เที่ยวกระบี่ ฉบับ “Green Vibe” แจกพิกัดเวิร์คช็อป คาเฟ่ ร้านอาหาร มากกว่าทะเลคือไลฟ์สไตล์ที่ผสานความยั่งยืน
Lite

เที่ยวกระบี่ ฉบับ “Green Vibe” แจกพิกัดเวิร์คช็อป คาเฟ่ ร้านอาหาร มากกว่าทะเลคือไลฟ์สไตล์ที่ผสานความยั่งยืน

Focus
  • Krabi Green Vibe สร้างบรรยากาศความกรีนด้วยพิกัดเวิร์คช็อป คาเฟ่ ร้านอาหารที่เบลนด์เรื่องความยั่งยืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวกระบี่
  • ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งท้องทะเลและชายฝั่ง ทำให้บรรยากาศความกรีนของกระบี่นั้นถูกเปลี่ยนเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีให้เลือกหลากหลาย

นอกจากหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส และแหล่งท่องเที่ยวที่ติดท็อประดับโลกแล้ว “กระบี่” ยังมีมุมท่องเที่ยวสายกรีนที่ใส่รายละเอียดเรื่องความยั่งยืน ความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นแบบจัดเต็ม เช่นเดียวกับพิกัด Krabi Green Vibe ที่สร้างบรรยากาศความกรีนด้วยพิกัดเวิร์คช็อป คาเฟ่ ร้านอาหารที่เบลนด์เรื่องความยั่งยืนเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ได้กลมกลืนมาก ส่วนจะมีพิกัดไหนบ้างปกหมุดแล้วตีตั๋วมา เที่ยวกระบี่ ในฤดูกาลแห่งความยั่งยืนได้เลย

เที่ยวกระบี่

Spirit Mountain” เชื่อมโยงผู้คนกับธรรมชาติ

“กระบี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เราไม่ได้เริ่มจากจุดที่เสื่อมโทรม แต่เราต้องการแสดงให้เห็นว่ามันสามารถเป็นจังหวัดต้นแบบของการพัฒนาที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้”

ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งท้องทะเลและชายฝั่ง ทำให้บรรยากาศความกรีนของกระบี่นั้นถูกเปลี่ยนเป็นกิจกรรม เที่ยวกระบี่ ที่มีให้เลือกหลากหลาย และหนึ่งในจุดหมายคือ Spirit Mountain โดยกลุ่ม Nature Mind-ED นำเสนอประสบการณ์ที่ช่วยให้ผู้คนได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงอันเกิดจากการกลับคืนสู่ธรรมชาติ

เที่ยวกระบี่

“Spirit Mountain คือพื้นที่ทางกายภาพที่เราทำงาน ส่วน Nature Mind-ED เป็นองค์กรที่ดำเนินโครงการและงานวิจัย เราใช้ Spirit Mountain ซึ่งอยู่บริเวณเขาโต๊ะหลวง อ่าวนาง เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยงผู้คนกับธรรมชาติผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การปีนเขา ทำสวน ปลูกป่า และการเรียนรู้เกี่ยวกับความยั่งยืน”

เที่ยวกระบี่

Pierre Echaubard ผู้ก่อตั้ง Nature Mind-ED เล่าถึงคีย์ในการทำงานของ Spirit Mountain ที่เชื่อว่ามนุษย์ไม่ได้แค่ “อยู่” ในธรรมชาติ แต่มนุษย์ “เป็น” ธรรมชาติ ซึ่งNature Mind-ED ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ให้ผู้คนได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังดำเนินโครงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมระยะยาวที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อระบบนิเวศและชุมชน อย่าง CoFor-Rest Project โครงการปลูกป่าชุมชนที่เขาโต๊ะหลวง ที่ทำงานกับโรงเรียนท้องถิ่น ชาวบ้าน และอาสาสมัครจากทั่วโลก หรือโครงการ Regenerative Island Project ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูป่าชายเลนและระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่อาศัยของพะยูน และ โครงการ SEAGONG Project ซึ่งเดินหน้าอนุรักษ์หญ้าทะเลและพะยูน

เที่ยวกระบี่

“เราพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจว่าป่ามีชีวิต ไม่ใช่แค่ต้นไม้ที่ปลูกขึ้นมา ทุกครั้งที่เราไปตรวจสอบพื้นที่ ดูแลดิน หรือสังเกตการเติบโตของต้นไม้ เราไม่เพียงแค่ฟื้นฟูธรรมชาติ แต่เรากำลังสร้างความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม”

เที่ยวกระบี่

Spirit Mountain มีเป้าหมายปลายทางที่ชัดเจน นั่นคือ การทำให้กระบี่กลายเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวที่สมดุลระหว่างธรรมชาติ ผู้คน และเศรษฐกิจ เพราะเชื่อว่าหากกระบี่สามารถเป็นตัวอย่างของสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่ดี ผู้คนมีความสุข และเศรษฐกิจก็ยังสามารถเติบโตควบคู่ไปได้ สิ่งนี้จะส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจต่อในจังหวัดอื่นๆ และนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ต่อได้จริง ดังนั้นทาง Spirit Mountain จึงไม่ได้มีแค่โปรเจกต์สิ่งแวดล้อมระดับชุมชนหรือเป็นโปรเจกต์วิจัยระยะยาว แต่ยังมีกิจกรรมย่อยๆ ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติให้เข้าถึงผู้คนได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กชอป โปรแกรม Sound Healing คลาสเรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม Kids Camps กิจกรรมปีนผาอย่างเข้าใจธรรมชาติ ไปจนถึง Eco Community Market ซึ่งหมุนเวียนกิจกรรมตลอดปีสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ

ที่อยู่ : อ่าวนาง จังหวัดกระบี่

ดูตารางกิจกรรม : spiritmountain-krabi.com หรือ FB : Spirit Mountain Krabi

SFTS Artisan Cafe” เปลี่ยนขยะทะเลให้เป็นเวิร์คช็อป

Souvenirs from the sea หรือ SFTS แบรนด์ไลฟ์สไตล์สายกรีนที่มีจุดเริ่มต้นจากการเดินชายหาดทุกวันของ ณ – วิยะดา โค้วศานติ ความคุ้นเคยกับทะเลและหาดทรายทำให้ ณ มองเห็นอีกด้านนอกเหนือจากความสวยงามนั่นคือปริมาณขยะบนชายหาดที่มีเยอะมากและดูจะมากขึ้นทุกวัน เมื่อเห็นแบบนั้นใจที่เป็นนักออกแบบและห่วงอนาคตของธรรมชาติจังหวัดกระบี่ เธอจึงคิดว่าจะทำอย่างไรได้บ้างกับขยะทะเลเหล่านั้น จนเกิดเป็นไอเดียการ upcycling ต่อยอดเปลี่ยนขยะที่ถูกคลื่นซัดมาทิ้งบนชายหาดอย่างลูกทุ่นและเศษเชือกอวน เปลี่ยนมาเป็นกระเป๋าบ้าง พวงกุญแจบ้าง และจากการทำใช้กันเองในหมู่เพื่อนๆ ก็ขยายกลายเป็นแบรนด์ Souvenirs from the sea ในที่สุด ทำต่อเนื่องเรื่อยมาจนตอนนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 แล้ว

ชุบชีวิตขยะทะเลให้เป็นสินค้าดีไซน์

ปัจจุบันเธอร่วมมือกับชาวบ้านชุมชนเกาะลันตา เกาะลิบง และเกาะกันตัง เพื่อช่วยกันในส่วนของการเก็บขยะและทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ ส่วน ณ รับหน้าที่หลักด้านการออกแบบ เธอกล่าวว่า ลูกทุ่นนั้นมีสีที่สวยสะดุดตาอยู่แล้วจึงต่อยอดสู่งานดีไซน์ได้ไม่ยาก โดยขยะที่เก็บมาได้จะนำไปทำความสะอาดก่อนนำมาใช้โดยไม่ต้องผ่านสารเคมีหรือกระบวนการอุตสาหกรรมใดๆ เสริมแค่เพียงคลังวัสดุอย่างผ้าที่เลือกหาเศษผ้าไม่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ผ้าปลายม้วนจากโรงงานที่ตัดทิ้ง เมื่อนำมารวมกันกับขยะทะเลก็กลายเป็นของชิ้นใหม่ที่ใช้งานได้จริง ดีไซน์ร่วมสมัย ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ทนทานและใช้งานไปได้อีกนาน

ปัจจุบัน Souvenirs from the sea ได้มีการเพิ่มเติมส่วนของเวิร์กช็อปมาได้ราว 2 ปี สำหรับใครที่อยากใช้จินตนาการและสมาธิลงมือสร้างสรรค์เปลี่ยนขยะจากทะเลเป็นไลฟ์สไตล์แฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปตกแต่งกระเป๋าหรือทำพวงกุญแจจากขยะทะเล ทาง Souvenirs from the sea มีทั้งทีมจัดกิจกรรมนอกสถานที่และเปิดคาเฟ่ SFTS Artisan Cafe ขึ้นมารองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถแวะมาเวิร์กช็อปไปด้วยและรับประทานขนมดื่มกาแฟจิบชาไปด้วยได้ ซึ่งสำหรับ SFTS แล้วนอกจากความสุขและสนุกแล้ว ณ ก็หวังว่าเมื่อใครก็ตามได้มาลงมือทำหรือใช้ผลิตภัณฑ์ของ SFTS จะเกิดความภูมิใจและเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังทำ รวมทั้งให้ทุกคนได้ร่วมเป็นจุดเล็กๆ ในการมีส่วนช่วยจัดการขยะ และรักษาทะเลกระบี่ให้สวยงามต่อไป

ที่อยู่ : ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

โทร. : 089-353-6924

เปิดทำการ : อังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.

Pansook Eco Store & Tea Room ร้านรีฟิลแห่งแรกของกระบี่

ร้านรีฟิลแห่งแรกในจังหวัดกระบี่ที่ชวนทุกคนมาสร้างความคุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์รักษ์โลกที่เริ่มได้ง่ายๆ ด้วยการสนับสนุนการผลิตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลุกปั้นร้านมาปันสุขโดย อุ๊-อันติกา ศรีรักษา ที่ทำงานร่วมกับสมาคม TOCA หรือสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ในการมองหาซัปพลายเชน รวบรวมผลิตภัณฑ์จากแหล่งปลูกอินทรีย์และผลิตในประเทศไทยมาเป็นทางเลือกสายกรีนที่ใกล้กับทุกคนยิ่งขึ้น

สินค้ารีฟิลของที่นี่มีตั้งแต่หมวดอาหารที่เน้นไปทางธัญพืช ผลไม้แห้ง ลูกเดือย ถั่วประเภทต่างๆ หรืองาที่มาจากการปลูกหลังฤดูเก็บเกี่ยวของแปลงปลูกข้าวอินทรีย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าสายสุขภาพ เสริมด้วยหมวดไลฟ์สไตล์ที่มีครบทั้งในรูปแบบสเตชันรีฟีลสบู่ แชมพู หรือของใช้ในบ้านอย่างเซรามิก ผ้าเคลือบขี้ผึ้ง น้ำมันนวด หรือเทียนหอม อีกทั้งทาง Pansook ยังเป็นจุดรับพลาสติกยืดเพื่อรวบรวมและจัดส่งให้กับโครงการวนและ Ocyco เพื่อนำไปรีไซเคิลและใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ใครที่รวบรวมไว้แล้วไม่รู้จะจัดการหรือส่งต่ออย่างไรก็ตรงมาที่นี่ได้เลย

อุ๊-อันติกา ศรีรักษา เจ้าของร้าน

ไม่เท่านั้นบริเวณชั้น 2 ของร้านเปิดเป็นทีรูมที่บริการชาและขนมในบรรยากาศสบายๆ ร่วมกับพื้นที่เวิร์กช็อปเบลนด์ชาที่สามารถจองทั้งแบบไพรเวท 1-2 คนหรือแบบกลุ่ม 6-12 คนแวะมาผ่อนคลายทำกิจกรรมเบลนด์ชา ผสมตัวนั้นเข้ากับตัวนี้แล้วรับชาสูตรที่ตัวเองชอบบรรจุแพ็กเกจขวดแก้วน่ารักๆ เป็นที่ระลึก ใบชาของที่นี่คัดสรรจากไร่ชา จังหวัดเชียงราย ที่อุ๊เดินทางไปทดลองและเลือกมาด้วยตัวเองพร้อมกับใบรับรอง USDA ที่รับรองมาตรฐานออร์แกนิก บ่งบอกแหล่งกำเนิดและสายพันธุ์ของชา ด้านหลังร้านมีสวนปลูกโรสแมรี เป็ปเปอร์มินต์ และดอกไม้กินได้สำหรับนำมาตกแต่ง รวมถึงบ้านชันโรงในการช่วยสร้างระบบนิเวศ ด้านขยะไบโออย่างกากใบชาหรือเศษขนมเหลือทิ้งที่นี่ก็วางระบบจัดการขยะโดยการมีพื้นที่คอมโพสต์ย่อยเศษอาหารด้านหลังร้านเลยเพื่อลดจำนวนขยะให้ได้มากที่สุด และอีกหนึ่งสิ่งที่ทางร้านให้ความสำคัญคือการงดใช้ซิงเกิลยูสพลาสติกเช่นเลือกใช้หลอดจากรำข้าวสาลีที่เมื่อใช้งานแล้วสามารถนำไปย่อยสลายได้เลยเช่นกัน

ที่อยู่ : ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

โทร. : 093-328-0268 หรือ FB : Pansook Eco Store & Tea Room

เปิดทำการ : อังคาร – อาทิตย์ เวลา 10:00-17:30 น.

“Rustiya ผ้าพิมพ์พฤกษา” รู้จักพรรณไม้กระบี่กว่า 60 ชนิดผ่านผ้าพิมพ์

จากกระเป๋าผ้าญี่ปุ่นสู่ผ้าย้อมสีธรรมชาติและผ้าพิมพ์พฤกษาที่ “รักคุณ และ “รักษ์โลก” ของ ป้าจิ๋ม-รัสติญา ลิ้มตระกูล หญิงหัวใจคราฟต์ที่หลงใหลในโลกของใบไม้ดอกไม้ นำมาสู่มิติใหม่ของงานศิลปะที่นำสีสันของพรรณไม้ในจังหวัดกระบี่มาแต่งแต้มและจดจำผ่านผืนผ้า ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์จำพวกกระเป๋าผ้า ย่าม หรือหมวกที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถนำเรื่องความยั่งยืนมาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ได้อย่างกลมกลืน อีกทั้งดอกไม้ ใบพื้นถิ่นเขตร้อนเหล่านี้ยังได้ออกเดินทางไปกับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนจังหวัดกระบี่ในรูปแบบของฝากที่มีชิ้นเดียวเท่านั้น

จุดเริ่มต้นของงานย้อมผ้าสีธรรมชาติเริ่มต้นหลังสถานการณ์โควิด-19 วิกฤตครั้งนั้นทำให้ป้าจิ๋มที่เดิมทีเปิดร้านกระเป๋าผ้าญี่ปุ่นต้องหยุดร้านชั่วคราว และใช้เวลานั้นในการมองหาเทคนิคใหม่ๆ จนทดลองและได้เจอกับผ้าพิมพ์ Eco Print ที่ทำให้ใบไม้ในสวนรอบบ้านเกิดเป็นผลลัพธ์ที่มีทั้งสีสันสวยสบายตา และสิ่งสำคัญคือได้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มจนถึงกระบวนการสุดท้าย โดยป้าจิ๋มจะเลือกใช้ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าเรยอน และซาตินจากเมืองไทยเป็นหลัก บวกกับใบไม้ในท้องถิ่นที่หาได้ง่ายในจังหวัดกระบี่และสวนที่เธอปลูกเอง อย่างใบเพกา ใบสบู่แดง ดอกดาวกระจาย และใบละหุ่ง ป้าจิ๋มย้ำว่าใบไม้ทำให้เราสามารถจินตนาการไปได้ไม่รู้จบ เพราะใบไม้แต่ละใบ ดอกไม้แต่ละดอกก็ให้ลวดลายและสีที่ต่างกัน และจากจุดเริ่มของการย้อมสีธรรมชาตินี่เองที่จุดประกายให้เธอสังเกตและค้นพบใบไม้พื้นถิ่นในจังหวัดกระบี่มากถึง 60 ชนิด

ด้านกระบวนการตั้งแต่ขั้นตอนย้อมผ้าแบบ Eco Print นั้นจะไม่เจือวัสดุที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดย Rustiya เลือกใช้สารส้มและน้ำส้มสายชูในการช่วยให้ผ้าติดสี ส่วนสีสันของผ้าก็ได้มาจากเปลือกแสม ใบหูกวาง และใบยางพาราเป็นส่วนใหญ่ โดยการย้อมผ้าเธอจะปล่อยให้น้ำสำหรับย้อมสีซึมเข้าเส้นด้ายจนหมดทำให้ไม่เหลือน้ำทิ้งก่อนนำมาตากแดด ทุกๆ ขั้นตอนเชื่อมโยงกับธรรมชาติ นั่นทำให้ป้าจิ๋มยังคงสนุกกับการได้ใช้เวลาและความคิดสร้างสรรค์ลวดลายจากใบไม้บนผืนผ้า ไม่ได้เพียงทำแค่ของที่ระลึก แต่ยังขยายสู่เวิร์กช็อปชวนคนที่สนใจสีสันธรรมชาติมาลองลงมือทำด้วยกัน และได้ผลงานฝีมือตัวเองกลับไป ไม่ว่าจะเป็นผ้าคลุมไหล่ กระเป๋าผ้า หรือเสื้อยืด แต่ด้วยสถานที่ที่จำกัดตอนนี้ เธอจึงเปิดเวิร์กช็อปเป็นโปรแกรมพิเศษร่วมกับ ณ สุข เวลเนส รีสอร์ท (Na Sook Wellness Resort) แต่หากใครไป เที่ยวกระบี่ แล้วมองหากิจกรรมสายคราฟต์ ต้องการคลาสส่วนตัวแบบ 5-10 คนก็สามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์และมองหาสถานที่ให้ได้เช่นกัน

ที่อยู่ : ถนนประชาอุทิศ ตำบลทับปริก อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

โทร. : 081-536-2851 หรือ Facebook : Rustiya ผ้าพิมพ์พฤกษา

เปิดทำการ : ติดต่อกิจกรรมเวิร์กช็อปล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 วัน 

“ร้านอาหารเรือนไม้ กระบี่” ลิ้มรสชาติท้องถิ่น กลมกล่อมความยั่งยืน

ร้านอาหารพื้นเมืองจังหวัดกระบี่ที่เปิดทำการมานานกว่า 36 ปี โดย อมฤต ศิริพรจุฑากุล ผู้บุกเบิกแนวคิด Krabi Go Green และวางแผนด้านสิ่งแวดล้อมให้กับร้านเรือนไม้มาตั้งแต่โลเคชันแรกจนถึงปัจจุบัน เขาเริ่มจากการวางแลนด์สเคปเพื่อเก็บรักษาต้นไม้เดิมไว้ให้ได้มากที่สุด วางระบบจัดการน้ำเสียและขยะ จนถึงโครงสร้างหลังคาทรงโดมที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านที่นี่เลือกใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุหลัก ปัจจุบันร้านปักหมุดอยู่ระหว่างทางไปอ่าวนางในแบบที่เขากล่าวว่า ยิ่งทำยิ่งเล็ก แต่จะเพิ่มประสิทธิภาพและรายละเอียดมากขึ้น

แม้จะเปิดทำการมากว่า 36 ปี แต่ร้านเรือนไม้ยังคงคอนเซปต์เดิมเหมือนวันแรกคือการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและถ้าไม่ใช่ของกระบี่ก็ไม่ขาย ในส่วนของวัตถุดิบที่นี่เชื่อมโยงกับชุมชนประมงท้องถิ่น เช่น ชุมชนไหนหนังที่ทางร้านเลือกใช้อาหารทะเลอย่างกุ้ง ปลา กะปิ ซึ่งนอกเหนือจากการรับซื้อยังสนับสนุนชุมชนให้เกิดการทำ Smart Farmer และผลักดันเรื่องธนาคารแหอวนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับขยะในทะเลด้วยการแปรรูปหรือทำเป็นของที่ระลึก รวมถึงการชวนพนักงานร้านเรือนไม้ไปเยี่ยมเยียนกลุ่มชาวบ้านประมงเพื่อสัมผัสและเข้าใจในสิ่งที่ต้องร่วมมือช่วยกันทำ ด้วยเห็นว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่สามารถทำเฉพาะคนใดคนหนึ่งได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเริ่มก่อนที่จะบอกให้คนอื่นทำ

เที่ยวกระบี่

ด้านอาหารที่นี่โดดเด่นด้วยเมนูฉบับท้องถิ่นที่มีการปรุงแบบถึงเครื่อง อย่างเช่นน้ำพริกกุ้งเสียบ ผัดกะปิสะตอ ปลาอินทรีย์ทอดซีอิ๊ว แต่วัตถุดิบที่เขาว่าบางคนโชคดีไปแล้วจะได้กิน คือ สาหร่ายขนนก เพราะเป็นวัตถุดิบที่หายาก จะพบได้ตามแนวป่าโกงกางโดยเฉพาะในบริเวณที่น้ำสะอาด ปัจจุบันอมฤตกล่าวว่าเขายังคงทำและพัฒนาไปเรื่อยๆ โดยในตอนนี้พยายามลดขยะจากต้นทางให้ได้มากที่สุด ในส่วนที่เหลือมีการคัดแยกสำหรับทำปุ๋ยหมักและน้ำจุลินทรีย์ EM ประกอบกับตั้งเป้าลดการใช้พลังงานโดยมีการใช้โซลาร์เซลล์เข้ามาช่วยเสริม

ที่อยู่ : ถนนกระบี่-เขาทอง ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

โทร. : 089-288-3232 FB : ruenmaikrabirestuarant

เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 10.30-15.00 และ 17.00-21.00 น.

เที่ยวกระบี่

Shine-Talay อาหารจากท้องทะเลที่เล่าวิถีชาวเลลันตา

มองเผินๆ Shine-Talay ที่แปลตรงตัวว่า “ชายทะเล” อาจจะดูไม่ต่างจากร้านอาหารทะเลที่มีอยู่หลายแห่งบนเกาะลันตา ทว่าหากได้ลองนั่งลงฟังเรื่องเล่าก้นครัวจาก ท็อป-ว่าที่ร้อยตรี เกียรติศักดิ์ สุขแก้ว เจ้าของร้านซึ่งพ่วงตำแหน่งที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา Shine-Talay ได้สอดแทรกวิถีชาวเลบนเกาะลันตาโดยเฉพาะวิถีชาวเลอูรักลาโว้ยไว้ในเมนูต่างๆ ของร้านซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองเก่าชุมชนศรีรายา โดยตัวร้านยังคงอนุรักษ์รูปแบบของห้องแถวไม้แบบเก่าที่เรียกว่า “บ้านยาว” ที่คล้ายกับในมะละกา เป็นห้องแถวหน้าแคบ แต่ตัวบ้านมีความยาวจากถนนไปสู่ทะเลไม่ต่ำกว่า 80 เมตร ซึ่งในสมัยก่อนแต่ละบ้านมีที่จอดเรืออยู่ท้ายบ้านกันเลย

เที่ยวกระบี่
ว่าที่ร้อยตรี เกียรติศักดิ์ สุขแก้ว เจ้าของร้าน Shine-Talay

ด้านเมนู Shine-Talay จัดเสิร์ฟอาหารทะเลเป็นหลัก เน้นวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลจากประมงพื้นบ้านโดยรับซื้อจากชาวประมงโดยตรง โดยเฉพาะชาวเลในชุมชนอูรักลาโว้ยที่บ้านหัวแหลม และบ้านสังกาอู้ ซึ่งชาวเลอูรักลาโว้ยนั้นตั้งถิ่นฐานบนเกาะลันตามานานนับ 500 ปี โดยเหตุผลที่ทางร้านตั้งใจสนับสนุนชุมชนชาวเลชาวเลอูรักลาโว้ยก็เพื่อต้องการสนับสนุนวิถีประมงดั้งเดิมให้คงอยู่ เช่น การดำน้ำด้วยหน้ากากเปล่าเพื่อจับกุ้งมังกร หอยแครงไซซ์ใหญ่ที่ใช้วิธีเก็บมือ การจับปลาโดยใช้ลอบดักปลาแบบดั้งเดิม

เที่ยวกระบี่

“การจับปลาด้วยวิถีดั้งเดิมอาจจะไม่ได้ในเรื่องของปริมาณ เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าเราจะเอาปลาอะไร จำนวนเท่าไร ชาวเลเวลาเขาจับอะไรมาได้เท่าไร เราก็จะรับซื้อตามนั้น ซึ่งทางเราก็จะมีปลาจากแพปลาบนเกาะลันตาที่เขารับซื้อจากชาวเลบนเกาะมาเสริมด้วย”

ยั่งยืน
เมนูซาชิมิที่ใช้ปลาดิบไทย

นอกจากการสนับสนุนประมงพื้นถิ่นแล้ว ทางร้านยังสนับสนุนปูจากธนาคารปูบนเกาะปอ และเพิ่มมูลค่าปลาพื้นบ้านด้วยการนำมาทำเมนูซาชิมิหรือปลาดิบแบบญี่ปุ่น “ท้องทะเลเกาะลันตาอุดมสมบูรณ์มาก แต่ปลาพื้นบ้านหลายชนิดกลับไม่ได้มีราคาที่ดีนักในท้องตลาด ร้านเราเองตั้งใจอยู่แล้วว่าต้องการสนับสนุนประมงพื้นบ้าน ก็เลยทำการศึกษาวิธีการทำปลาดิบแบบญี่ปุ่น ซึ่งต้องมีเทคนิครีดเลือดปลา เอจจิงปลา และนำมาปรับใช้กับปลาพื้นบ้านไทย แต่ความยากคือผมทำเองไม่ได้ เพราะการรีดเลือดปลาแบบญี่ปุ่นต้องทำตั้งแต่บนเรือ เราก็เลยต้องมีการถ่ายทอดความรู้นี้ให้กับชาวเลบนเกาะซึ่งสมาคมท่องเที่ยวผู้ประกอบการบนเกาะลันตาเองก็สนใจ ทำให้ตอนนี้ซาชิมิปลาไทยเป็นอีกเมนูที่ขึ้นชื่อของร้านเราเองและอีกหลายร้านบนลันตา”

ที่อยู่ : ย่านเมืองเก่าศรีรายา เกาะลันตาใหญ่ จังหวัดกระบี่

โทร. : 095-287-9495 FB : Shine-Talay 

เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น.


Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ