Stillsuit ชุดแห่งอนาคตจาก Dune ที่กลั่นน้ำเสียจากร่างกายมนุษย์ให้เป็นน้ำดื่ม
Lite

Stillsuit ชุดแห่งอนาคตจาก Dune ที่กลั่นน้ำเสียจากร่างกายมนุษย์ให้เป็นน้ำดื่ม

Focus
  • Dune เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน เล่าเหตุการณ์ในยุคอนาคตพันปีข้างหน้ากับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจข้ามกาแล็กซี และภัยพิบัติทางธรรมชาติบนดวงดาวอันโหดร้ายและแห้งแล้ง
  • Stillsuit (สติลสูท) คือไฮไลต์การออกแบบเครื่องแต่งกายที่น่าสนใจ เพราะในดวงดาวที่แห้งแล้งบอดี้สูทตัวนี้คือแหล่งน้ำแหล่งเดียวที่มี

ความสนุกอย่างหนึ่งของนวนิยายไซไฟคือจินตนาการเกี่ยวกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งนักเขียนไซไฟมืออาชีพจะไม่ได้เขียนสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาลอย ๆ หลายคนอ้างอิงต่อจากงานทดลองวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่จริง บ้างคิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มว่ากำลังจะเกิดขึ้น บางคนก็ทดลองสร้างเครื่องมือต่าง ๆ ขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ และสำหรับนวนิยายไซไฟขึ้นหิ้งอย่าง Dune สิ่งที่น่าจับตามองคือจินตนาการเสื้อผ้ากับเทคโนโลยีเพื่อการอยู่รอด เป็นชุดไฮเทคแห่งอนาคตบนดาวทะเลทราย โดยในภาพยนตร์ไซไฟ Dune ซึ่งดัดแปลงจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert, ค.ศ.1920-1986) นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้จินตนาการเรื่องเสื้อผ้าในโลกอนาคตเรียกว่า Stillsuit (สติลสูท)

Stillsuit คือ ชุดบอดี้สูท ของชาวเฟรเมน (Fremen) บนดาวอาร์ราคิส (Arrakis) ซึ่งเป็นดวงดาวที่ไม่มีแหล่งน้ำบนพื้นพิภพเหลืออยู่เลย แหล่งน้ำแห่งเดียวที่มนุษย์ต้องใช้คือน้ำจากของเสียที่ออกมาจากร่างกายของมนุษย์เอง บอดี้สูทบนพิภพที่ไม่มีแหล่งน้ำจึงถูกออกแบบใหม่มีคุณสมบัติสำคัญคือต้องสามารถรีไซเคิลน้ำเสียที่ออกมาจากแหล่งผลิตน้ำหนึ่งเดียวคือร่างกายมนุษย์ให้กลับกลายเป็นน้ำสะอาดดื่มได้ อีกทั้งชุดสูทนี้ยังต้องเป็นเหมือนเกราะหุ้มร่างปกคลุมทั้งตัว เพื่อรักษาน้ำในร่างกายของผู้สวมใส่ไม่ให้ระเหยออกจากร่างกายโดยง่ายไปพร้อมกัน

Stillsuit ใน Dune มีลักษณะเป็นชุดบอดี้สูทมาพร้อมหน้ากากมีท่อเชื่อมต่อและฝังอยู่ภายใต้ชุด แน่นอนว่ามีถังบำบัดและถังกักเก็บน้ำสะอาดพร้อมดื่มอยู่ในตัวด้วยเพื่อรีไซเคิลน้ำของเสียจากร่างกาย ในที่นี้หมายรวมทั้งเหงื่อและปัสสาวะให้คืนกลับมาเป็นน้ำสะอาดเก็บกักไว้ในกระเป๋าพิเศษที่หน้าตาเหมือนกระบอกน้ำสนามของทหาร ซึ่งผู้สวมใส่จะมีน้ำสะอาดดื่มชดเชยน้ำในร่างกายที่เสียไปจากเหงื่อและปัสสาวะ ทำให้ผู้สวมใส่สามารถอยู่รอดได้ในทะเลทรายอันแห้งแล้งบนดาวอาร์ราคิส

เมื่อน้ำทุกหยดที่ออกจากร่างกายมีค่ายิ่งกว่าทอง ชุดนี้จึงต้องมีอุปกรณ์เสียบที่บริเวณจมูกเพื่อรองรับเหงื่อและน้ำแบบไอระเหยที่จะออกมาจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีหน้ากากซึ่งดูเผิน ๆ เหมือนหน้ากากกันฝุ่นในทะเลทราย แต่จริง ๆ แล้วหน้ากากนี้เชื่อมต่อกับตัวชุดบริเวณช่วงคอ เวลาใช้ให้ดึงขึ้นมาครอบส่วนกึ่งกลางใบหน้าจากสันจมูกลงมาจนถึงปกปิดคาง เป็นหน้ากากที่ทำให้น้ำหรือเหงื่อจากใบหน้าถูกนำไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้กลับมาเป็นน้ำสะอาดดื่มได้เช่นกัน

และด้วยหลักการทำงานของชุดที่ว่ามานี้ทำให้ผู้สวมชุด Stillsuit มีโอกาสสูญเสียน้ำเพียง 15 มิลลิเมตรต่อวันเท่านั้น ถือว่าร่างกายเสียน้ำไปเพียงเล็กน้อย และนั่นก็สนับสนุนเหตุผลว่าทำไมมนุษย์บนดาวอาร์ราคิส กลุ่มนี้จึงมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อความร้อนแล้งในทะเลทรายที่ไม่เหลือแหล่งน้ำบนผืนพิภพอยู่เลยได้

คอนเซ็ปต์ของชุด Stillsuit ไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นใหม่ในฉากภาพยนตร์ แต่เป็นจินตนาการดั้งเดิมของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ผู้เขียนนิยายต้นฉบับที่ตั้งใจสร้างสรรค์ชุดนี้ขึ้นมา และในฉบับดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ปี ค.ศ. 2021 โดยผู้กำกับ เดนิส วิลเนิร์ฟ (Denis Villeneuve) ก็ได้มอบหมายให้นักออกแบบเครื่องแต่งกาย 2 คน แจ็คเกอลีน เวสต์ (Jacqueline West) กับ บ็อบ มอร์แกน (Bob Morgan) รับหน้าที่พัฒนาจากจินตนาการในนวนิยายให้กลายมาเป็นเสื้อผ้าให้ตัวละครสวมใส่

Dune
บ็อบ มอร์แกน (ซ้าย) แจ็คเกอลีน เวสต์ และ เดนิส วิลเนิร์ฟ (ขวา)

ถึงแม้ชุดสติลสูทที่พระเอกของเรื่อง และพวกพ้องชาวเฟรเมนแห่งดาวอาร์ราคิสสวมใส่ในภาพยนตร์จะเป็นเพียงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ ไม่สามารถรีไซเคิลเหงื่อและปัสสาวะได้ในชีวิตจริง แต่การออกแบบต้องทำให้มันดูเหมือนใช้งานได้จริง ดังที่แจ็คเกอลีน เวสต์กับบ็อบ มอร์แกน นักออกแบบเครื่องแต่งกายบอกว่า

“ความท้าทายอยู่ที่การทำให้มันดูเหมือนใช้งานได้และสวยงามด้วย”

แม้ชุดจริงจะไม่สามารถบำบัดน้ำได้ แต่ด้วยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์คือทะเลทราย นักออกแบบเครื่องแต่งกายจึงต้องให้ความสำคัญกับโจทย์เรื่องวัสดุที่ช่วยให้นักแสดงที่ต้องใส่ชุดสูทรัดทั้งวันถ่ายทำภาพยนตร์ได้สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่ใช้ในการประกอบสร้างชุดสติลสูทในภาพยนตร์มีการเลือกใช้เส้นใยอะคริลิก (Acrylic Fibers) และเส้นใยคอตตอนทอหลวม (Porous Cottons) ที่มีคุณสมบัติในการระบายเหงื่อได้ดีมาก อีกทั้ง เป็นเกราะป้องกันความร้อนให้นักแสดงในการทำงานบนโลกความเป็นจริงได้เป็นอย่างดี ทำให้นักแสดงที่สวมชุดสติลสูทถ่ายทำกลางฉากในทะเลทรายของจริงที่ประเทศจอร์แดน และชายแดนอิสราเอล-จอร์แดนนั้นรู้สึกเย็นสบายไม่เป็นลมแดดกันไปเสียก่อน

Dune

นอกจากชุดสติลสูทแล้ว เครื่องแต่งกายของชาวเฟรเมนแห่งอาร์รีคิสยังมีแอ็กเซสเซอรีสำคัญอีก 2 ชิ้นนั่นก็คือ เสื้อคลุม และ ผ้าคลุม (คลุมไหล่ไปจนถึงศีรษะหรือเป็นผ้าพันคอ) ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องดีไซน์แต่ยังรองรับฟังก์ชันการใช้งานในภูมิประเทศแบบทะเลทรายและภารกิจที่ต้องร่อนเร่หลบเร้นและเป็นนักรบสู้ศึกกับกองทัพที่มีกำลังพลมากกว่า อย่างไรก็ตามนักออกแบบเครื่องแต่งกายก็ไม่ลืมมิติของความสวยงามที่จะทำให้ผู้ชมภาพยนตร์มีความรู้สึกร่วมกับภาพยนตร์มากขึ้นอย่างที่ บ็อบ มอร์แกน หนึ่งในผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ภาพยนตร์อธิบายว่า

“เราเพิ่มเสื้อคลุมและผ้าคลุมลงไปจนแทบจะดูเหมือนชุดพรางตัว ผ้าคลุมสีทรายที่โบกสะบัดช่วยเสริมชุด(สติลสูท)ด้านในที่เป็นสีเทาและผ้าคลุมที่พลิ้วไหวไปตามลมยิ่งช่วยเพิ่มสัมผัสชวนฝัน”

Dune

สำหรับดาวอาร์ราคิสในจินตนาการของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต นั้นมีสภาพภูมิศาสตร์เป็นทะเลทราย ส่วนสถานที่การถ่ายทำเวอร์ชันภาพยนตร์ปี 2021 นั้นเลือกทะเลทรายของประเทศจอร์แดน โดยนักออกแบบเครื่องแต่งกายจึงอิงการออกแบบเสื้อผ้าให้ตัวละครบนดาวอาร์ราคิสตามสีของวัสดุในธรรมชาติของทะเลทรายจอร์แดนซึ่ งไม่ได้เป็นสีทรายเหลืองแกมทอง หรือเงาหม่นเทาของก้อนหินอย่างเดียว แต่มีสีสันแบบสีส้มปะการัง สีชมพูกุหลาบ สีส้มแบบลูกพีช และสีแทน เฉดผสมน้ำตาลอ่อนจางกับสีเบจขณะที่สีชุดสติลสูทตามต้นฉบับนิยายคือ สีเทา สีที่ให้ผลในการพรางตัว

เรื่องย่อ ภาพยนตร์Dune

เหตุการณ์ในยุคอนาคตพันปีข้างหน้า เรื่องราวของ พอล อะเทรดีส (Paul Atreides) ชายหนุ่มที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การผจญภัยในยุคสมัยที่เกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจข้ามกาแล็กซี การแย่งชิงระหว่างตระกูลต่าง ๆ การปะทะกับชนเผ่า การกดขี่ทางสังคม และภัยพิบัติทางธรรมชาติบนดวงดาวอันโหดร้ายและแห้งแล้งโชคชะตาได้นำพาพอล อะเทรดีสมาสู่ดาวอาร์ราคิสดินแดนที่เป็นทะเลทราย

ดาวอาร์ราคิสหรือที่ชนเผ่าของดินแดนนี้เรียกว่า ดูน เป็นที่ตั้งอารยธรรมมนุษย์ของชนเผ่าที่มีชื่อว่าเฟรเมน อาร์ราคิสเป็นดินแดนที่มีการแย่งชิงกันอย่างดุเดือดมาหลายรุ่นแล้ว มนุษย์ต่อสู้กันเพื่อให้ได้ควบคุมสไปซ์ ทรัพยากรธรรมชาติอันเลอค่าหายากและช่วยขยายศักยภาพของจิต ซึ่งเป็นรากฐานของการเดินทางในอวกาศ ความรู้ การค้า และการดำรงอยู่ของมนุษย์ แต่ผู้ที่ต้องการเก็บสไปซ์จะต้องอยู่รอดให้ได้ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ พายุทรายที่รุนแรงระดับเฮอร์ริเคน และหนอนทรายขนาดมหึมาซึ่งเป็นที่เกรงกลัวและยำเกรงเฉกเช่นเทพเจ้า

อ้างอิง


Author

ทศพร กลิ่นหอม
นักเขียนสายบันเทิง สังคม ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ เคยประจำการอยู่ที่ เมเนจเจอร์ออนไลน์ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และรายการ ET Thailand ปัจจุบันรับจ้างทั่วไป