ทำไมกล่องแอร์เมสสีส้ม เหตุผลที่สหประชาชาติใช้สีฟ้า ทำไมแวนโก๊ะตกหลุมรักสีเหลือง สำรวจประวัติศาสตร์และความหมายของ 75 เฉดสีผ่าน มหัศจรรย์แห่งสี
Lite

ทำไมกล่องแอร์เมสสีส้ม เหตุผลที่สหประชาชาติใช้สีฟ้า ทำไมแวนโก๊ะตกหลุมรักสีเหลือง สำรวจประวัติศาสตร์และความหมายของ 75 เฉดสีผ่าน มหัศจรรย์แห่งสี

Focus
  • หนังสือ มหัศจรรย์แห่งสี (The Secret Lives of Colour) โดย แคสเซีย เซนต์แคลร์ เจาะประวัติศาสตร์และต้นกำเนิดของสี ค่านิยม วัฒนธรรม และความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แฝงภายใต้ 75 เฉดสี
  • หนังสือไล่ตั้งแต่สีธรรมดา เช่น ส้ม แดง น้ำเงิน ฟ้า ไปจนถึงสีพิเศษ เช่น ฮีลิโอโทรป ฟิวซ์หรือสีหมัด และสีชมพูเบเกอร์-มิลเลอร์
  • ชวนค้นหาว่าทำไมกล่องแอร์เมสเป็นสีส้ม เหตุผลที่สหประชาชาติใช้พื้นหลังโลโกเป็นสีฟ้า และทำไมแวนโก๊ะจึงตกหลุมรักสีเหลือง

ส้ม แดง น้ำเงิน ฟ้า สีไหนคือสีโปรดของคุณ…นี่ไม่ใช่การทำโพลสำรวจความนิยมของพรรคการเมือง แต่เป็นการชวนผู้อ่านร่วมสำรวจประวัติศาสตร์และค้นหาต้นกำเนิดของสี ค่านิยม วัฒนธรรม และความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แฝงภายใต้เฉดสีต่างๆ ในแต่ละยุคสมัยผ่านหนังสือชื่อ มหัศจรรย์แห่งสี (The Secret Lives of Colour) โดย แคสเซีย เซนต์แคลร์ (Kassia St Clair) และแปลโดย พลอยแสง เอกญาติ ที่แบ่งเนื้อหาตามหมวดหมู่สีและอธิบายประวัติศาสตร์ฉบับย่อของทั้ง 75 เฉดสี พร้อมกับอภิธานศัพท์ (หรือตัวอย่างสี) ของสีอื่นๆ ที่น่าสนใจกับลิสต์หนังสือที่แนะนำให้อ่านเพิ่มเติมในท้ายเล่ม

มหัศจรรย์แห่งสี

หนังสือ มหัศจรรย์แห่งสี ไล่ตั้งแต่สีธรรมดา เช่น ส้ม แดง น้ำเงิน ฟ้า ไปจนถึงสีพิเศษที่อาจไม่คุ้นหูและไม่คุ้นตา เช่น ฮีลิโอโทรป (heliotrope) สีม่วงที่นิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และแฝงถึงความขบถดังในบทละครเสียดสีสังคมเรื่อง An Ideal Husband ของ ออสการ์ ไวลด์ ที่ให้นางเอกเปิดตัวด้วยเสื้อผ้าสีนี้  สีฟิวซ์หรือสีหมัด (puce) ซึ่งเป็นสีม่วงอมน้ำตาลที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 (Louis XVI) แห่งฝรั่งเศสได้ค่อนขอดสีชุดที่ พระนางมารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) กำลังลองว่าสีเหมือนคราบเลือดแห้งของหมัด แต่กลับทำให้สีนี้ได้รับความนิยมในวงสตรีชั้นสูงในยุคนั้นและเป็นหนึ่งในสีชุดที่พระองค์สวมใส่ขณะถูกจองจำในคุกก่อนโดนประหารชีวิต  และสีชมพูเบเกอร์-มิลเลอร์ (baker-miller pink) ที่เกิดจากสองนายทหารของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาชื่อว่า Gene Baker และ Ron Miller ผู้ทดลองเปลี่ยนห้องขังให้กลายเป็นสีชมพูโทนแสนหวานในช่วงเวลาที่อเมริกามีอัตราการเกิดอาชญากรรมเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายศตวรรษที่ 1970 เพื่อหวังลดทอนอารมณ์ความรุนแรงของผู้ต้องขัง

มหัศจรรย์แห่งสี

สีส้ม ซึ่งเป็นสีตรงข้ามกับสีน้ำเงินในชาร์ตสีสื่อถึงความมีชีวิตชีวาและความเชื่อมั่น  การสร้างแบรนด์ให้ตัวเอง (personal branding) ด้วยสีส้มมีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อ วิลเลียมที่ 1 เจ้าชายแห่งออเรนจ์ (Wiliam I, Prince of Orange) เป็นผู้นำการต่อสู้เพื่อเอกราชจากสเปนและก่อตั้งราชวงศ์ออเรนจ์ที่ปกครองเนเธอร์แลนด์มาจนถึงปัจจุบัน สีส้มดัตช์ (Dutch Orange) จึงเป็นทั้งสีประจำราชวงศ์และสีประจำชาติ  นอกจากนี้สีส้มยังเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ แอร์เมส (Hermès) กับกล่องสีส้มและริบบิ้นสีน้ำตาลซึ่งแท้จริงแล้วมีที่มาจากวิกฤตหลังสงครามโลกครั้งที่ 2  ในช่วงภาวะขาดแคลนที่ทางบริษัทไม่สามารถหากล่องสินค้าโทนครีมและเบจเหมือนเดิมได้ จึงจำเป็นต้องใช้กระดาษแข็งสีเดียวที่หาได้ในตอนนั้นคือสีส้มจนกลายเป็น DNA เนื่องจากเห็นชัด จำง่าย ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีชีวิต อีกทั้งยังโดดเด่นแตกต่างกับแบรนด์หรูอื่นที่นิยมสีขาว ทอง และดำ

มหัศจรรย์แห่งสี

สีแดง เป็นสีที่สื่อได้หลากหลายความหมายตั้งแต่เป็นสีแห่งความสุข โชคลาภ อำนาจ กามารมณ์ และอันตราย  และประมาณ 70% ของธงชาติทั่วโลกมีสีแดงปรากฏอยู่เพื่อสื่อถึงความเป็นชาติ เพราะเชื่อมโยงถึงเลือดหรือชีวิต  นอกจากนี้ในบันทึกหลายเล่มเกี่ยวกับการประหาร ราชินีแมรีแห่งสกอตแลนด์ (Mary Queen of Scots) ใน ค.ศ. 1587 ระบุว่าพระนางแมรีถอดชุดด้านนอกที่เป็นสีขมุกขมัวเพื่อเผยให้เห็นชุดกระโปรงด้านในเป็น สีแดงสการ์เลต (scarlet) เนื่องจากสีแดงสำหรับนิกายคาทอลิกที่พระองค์นับถือเกี่ยวข้องกับผู้พลีชีพเพื่อศาสนา  ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามมองว่าสีแดงคือราคะและบาปที่เชื่อมโยงกับโสเภณีแห่งบาบิโลน ในพระคัมภีร์ไบเบิล ทำให้เหตุการณ์สะเทือนใจนี้เป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งทางอำนาจและศาสนาในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 16

มหัศจรรย์แห่งสี

ในดวงตามนุษย์นอกจากเซลล์ที่ใช้มองเห็นภาพแล้ว ยังมีเซลล์พิเศษอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นเซลล์ประสาทรับแสงและไวต่อแสง สีน้ำเงิน เป็นพิเศษซึ่งโดยธรรมชาติจะปรากฏเข้มข้นที่สุดในยามเช้าจึงกำหนดนาฬิกาชีวภาพ (circadian rhythm) ทำให้เราหลับตอนกลางคืนและตื่นตอนกลางวัน และแม้แต่ผู้พิการทางสายตาที่จอประสาทตาหรือเส้นประสาทตาไม่ได้ถูกทำลายทั้งหมดก็สามารถรับรู้แสงนี้ได้  ส่วนในยุคอียิปต์โบราณ สีน้ำเงินอียิปต์ (Egyptian blue) เป็นตัวแทนของท้องฟ้า แม่น้ำไนล์ และความศักดิ์สิทธิ์ โดยภาพวาดของเทพหลายองค์เป็นสีน้ำเงิน เพราะเชื่อว่ามีพลังขับไล่ความชั่วร้าย

มหัศจรรย์แห่งสี

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สหประชาชาติถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับโลโกรูปแผนที่โลกโอบด้วยกิ่งมะกอกคู่หนึ่งบนพื้นหลัง สีฟ้าเซรูเลียน (cerulean) ด้วยเหตุผลว่า “ตรงข้ามกับสีแดงที่เป็นสีสงคราม” และเซรูเลียนยังเป็นหนึ่งในเฉดสีที่ศิลปิน ปาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso) ใช้ในช่วงผลงานที่เรียกว่ายุคสีน้ำเงิน หรือ Blue Period (ค.ศ. 1901-1904) ซึ่งเขาใช้สีน้ำเงินโทนหม่นหมองเป็นหลักเพื่อสื่อถึงความเศร้า ความทุกข์ ความยากจน ความเหงา และการสูญเสีย ซึ่งเป็นผลมาจากการตายของน้องสาวและเพื่อนสนิทและช่วงชีวิตที่ยากลำบาก

มหัศจรรย์แห่งสี

ในหนังสือ มหัศจรรย์แห่งสี เต็มไปด้วยเกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับสีต่างๆ มากมาย เช่น สีเหลืองโครม (chrome yellow) ที่ศิลปิน วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh) ตกหลุมรักและใช้สร้างสรรค์ผลงานที่มีชื่อเสียงต่อมามากมาย เช่น Sunflowers, The Yellow House, Café Terrace at Night และ The Bedroom ในช่วงที่เขาย้ายจากปารีสไปอยู่ที่เมืองอาร์ล (Arles) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและเกิดความประทับใจกับธรรมชาติที่สดใสโดยเฉพาะแสงแดดที่ให้ความอบอุ่นและพลังชีวิต หรือในภาพวาด พระนางซูสีไทเฮา โดย แคทารีน ออกัสตา คาร์ล (Katharine Augusta Carl) ได้ถ่ายทอดฉลองพระองค์ในชุดผ้าไหม สีเหลืองอิมพีเรียล (imperial yellow) ซึ่งเป็นสีสงวนสำหรับราชวงศ์เท่านั้น

เซนต์แคลร์ เป็นอดีตผู้ช่วยบรรณาธิการด้านหนังสือและศิลปะที่ The Economist และเขียนบทความวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องสีให้กับนิตยสาร Elle Decoration ของอังกฤษจนจุดประกายให้เขียนหนังสือเล่มหนาที่มีจำนวน 464 หน้า แต่ในแต่ละบทที่กล่าวถึงสีแต่ละสีนั้นมีความยาวเพียง 2-4 หน้า ทำให้อ่านง่ายโดยไม่ต้องกลัวกับความหนาของหนังสือ  อีกทั้งเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดว่าแต่ละสีที่เขียนถึงมีเฉดอย่างไร ขอบกระดาษของหน้านั้นจะพิมพ์แถบสีที่กล่าวถึงกำกับไว้ด้วย  นอกจากนี้ทางสำนักพิมพ์ openbooks ยังมีลูกเล่นโดยจัดทำปกแจ็กเกตหนังสือทั้งหมด 10 สี ให้ผู้อ่านได้เลือกปกตามสีที่ชอบ

เมื่ออ่านจบแล้วอาจจะทำให้เรามองสีโปรดหรือสีที่ไม่เคยชอบได้หลายมิติและลุ่มลึกมากขึ้นก็เป็นได้  

เครดิตภาพ : openbooks

Fact File
มหัศจรรย์แห่งสี (The Secret Lives of Colour)

ผู้เขียน : แคสเซีย เซนต์แคลร์ (Kassia St Clair)

ผู้แปล : พลอยแสง เอกญาติ

สำนักพิมพ์ : openbooks


Author

เกษศิรินทร์ ผลธรรมปาลิต
Feature Editor ประจำ Sarakadee Lite อดีต บรรณาธิการข่าวไลฟ์สไตล์ Nation ผู้นิยมคลุกวงในแวดวงศิลปวัฒนธรรมจนได้ขุดเรื่องซีฟๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ