
กางเต็นท์ใต้ทะเลดาว ตามหาลานดอกไม้กลางป่าสนที่ ภูสอยดาว
- อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ในอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำภาค และลำน้ำปาด รวมทั้งยังเป็นเทือกเขากั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว
- นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้เวลาท่องเที่ยวภูสอยดาว 3 วัน 2 คืน โดยระยะเวลาเดินจากจุดเริ่มต้นขึ้นไปจนถึงลานสนที่เป็นลานกางเต็นท์บนความสูง 1,633 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
ต้อนรับความฉ่ำเย็นของฤดูฝนกับการเปิดฤดูกาลเดินป่าตามหา “น้ำค้างกลางเที่ยง” ที่ ภูสอยดาว จุดหมายการเดินป่าที่เพิ่มระดับจากภูกระดึงมาสู่ความท้าทายของการเดินป่าหน้าฝนที่มีทั้งความชันของเส้นทาง ผสมความลื่นของทางเดินธรรมชาติยามฝนพรำ แต่นั่นก็คุ้มค่าที่ได้รู้ว่าปลายทางคือความอลังการของทุ่งดอกไม้สีม่วง ดอกหงอนนาค ซึ่งปูเป็นพรมอยู่ใต้ลานสน และจะผลิบานออกดอกสีม่วงกลางสายหมอกเพียงปีละครั้งยามฝนพรำ แซมด้วยดอกกระดุมเงิน ดอกกุง ลิลลี่ป่า และดอกเอื้องหมายนา



อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ในอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำภาค และลำน้ำปาด รวมทั้งยังเป็นเทือกเขากั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว โดยมียอดภูสอยดาว ความสูง 2,102 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นยอดเขาสูงลำดับที่ 4 ของประเทศไทย สภาพป่าภูสอยดาวมีความหลากหลาย แตกต่างกันไปตามระดับความสูง ประกอบด้วยป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา แต่ที่เด่นและเป็นเหมือนไอโคนิคของ ภูสอยดาว ก็คือ ป่าสนเขา ที่ทำให้ทิวทัศน์ของภูสอยดาวเป็นเอกลักษณ์และต่างจากภูอื่นๆ อย่างชัดเจน



หากเปรียมภูกระดึงเป็นปฐมบทของการเดินป่า ภูสอยดาวถือว่าเป็นจุดหมายสำหรับการอัพสกิลที่มีทางเดินพอสบายๆ ทางที่ท้าทายการปีนป่าย และทางที่ลื่นชันด้วยเลนจากน้ำฝนสลับกัน ระหว่างทางไม่มีร้านรวงระหว่างทางให้ได้เติมกำลังใจ ตลอดสองข้างทางคือผืนป่าธรรมชาติ เส้นทางเป็นดินที่เมื่อเจอฝนจะเป็นเลนทำให้ต้องเตรียมทั้งรองเท้ากันลื่น เสื้อกันฝน และไม้เท้าเดินป่าเพื่อพยุงให้เดินมั่นคงยิ่งขึ้น


นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้เวลาท่องเที่ยวภูสอยดาว 3 วัน 2 คืน โดยระยะเวลาเดินจากจุดเริ่มต้นขึ้นไปจนถึงลานสนที่เป็นลานกางเต็นท์บนความสูง 1,633 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่ที่ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร เรียกว่าถ้าเดินกันแบบไม่เร่ง หรือเจอฝนระหว่างทางก็ใช้เวลาเกือบวันถึงจะถึงลานกางเต็นท์ ต้องผ่าน 5 เนิน ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ จากนั้นค้างแรมใต้ลานสน วันถัดไปจึงจะเป็นโปรแกรมเที่ยวน้ำตก ทุ่งดอกไม้ และใช้เวลาอีกวันสำหรับเดินกลับลงจากเขา



แต่สำหรับใครที่ต้องการความท้าทายในการจะพิชิตยอดภูสอยดาว แนะนำให้ขยายเวลาเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวันสำหรับเส้นเดินไปพิชิตยอดภูสอยดาวโดยเฉพาะ ซึ่งเส้นทางพิชิตยอดภูสอยดาวมีความลาดชันสูง ต้องอาศัยทักษะการปีนป่าย เกาะเชือกช่วยดึงตัวเกือบตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเดินขึ้นว่ายากแล้ว บอกไว้ตรงนี้เลยว่า เดินลงยิ่งยากกว่า แต่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่เพิ่มทักษะการเดินป่าได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะเจ้าหน้าที่จะมีอุปกรณ์นิรภัยอย่างหมวกและเข็ดขัดให้สวมใส่ รวมทั้งให้คำแนะนำเทคนิคการเดินจนเรามั่นใจ


สำหรับจุดท่องเที่ยวยอดนิยมบนลานสน ได้แก่ ลานสนสามใบและทุ่งดอกไม้ซึ่งมีดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา ดอกหญ้ารากหอมที่จะบานในในฤดูฝน และดอกกระดุมเงินที่จะบานในฤดูหนาว ซึ่งการที่อากาศบนภูในฤดูฝนมีความชื้น สายหมอกฝน และน้ำค้างที่แรงตลอดคืนทำให้ดอกหงอนนาคมีละอองน้ำเกาะแม้แสงแดดออกก็ยังเป็นประกายได้ฉายาว่า “น้ำค้างกลางเที่ยง” ส่วนน้ำตกไฮไลต์คือ น้ำตกสายทิพย์ นอกจากนี้ยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตก และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณหลักเขตไทย-ลาว

การพักแรมบนภูสอยดาว
ด้านการพักแรมบน ภูสอยดาว นั้นเป็นลานกางเต็นท์ นักท่องเที่ยวต้องประกอบอาหารเอง แต่ก็จะมีอาหารขายบ้างบริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยว เป็นอาหารง่ายๆ อย่างข้าวไข่เจียว บะหมี่และโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม กาแฟสำเร็จรูป ส่วนการใช้ห้องน้ำบนลานสน นักท่องเที่ยวจะต้องรองน้ำใส่ถังจากก๊อกน้ำบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ และสามารถเช่าถังน้ำและขันตักน้ำ ได้ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวบนลานสน รวมทั้งมีบริการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญ

ฤดูกาลท่องเที่ยวภูสอยดาว
ภูสอยดาวแบ่งฤดูกาลท่องเที่ยวประจำปีเป็น 2 ช่วง สลับกับช่วงที่ให้ธรรมชาติได้พักฟื้นและเว้นช่วงที่น้ำป่าไหลหลาก โดยแบ่งเป็นฤดูฝน และฤดูหนาว ดังนี้
ฤดูฝน (กรกฎาคม- กันยายน) เป็นช่วงที่บริเวณลานสน จะละลานตาไปด้วยดอกหงอนนาค ที่ชูช่อสีม่วง สลับซับซ้อนกับต้นสนสามใบ ท่ามกลางความเขียวขจี และไอหมอกหลังฝนพรำ
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน- มกราคม) เป็นช่วงที่เปิดให้ขึ้นไปบนยอดสูงสุดของ ภูสอยดาว ที่ระดับความสูง 2,102 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เส้นทางนี้มีความลาดชันสูง ต้องปีนป่าย เกาะเชือกช่วยดึงตัวเกือบตลอดทั้งเส้นทาง เดินขึ้นว่ายากแล้ว เดินลงยิ่งยากกว่า เป็นอีกประสบการณ์เดินป่าที่จะสร้างความทรงจำได้ดี สำหรับผู้ที่สนใจขึ้นยอดภูสอยดาวจะต้องจองคิวล่วงหน้า จำกัดจำนวนการขึ้น 80 คนต่อวัน มีค่าใช้จ่าย 500 บาท ต่อคนพร้อมอุปกรณ์นิรภัยให้สวมใส่

การลงทะเบียนก่อนขึ้นอุทยานฯ
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดให้ท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ในช่วงเดือน กรกฏาคม – ต้นมกราคม ของทุกปี โดยนักท่องเที่ยวต้องจองเต็นท์ที่พักล่วงหน้า จากนั้นในแต่ละฤดูกาลจะเริ่มให้รับบัตรคิวลงทะเบียนขึ้นลานสน ตั้งแต่ เวลา 00:01-12:30 น. (รับบัตรคิวได้ที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว) และเปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่เวลา 08:00-13:00 น. โดยหลังเวลา 13:00 น. ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนและเดินขึ้นลานสน
Fact File
- นักท่องเที่ยวสามารถจองพื้นที่กางเต็นท์และอุปกรณ์กางเต็นท์ได้ล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติ nps.dnp.go.th/reservation.php หรือสอบถามรายละเอียด โทร 095-629-9528 หรือ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
- สำหรับผู้สนใจพิชิตยอดภูสอยดาวนั้นจะเปิดให้ขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นมกราคมเท่านั้นโดยจะต้องจองล่วงหน้าเช่นกัน
- ค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่เสียค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ยังมีค่าประกันอุบัติเหตุเพิ่มเติมอีกคนละ 10 บาท
- ค่าบริการหาบสัมภาระ 1 กิโลกรัมละ 30 บาท
