![ปักหมุด 13 โลเคชันไฮไลต์ Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw28.jpg)
ปักหมุด 13 โลเคชันไฮไลต์ Bangkok Design Week 2023
- Bangkok Design Week 2023 มาในธีม urban ‘NICE’ zation หรือ เมือง-มิตร-ดี แบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 ย่านหลักทั่วกรุงเทพฯ
- งานดีไซน์ที่นำมาจัดแสดงเชื่อมโยงไปกับวิถีของย่าน ทั้งยังเป็นงานดีไซน์ที่เข้ามาสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในเมืองที่เปลี่ยนไไป และสะท้อนความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ยังคงอัตลักษณ์ของชุมชนต่างๆ ในเมืองหลวง กรุงเทพฯ
เดือนกุมภาพันธ์มาพร้อมกับอีเวนต์ดีๆ ทั่วเมืองที่โถมมารัวๆ แบบอยากได้คาถาแยกร่างกันเลยทีเดียว เพราะแค่ Bangkok Design Week 2023 ก็โปรแกรมแน่นมากจนอยากให้จัดไปตลอดทั้งเดือนจะได้มีเวลาฮ็อปไปเก็บได้ครบทุกย่าน ความน่าสนใจของปีนี้คือเขามากับธีมที่ชื่อว่า urban ‘NICE’ zation หรือ เมือง-มิตร-ดี แบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 ย่านหลัก ซึ่งความน่าสนใจของงานออกแบบ งานดีไซน์ที่จัดแสดงในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตรงตามคอนเซ็ปต์ของเทศกาล แต่ยังเชื่อมโยงไปกับวิถีของย่าน ทั้งยังเป็นงานดีไซน์ที่เข้ามาช่วยหาทางออกในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในเมืองที่เปลี่ยนไป อีกทั้งยังสะท้อนความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ยังคงอัตลักษณ์ของชุมชนต่างๆ ในเมือง
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw14.jpg)
Bangkok Design Week 2023 จัดแสดงตลอด 9 วันระหว่างวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 บางย่านสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ และบางย่านอาจต้องเดินทางไกลสักหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะพลาดชิ้นไฮไลต์สำคัญ เพราะเราปักหมุดบอกพิกัดไว้ให้แล้ว เปิดลิสต์ตามโลเคชันทั้งหมดนี้ได้เลย
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw4.jpg)
01 TCDC อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก
ง่ายที่สุดคือเริ่มจากจุดเซ็นเตอร์อย่าง TCDC อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก เพราะย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย ถือเป็นต้นแบบย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่นำร่องมาแล้วถึง 6 ปี จุดนี้ส่วนใหญ่เน้นเรื่องความยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนำเสนอผ่านโปรดักต์และคอนเซปต์ดีไซน์ อาทิ DesignPLANT: BETTER CITY ที่แกลเลอรี ชั้น 1 (อาคารส่วนหลัง) ที่กลุ่มนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ 24 ทีมต่างปล่อยไอเดียสนุกๆ มาแบบไม่มียั้ง อย่างเช่น การจัดระเบียบสายไฟที่พะรุงพะรังบนท้องถนนออกมาเป็นที่บังแดดให้คนได้หลบร่มระหว่างรอข้ามถนน หรือการนำสิ่งที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างล็อตเตอรีไปมิกซ์กับฟังก์ชันของบุหรี่ ห่อหมากฝรั่ง หรือหน้ากากอนามัย
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw15.jpg)
แต่มากไปกว่านั้นคือนิทรรศการที่จัดเชื่อมกันในชื่อ Bangkok Spoken รวบรวมภาพถ่ายซึ่งเปรียบเสมือนเสียงอีกหลายๆ เสียงที่สะท้อนปัญหาของผู้อยู่อาศัยจริงในเมืองและชุมชน ที่มักมาพร้อมวิธีแก้ปัญหาจากการหยิบจับสิ่งรอบตัวมาดัดแปลงแบบง่ายๆ สะท้อนแรงบันดาลใจเบื้องหลังการออกแบบที่มาจากความต้องการจริงที่อาจถูกมองข้ามไป
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw19.jpg)
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw18.jpg)
อีกจุดที่อยากชวนไปดูคืองาน Taiwan Design Power บริเวณชั้น 2 เพราะเขามากับนวัตกรรมงานดีไซน์ของไต้หวันที่หากใครเคยมาชมครั้งก่อนๆ จะรู้ว่าแต่ละชิ้นล้วนมาจากวัสดุรีไซเคิลและโดยมากก็แปรรูปเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ปีนี้มากับธีม Chain Chain หรือแนวคิดระบบหมุนเวียน ที่สำคัญคือมีวางจำหน่ายแล้วจริงๆ ชิ้นไฮไลต์เราขอยกให้คือ แว่นตา Hibang วัสดุทำมาจากไนลอนที่รีไซเคิลจากอวนจับปลา และที่ไม่น้อยหน้าคือแบรนด์ Picupi นำเสนอน้ำยาซักผ้าที่รีไซเคิลจากแคลเซียมเปลือกหอย ล้ำไปถึงบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากขวดนมพลาสติกอีกขั้น ใครอยากตำตามไปส่องใน Pinkoi ได้เลย
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw16.jpg)
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw17.jpg)
Waste is more บริเวณหน้าอาคารไปรษณีย์กลางเป็นอีกงานที่น่าสนใจในแง่ของวัสดุหมุนเวียนและการแก้ปัญหาด้วยงานออกแบบ ด้วยงานดีไซน์จาก 8 ดีไซน์เนอร์ โดยเฉพาะแบรนด์ MORE ซึ่งมี 3 หัวใจหลักคือ ความยั่งยืน นวัตกรรม และความสร้างสรรค์ที่สะท้อนออกมาเป็นมุมมองต่อขยะในฐานะวัสดุไม่ไร้ค่า เปลี่ยนของเหลือใกล้ตัวกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ ตั้งแต่เศษใบอ้อยจากอุตสาหกรรมน้ำตาลซึ่งโดยปกติมักทำลายด้วยการเผาที่ส่งผลกระทบต่อปัญหามลพิษในอากาศ กลับกันดีไซน์เนอร์เลือกดึงจุดเด่นของเส้นใยใบอ้อยมาเปลี่ยนเป็นวัสดุจักสานที่สามารถใช้ประโยชน์ต่อไปได้อีกครั้งหนึ่ง
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw20.jpg)
02 อาคารชัยพัฒนศิลป์
จะเป็นอย่างไรหากเราออกแบบงานศพให้ตัวเองได้ก่อนตาย?
อันที่จริงในยุคสมัยนี้การวางแผนเตรียมความพร้อมก่อนตายถือเป็นอีกสิ่งที่คนหันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะสบายใจต่อเราในการได้เลือกความทรงจำสุดท้ายของตัวเอง ยังมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระต่อผู้อื่นที่ต้องจัดการธุระแทนเราไปได้อีกหนึ่งอย่าง การออกแบบงานศพให้ตัวเอง จัดแสดงโดย สุริยา 2499 หรือ สุริยาหีบศพ ธุรกิจโลงศพและบริการหลังความตายแบบครบวงจร ครั้งนี้ร่วมมือกับแบรนด์ย่อยในชื่อ บริบุญ โดยทายาทรุ่น 3 บริษัทที่มีบริการส่งต่อบุญผ่านการซื้อพวงหรีดและบริจาคโลงศพ นำเสนอแนวคิดการจัดงานศพในรูปแบบต่างๆ ทดลองดีไซน์ออกมาตามช่วงอายุที่สะท้อนถึงความต้องการในชีวิตที่ต่างกันในแต่ละวัย ใจความสำคัญคือเพื่อให้แนวคิดนี้ขยับมาใกล้เราอีกหน่อยและเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเลือกที่จะทำได้
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw22.jpg)
03 ลานกีฬาริมน้ำเจ้าพระยา โบสถ์กาลหว่าร์
สนามกีฬาหลังเลิกเรียนกำลังคึกคักไปด้วยเด็กๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่หากเรามีพื้นที่สาธารณะให้วิ่งเล่นและหย่อนใจอยู่ใกล้ตัวในระดับที่ไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไปหาก็คงจะดียิ่งกว่า Green Hacker โดย we!park เลยเริ่มภารกิจเปลี่ยน 7 พื้นที่ร้างไซซ์จิ๋วให้เป็นพื้นที่สีเขียว หนึ่งในนั้นคือลานกีฬาริมน้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าโบสถ์กาลหว่าร์ และด้วยความที่จุดนี้อยู่ในเขตโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กลุ่มคนที่มาใช้จึงเป็นเด็กๆ ทีม we!park เลยดีไซน์พื้นที่ให้มีความสดใสและส่งเสริมให้เกิดการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการละเล่นตั้งเต การจัดเก้าอี้แบบล้อมวงให้เกิดการพูดคุยกันหรือการขีดเส้นวงสีบนพื้นก็เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดให้เด็กๆ มากระโดดเล่นกันได้ตามแต่จินตนาการ
04 MRT วัดมังกร ทางออก 2
ผ่านมาทางนี้อาจจะเพลินเอาได้ เพราะภายในสถานี MRT วัดมังกรบริเวณทางออก 2 ถูกเนรมิตให้เป็นโซนเกมแล้วเรียบร้อย โดยกลุ่ม City Trooper X Academic Program ไอเดียของกลุ่มนักศึกษาด้านการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์และมัลติมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (IAMD) ได้ถูกสร้างสรรค์ออกมาเป็นเกมหรือสื่ออินเทอร์แอคทีฟที่ชวนสนุกแต่สอดแทรกประวัติศาสตร์ของย่านเยาวราชเอาไว้ อีกพาร์ทคือ เยาวลิงก์ นำเสนอเส้นทางสัญจรในเยาวราชและการเชื่อมต่อกับย่านข้างเคียง ส่วนนี้เน้นการเข้าถึงง่ายทุกเพศทุกวัยเลยนำเสนอออกมาในเชิงพื้นที่จริงมากกว่า เช่น ป้ายบอกข้อมูล หรือจุดพักคอย
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw26.jpg)
05 หอประติมากรรมต้นแบบ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
อีกโอกาสหาชมยากคือ การเปิดหอประติมากรรมต้นแบบของ อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ให้ชมในยามค่ำคืน ความสำคัญของที่นี่คือการเป็นพื้นที่จัดเก็บและจัดแสดงประติมากรรมรูปต้นแบบผลงานของอาจารย์ศิลป์และลูกศิษย์ สำหรับงาน Bangkok Design Week จะบอกเล่าเรื่องราวโดยเน้นให้เห็นความสำคัญของกระบวนการปั้นและหล่อสำริด ชิ้นที่ต้องไปชมให้ได้คือต้นแบบของพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า หากย้อนกลับไปสมัยนั้นในสยามยังไม่มีโรงปั้นหล่อ อาจารย์ศิลป์จึงจำเป็นต้องส่งรูปปั้นต้นแบบไปยังอิตาลีพร้อมเดินทางไปคุมงานปั้นด้วยตัวเอง จุดนี้สำคัญเพราะเท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดโรงปั้นหล่อที่ได้มาตรฐานในสยามและเริ่มมีการถ่ายทอดองค์ความรู้งานประติมากรรมให้กับลูกศิษย์ในเวลาต่อมา
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw31.jpg)
อีกงานต้นแบบที่ไม่ควรพลาดอย่างมากคือรูปปั้นต้นฉบับย่าโมก่อนจะมีการปรับท่าทางการถือดาบตามรูปปั้นจริงในปัจจุบัน หากไปชมในช่วงกลางคืนจะมีการจัดไฟประกอบให้เห็นอารมณ์และมุมต่างๆ ของประติมากรรมอย่างชัดเจน อาทิ เศียรของพระพุทธรูปบริเวณกลางห้องที่ไฟจะค่อยๆ เปลี่ยนมุมและสีขับเน้นให้เห็นจุดแต่ละจุดอย่างช้าๆ และตลอด 9 วันของงาน Bangkok Design Week ยังพิเศษกว่าเก่าด้วยการแสดง Contemporary Dance และ Italian Electric Mix ที่นี่จะเริ่มกิจกรรมภาคค่ำตั้งแต่เวลา 19:30 น.เป็นต้นไป
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw30.jpg)
06 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร, ลานคนเมือง
พาวิเลียนสีขาวที่ประกอบขึ้นจากโครงสร้างที่มีรูปร่างคล้ายใบโคลเวอร์เป็นร่มเงาให้กับคนเมือง หากสังเกตเห็นจุดนี้ก็บอกได้เลยว่ากิจกรรมแน่น เพราะมาด้วยคอนเซปต์พื้นที่ลานละเล่น หรือ Playing Room รวบรวมทุกสีสันความบันเทิงหย่อนใจ ทั้งดนตรีจากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร การออกกำลังกาย การเต้น Swing ดนตรีเปิดหมวกตลอดจนหนังกลางแปลงจาก GDH
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw7.jpg)
07 ประปาแม้นศรี
จากสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในฐานะหอเก็บน้ำแห่งแรกของพระนครที่ปิดร้างมานาน 20 ปี ทีมสร้างสรรค์นำโดย Urban Ally ได้ชุบชีวิตพื้นที่แห่งนี้ขึ้นใหม่ในคอนเซปต์ Living Room พื้นที่นั่งเล่น ที่เต็มไปด้วยนิทรรศการที่หลากหลายครบทั้งมิติของแสง สี เสียงและ Art Installation พ่วงมาด้วยกลิ่นรสจาก Invisible Coffee pop-up cafe
เมสเสจหลักของตัวงานสื่อสารเกี่ยวกับน้ำและ Climage Change โดยการฉาย Projection Mapping บริเวณด้านบนของอาคาร แต่หากเดินเข้าไปด้านในแนะนำให้เริ่มจากฝั่งหน้าประตู ถนนบำรุงเมือง แล้วเดินตามเส้นสายหรือไกด์ไลน์ที่วางไว้ให้ ภายในอาคารมีการจัดแสดงภาพถ่าย The Portrait of Water Tank โดยทีม Foto_momo ที่สนใจรูปแบบสถาปัตยกรรมแทงก์น้ำจากการตระเวนสำรวจและคัดภาพแทงก์น้ำรูปทรงต่างๆ มาจากทั่วประเทศ ประกอบด้วยเสียงดนตรีที่ออกแบบโดยทีม Hear & Found ที่เดินทางไปเก็บเสียงน้ำมาจากป่าต้นน้ำอย่างเชียงใหม่และกาญจนบุรีเน้นให้บรรยากาศประกอบกับเสียงดนตรี และอีกฝั่งอาคารได้ดีไซน์เสียงล้อไปกับธีม Climage Change ของ Projection Mapping โดยเน้นความมินิมอลลิซึมแต่ผสมผสานกับเสียงน้ำหยดและการแตกของน้ำแข็ง หากใครตั้งใจจะไปปิดท้ายที่จุดนี้บอกก่อนว่าเขาปิดไฟตรงเวลามาก ฉะนั้นเผื่อเวลาไปก่อน 21:30 น.จะชัวร์ที่สุด
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw27.jpg)
08 ปากคลองตลาด
ปีนี้เป็นปีแรกที่ตลาดดอกไม้เก่าแก่อย่าง ปากคลองตลาด เข้าร่วมเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ในงาน Bangkok Design Week กับคอนเซ็ปต์ ปากคลอง Pop Up ปลุกชีวิตปากคลองตลาดด้วยงานดีไซน์ งานนี้ไม่ได้เน้นไปที่ดอกไม้สดถมแบบอลังการ เพราะทางผู้จัดงานที่มี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นแม่งาน อยากจะเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับความงามดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้แห่ง ใบไม้ กิ่งไม้ ต้นไม้ หรือดอกไม้ดิจิทัลก็สามารถเปลี่ยนเป็นงานดีไซน์ได้ โดยจุดจัดงานกระจายอยู่รอบๆ ปากคลองตลาดกว่า 10 โปรแกรม
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/pakklong3.jpg)
ไฮไลต์คือ ใต้สะพานพระปกเกล้าฯ และด้านหน้าไปรษนียาคาร ภายใต้การสร้างสรรค์ของ 27 June Studio ชิ้นแรกเป็นการนำแสงสีมาสร้างถนนสายดอกไม้ที่ทางศิลปินใช้เทคโนโลยี AR เข้ามาสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม ยิ่งเดินดอกไม้ก็จะยิ่งผลิบาน ตรงกันข้ามยิ่งถ้าเรายืนอยู่ยิ่งๆ ไม่ขยับย่างก้าว ถนนดอกไม้สายนี้ก็จะเหี่ยวเฉาและถูกเก็บไว้ในความมืด อีกชิ้นคืองาน Projection Mapping ด้านหน้าไปรษณียาคาร ฉายดอกไม้ขนาดใหญ่ทาบลงไปบนผนังอาคาร แต่ความพิเศษคือ ดอกไม้เหล่านี้จะขึ้นไปผลิบานได้ ผู้ชมต้องมาร่วมกันวาด และดอกไม้ทุกดอกที่วาดเสร็จแล้วก็จะขึ้นไปเฉิดฉายบนผนังอาคารทันที
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/pakklong.jpg)
เมื่อคิดถึงดอกไม้หลายคนต้องคิดถึง ผกา สตูดิโอ งานนี้ทางผกาจัดแสดง 3 ชิ้นงาน คือ แยกถนนจักรเพชรตัดกับถนนบ้านหม้อ, ชั้น 1 กลางตลาดยอดพิมาน, พื้นที่ใต้สะพานพระปกเกล้า ข้างไปรษณียาคาร ศิลปินเลือกที่จะใช้ใบไม้สด ใบไม้แห้ง ต้นไม้ วัสดุอุตสาหกรรม และวัสดุที่ใช้ในงานดอกไม้ทำสร้างเป็นชิ้นงานศิลปะจัดวาง โดยหัวมุมถนนบริเวณแยกถนนจักรเพชรตัดกับถนนบ้านหม้อใช้เป็นใบไม้กิ่งไม้แห้งโทนสีเขียวหม่นไปจนถึงน้ำตาลมาจัดเป็นพุ่มไม้ที่แซมด้วยดอกไม้ไหวสีเงิน
ส่วนที่ใต้สะพานพระปกเกล้าฯ เป็นการใช้ใบไม้โทนสีเขียวและใบตองที่ดูเหมือนตั้งกลางแดดจนสีเขียวซีดจางมาจัดวางในพื้นที่ว่างข้างทางที่หลายคนอาจไม่เคยสนใจว่าสักวันพื้นที่นี้อาจจะมีประโยชน์ และอีกชิ้นถือเป็นงานฟินาเล่ของโปรแกรมนี้ จัดแสดงอยู่กลางตลาดดอกไม้ที่มีทั้งความแฉะ ความเลอะเทอะ มีทั้งรถเข็นดอกไม้ผ่าน โดยศิลปินเลือกยกชิ้นงานซึ่งเป็นต้นกล้วยทั้งต้นขึ้นไปไว้บนเพดาน ใส่ดีเทลพวงมาลัยแบบไทยๆ เข้าไป มีเครือกล้วย ใบกล้วย มาครบมาก จัดวางคู่กับสแตนเลสวาวแสงที่สะท้อนภาพชาวตลาดขึ้นมาด้านบน
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw3.jpg)
09 ฮงเชียงกง
ปีนี้ย่านตลาดน้อยซุกซ่อนงานศิลปะไว้ในพื้นที่เล็กๆ ตรอกเล็กๆ แน่นมาก หนึ่งในไฮไลต์คือชิ้นงาน Kilane Crimson Garden เป็นการคอลแลปกันระหว่างแบรนด์ไทยตรา “กิเลน” และศิลปินไทยรุ่นใหม่ ยูน – ปัณพัท เตชเมธากุล จัดสวนกลิ่นอายจีนที่นำประวัติศาสตร์ของย่านคนจีนย่านแรกๆ ในกรุงเทพฯ และประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่อายุกว่า 132 ปีมารวมกัน โดยจุดเด่นหนึ่งของแบรนด์กิเลนคือการใช้สมุนไพร และไฮไลต์ตรงจุดนี้นอกจากงานดีไซน์รูปกิเลนขนาดใหญ่ สูง 3 เมตรของยูนแล้ว ทางร้านฮงเซียงกงยังสร้างเมนูพิเศษเสิร์ฟเฉพาะในเทศกาลโดยเฉพาะ โดยนำส่วนผสมสมุนไพรจากผลิตภัณฑ์ ตรากิเลน จำนวน 4 เมนู พร้อมคุ้กกี่เสี่ยงทาย สร้างสรรค์โดย เชฟเป่าเป้-เจสสิก้า หวัง
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw10.jpg)
สำหรับ 4 เมนูพิเศษเริ่มจาก ยูสุขิงโซดา ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาธาตุที่มีส่วนผสมของขิงช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ต่อมาคือ ชาเครื่องเทศโซดา ได้แรงบันดาลใจมาจาก ยากฤษณากลั่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรักษาท้องร่วง แต่ไม่ต้องห่วงเมนูนี้ไม่ได้ใส่ตัวยาจริงๆ เพียงแต่นำกลิ่นเครื่องเทศของยากฤษณากลั่นมาใส่ไว้เท่านั้น เมนูที่สามคือ ชานมกุหลาบอุทัยทิพย์ ใส่ใส่อุทัยทิพย์กุหลาบและมะลิเพื่อเพิ่มความหอมชื่นใจ ปิดท้ายด้วย ช็อตโกแลตโบตัน ใส่ลูกอมโบตันลงไปจริงๆ ทำให้เกิดรสสัมผัสที่แปลกใหม่ทั้งหวานและเย็นชุ่มคอ
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw5.jpg)
09 Creator in Residence
ความพิเศษของ Bangkok Design Week ครั้งนี้คือการที่มีโปรแกรม ศิลปินในถิ่นพำนัก หรือ Artist in Residence โดยใช้ชื่อโปรแกรมว่า Creator in Residence เชื้อเชิญให้ศิลปินนักออกแบบจากต่างประเทศและในประเทศไทยเข้ามาพำนักอาศัยในเขตพระนครเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ผ่านกลไกของการมาใช้ชีวิตคลุกคลีกับต้นทุนวัฒนธรรมในชุมชนต่างๆ เช่น งาน Coupling โดย Dr. Wang yan จาก Min Jiang University สาธารณรัฐประชาชนจีน นำผ้าจีวรจากจีนและไทยมาถักโดยเป็นการทำงานร่วมกับช่างทำจีวรจริงจากในชุมชนย่านพระนคร ชิ้นงาน The Life Circle Of Fueng Thong โดย Sandy Rismantojo ศิลปินจากประเทศอินโดนีเซียที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเห็นการทำเพชรพลอยจิวเวอรี่ของชาวชุมชนเฟื่องทองตรอกวิสูตร หรืออย่างศิลปินจากญี่ปุ่น Ryusuke Kido ก็เข้ามาเรียนรู้และสร้างงานจากบาตรพระที่ชุมชนบ้านบาตร
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw11.jpg)
ส่วนศิลปินไทยมีงาน มิตร & match โดย ร่มฉัตร ขำศิริ การผสมผสานวัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในพื้นที่ เช่น ยาหอมที่มีมาตั้งแต่สมัย ร.5 และสมุนไพรหรือผักพื้นบ้านของคนอีสานมาสร้างสรรเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ให้เป็นทั้งอาหารตา อาหารกาย และอาหารใจ
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw29.jpg)
10 โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ
“ธรรม-ทอง เล่าเรื่องย่าน ผ่านเรื่องทอง” โดย Sonjai เป็นอีกนิทรรศการที่เราไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ ตัวนิทรรศการตั้งอยู่ในความเก่าแก่ของอาคารประวัติศาสตร์ โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ เล่าเรื่องความรุ่งเรืองของ ถนนตีทอง ที่สร้างในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นถนนที่ตัดผ่านย่านชุมชนช่างทองหลวงความยาว 525 เมตร ตัวนิทรรศการถ่ายทอดกรรมวิธีของช่างทองแห่งถนนตี การตีทองคำเปลวซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้กันทั้งประเทศและสำคัญอย่างมากต่อพุทธศาสนา ทว่าแต่สุดท้ายถนนทองคำเปลวก็ต้านการเปลี่ยนแปลงของเมืองไม่ไหวจนสุดท้ายก็เหลือเพียงชื่อถนนไว้ให้จำ
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw2.jpg)
11 ถนนสายไม้บางโพ
ถนนสายไม้กำลังจะก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่มากกว่าย่านค้าขายไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ แต่ถนนสายนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่ศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับงานไม้ในประเทศไทย และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ถนนสายไม้บางโพ หรือชื่ออย่างเป็นทางการ “ซอยประชานฤมิตร” เข้าร่วมเป็นย่านน้องใหม่ในงาน Bangkok Design Week 2023 ซ่อนงานศิลปะ งานดีไซน์จากช่างไม้บางโพไว้ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ความยาว 1 กิโลเมตร ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านค้าไม้มากถึง 200 ร้าน
![Bangkok Design Week 2023](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkds32.jpg)
ไฮไลต์ของย่านนี้เริ่มจากโปรแกรมทัวร์ Wood Journey พาไปสัมผัสกับกระบวนการงานไม้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เปิดโรงเลื่อยเกือบจะแหล่งสุดท้ายของย่านให้ได้ดูวิธีการทำซุงในอดีต ศิลปะจัดวาง The Life of Wood ออกแบบโดย บริษัท แปลน แอสโซซิเอทส์ จำกัด นำโคมไม้มาต่อกันจนเกิดเป็น Main Pavilion ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าโคมไม้แต่ละอันไม่ได้ใช้ตะปู แต่จะใช้ทักษะงานช่างไม้แบบเข้าลิ่ม เข้าเดือย โดยใช้ไม้สักทั้งหมด ซึ่งนี่คือสุดยอดฝีมือของช่างบางโพที่แตกต่างจากงานไม้ในระบบอุตสาหกรรม
อีกชิ้นไฮไลต์คืองานแสงสีและ Projection Mapping ภายในศาลเจ้าแม่ทับทิม ผลงานการออกแบบของ ASITNAHC (ฉันทิศา) โดยศิลปินตั้งใจส่งต่อเรื่องราวที่พื้นที่แห่งความสุขในชุมชนนี้ให้ผู้คนที่มาจากพื้นที่อื่นได้เข้าใจเรื่องราวของคนในพื้นที่ผ่านศาลเจ้าแม่ทับทิมซึ่งสำหรับคนในชุมชน สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนกับสวรรค์ในย่านบางโพนั่นเอง
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw.jpg)
12 ชุมชนนางเลิ้ง
เราดีใจมากที่ได้เห็นคนรุ่นเก่าเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในเทศกาลที่เต็มไปด้วยงานดีไซน์ร่วมสมัย ดังนั้นห้ามพลาดชมอย่างเด็ดขาดสำหรับ Sartorial – เข้าเครื่องชาตรี การแสดงโดยครูกัญญา ทิพโยสถ ครูนางรำชาตรีแบบดั้งเดิมท่านสุดท้ายซึ่งเป็นต้นตระกูลผู้นำละครชาตรีดัดแปลงจากการรำโนราห์มาพัฒนาการรำในกรุงเทพฯ จนเป็นที่นิยมและมีการนำไปแสดงในงานสมโภชน์ต่างๆ แต่เมื่อรูปแบบความบันเทิงในสังคมไทยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา พื้นที่ในการแสดงออกซึ่งศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่ลดน้อยลงจนเหลือแต่เพียงการจ้างรำบวงสรวงจึงทำให้วัฒนธรรมที่หาชมได้ยากนี้กำลังถูกลบเลือนไป
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/02/bkkdsw25.jpg)
13 ชุมชนเลื่อนฤทธิ์
ใครสนใจงานดีไซน์โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ให้ตรงมายัง ชุมชนเลื่อนฤทธิ์ ไม่ไกลนักจากใจกลางเยาวราช งานนี้สมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ (The Design and Object Association) ได้รวบรวม 29 ผลงานประจายจัดแสดงตามห้องต่างๆ ผ่านการร่วมมือระหว่าง 39 สตูดิโอ โดยมี Pavilion ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ออกเเบบโดย กรกต อารมณ์ดี
Fact File
- งาน Bangkok Design Week จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 ดูรายละเอียดทุกโปรแกรมจัดแสดงได้ที่ www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2023
![](/wp-content/uploads/2019/12/logo-greyscale-1.png)