Hills ชานเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นบ้าน วอลท์ ดิสนีย์ สร้างรางรถไฟและรถไฟจำลองย่อส่วนหนึ่งต่อแปดวิ่งได้จริงไว้ในบริเวณบ้านเติมเต็มความฝันวัยเด็กและตอกย้ำเจตจำนงในการสร้างรถไฟวิ่งรอบโซนสวนสนุกแมจิกคิงดอมในอาณาจักรสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่เขากำลังพัฒนาโครงการอยู่ในขณะนั้น

หน้าต่างเหล็กดัดประดับศิลปะลวดลายตัวละครจากนิทาน และบันไดวน สไตล์ยุโรป
(ภาพ : compass.com)

วอลท์ ดิสนีย์ เสียชีวิตใน ค.ศ. 1966 ที่พำนักสุดท้ายของเขาคือคฤหาสน์ได้ฉายาว่าบ้านสีเทคนิคคัลเลอร์ในฝันของวอลท์ (Walt’s technicolor dream house) เพราะแต่ละห้องในบ้านหลังนั้นตกแต่งด้วยสีสันสดใส เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ในบริเวณไร่กว้างขวางนอกเมืองใกล้กับ Smoke Tree Ranch ในเขตปาล์มสปริง (Palm Spring) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1962 เป็นที่พักพิงหลบความวุ่นวายจากงานในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา ต่อมา ค.ศ. 2015 ทายาทของดิสนีย์ได้ขายคฤหาสน์แห่งสีสันนี้ไปด้วยราคา 6.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ 

บ้านที่ได้รับฉายาว่าเป็น Storybook Mansion ถูกเปลี่ยนมือมาสู่เจ้าของคนล่าสุดที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ก่อนจะประกาศให้เช่าในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 คือ ตีมอร์ เบคมามเบตอฟ (Timur Bekmambetov) คนทำหนังชาวคาซัคสถาน  ผู้กำกับ และเขียนบทหนังแวมไพร์ระทึกขวัญ Night Watch (2004) และ Day Watch (2006) ซึ่งซื้อบ้านเก่าของดิสนีย์มาเมื่อ ค.ศ. 2011 ด้วยราคา 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผู้กำกับ เบคมามเบตอฟ เคยบอกกับฮอลลีวูดรีพอร์ตเตอร์ ว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของดิสนีย์ และแขวนภาพสเกตช์ตัวละครคลาสสิกของดิสนีย์ไว้ในบ้านและสะสมฟิกเกอร์มิกกี้เมาส์ไว้หลายตัวเลยทีเดียว

Storybook Mansion

แม้ปัจจุบันบ้านเก่าในตำนานหลังนี้จะมีเจ้าของเป็นเอกชนและเป็นที่พักอาศัย แต่บ้านหลังนี้ ก็เปิดบริการเป็นพื้นที่ให้เช่าถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง และเคยเปิดบริการให้คนภายนอกได้เยี่ยมชมเป็นวาระพิเศษ เช่น กิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ หรือการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์รวมทั้งกิจกรรมฉลองวันคล้ายวันเกิดของ วอลท์ ดิสนีย์ (5 ธันวาคม) เป็นต้น ที่จัดโดยกลุ่ม  Friends of Walt Disney’s Woking Way กลุ่มไม่แสวงกำไรที่เน้นจัดกิจกรรมเชิงประวัติศาสตร์ในย่านวอกกิงเวย์ (Woking Way) ทำเลที่ตั้งของบ้านเก่าดิสนีย์นั่นเอง โดยทางกลุ่มมีการสื่อสารผ่านทาง เพจเฟซบุ๊ก  DisneyMansion

อ้างอิง


Author

ทศพร กลิ่นหอม
นักเขียนสายบันเทิง สังคม ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ เคยประจำการอยู่ที่ เมเนจเจอร์ออนไลน์ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และรายการ ET Thailand ปัจจุบันรับจ้างทั่วไป