Something Nouveau ชวนเคลิ้มไปกับงาน The Kiss ของคลิมต์ แบบมัลติมีเดียเต็มตา
Arts & Culture

Something Nouveau ชวนเคลิ้มไปกับงาน The Kiss ของคลิมต์ แบบมัลติมีเดียเต็มตา

Focus
  • Something Nouveau นำเสนอผลงานเลื่องชื่อของ 3 ศิลปินยุคอาร์ตนูโว คือ กุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) ออเบรย์ เบียร์ดสลีย์ (Aubrey Beardsley) และอัลโฟนส์ มูคา (Alphonse Mucha) ในรูปแบบมัลติมีเดียพาโนรามา 360 องศา
  • ผู้ชมสามารถถ่ายรูปและถ่ายวิโอได้อย่างอิสระ เพราะนิทรรศการออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ที่ชอบถ่ายรูป
  • อีกห้องนิทรรศการให้ผู้ชมสวมแว่นสามมิติเพื่อเปิดประสบการณ์ดูงานอีกรูปแบบหนึ่ง

Something Nouveau คือนิทรรศการล่าสุด หลังจาก RCB Galleria  ประสบความสำเร็จกับ 2 นิทรรศการมัลติมีเดีย “From Monet to Kandinsky” และ “Italian Renaissance” เมื่อปีที่แล้วด้วยสถิติผู้ชม 60,000 คน ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยงานยุคอาร์ตนูโว (Art Nouveau) นำโดย กุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) เจ้าพ่องานวาบหวามอีโรติกเช่นภาพ “The Kiss” รวมถึงงานภาพวาดหมึกสีดำแปลกประหลาดของ ออเบรย์ เบียร์ดสลีย์ (Aubrey Beardsley) และภาพโปสเตอร์หญิงสาวกับลวดลายคดโค้งอ่อนช้อยของ อัลโฟนส์ มูคา (Alphonse Mucha)

Something Nouveau
ผลงานของ กุสตาฟ คลิมต์

เล่นกับสีทองอร่ามเอกลักษณ์ของอาร์ตนูโว

ในห้องแสดงหลักของนิทรรศการ “Something Nouveau” ที่จัดแสดงถึง 16 เมษายน 2563 ผลงานกว่า 500 ภาพของทั้ง 3 ศิลปินได้ถูกนำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดียโดยเล่นเทคนิคทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผสมกับเพลงคลาสสิก โปรเจกเตอร์ระดับ HD ประมาณ 30 ตัวนำมาใช้ฉายภาพดิจิทัลแบบพาโนรามา 360 องศาทั้งบนผนังสูง 3 เมตรและบนพื้นของห้องขนาด 1,200 ตารางเมตร มีความยาว 35 นาทีโดยฉายวนเป็นลูป

การเล่นกับสีทองอร่ามอันเป็นสีโดดเด่นของงานยุคอาร์ตนูโว และลายเส้นพลิ้วไหวถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อดึงดูดสายตาผู้ชม รวมไปถึงการดึงเอกลักษณ์ที่ปรากฏในงานของแต่ละศิลปินมาเล่นเป็นภาพเคลื่อนไหว เช่น Motif สีทองที่คลิมต์ใช้แผ่นทองคำเปลวเป็นสีหลักในการวาดภาพซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะโมเสกยุคไบแซนไทน์ รวมถึงหยดหมึกสีดำที่ค่อยๆ กระจายตัวบนจอสื่อถึงเอกลักษณ์การใช้หมึกดำในงานของเบียร์ดสลีย์ และภาพกลีบดอกไม้นานาชนิดที่ค่อยๆ ร่วงหล่นอันเป็นจุดเด่นในการใช้ลวดลายพืชพรรณในภาพของมูคา

ชมงานอาร์ตเต็มตาจากผนังจรดพื้น

ผลงานของอัลโฟนส์ มูคา

อาร์ตนูโวได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงค.ศ. 1890-1905 และยุคทองคือในช่วงปีค.ศ. 1900 เป็นศิลปะแนวใหม่ตามชื่อที่เรียก เพราะศิลปินไม่ได้สร้างงานตามความเชื่อทางศาสนาแต่ให้ค่ากับความงดงามตามธรรมชาติทั้งรูปทรง สีและลวดลาย เช่นจากดอกไม้และพรรณพฤกษา รวมถึงมีการผสมผสานรูปแบบของศิลปะอื่นเช่น แนวโรโคโค (Rococo) และงานภาพพิมพ์แกะไม้ของญี่ปุ่น มาเป็นลายเส้นโค้งที่อ่อนช้อยและรูปแบบแปลกใหม่ในผลงานทั้งด้านจิตรกรรม ศิลปะประยุกต์ สถาปัตยกรรม การตกแต่งทั้งภายในและภายนอก และการออกแบบเครื่องประดับ

ภาพ Portrait of Adele Bloch-Bauer I

นิทรรศการนี้ชวนเคลิ้มไปกับงานของคลิมต์ ศิลปินชาวออสเตรียที่มักใช้สีทองอร่ามกับลวดลายซับซ้อนและภาพหญิงสาวแนวอีโรติก ช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1900–1908 ถือเป็นยุคทอง (Golden Phase) ของคลิมต์ที่เขาได้สร้างผลงานลือลั่นมากมาย เช่นภาพ “Portrait of Adele Bloch-Bauer I” (1907) ซึ่งเป็นภาพเหมือนภรรยาของเศรษฐีนายธนาคารชาวยิว ที่มีความลงตัวระหว่างภาพเหมือนจริงกับนามธรรมและได้รับยกย่องในช่วงนั้นว่าเป็นตัวแทน “ผู้หญิงสมัยใหม่แห่งเวียนนา” และภาพ “The Kiss” (ค.ศ. 1907-1908) รูปชายหญิงในอ้อมกอดกำลังจุมพิตกันในฉากแสงสีทองอร่ามประกอบกับทุ่งดอกไม้

something nouveau
ผลงานของออเบรย์ เบียร์ดสลีย์

แม้จะจากโลกนี้ไปในวัยเพียง 25 ปี เบียร์ดสลีย์ ศิลปินชาวอังกฤษ สร้างชื่อเสียงโดดเด่นจากการใช้หมึกดำเป็นหลักซึ่งได้อิทธิพลจากงานภาพพิมพ์แกะไม้แบบญี่ปุ่น ในนิทรรศการนี้ผู้ชมจะได้เห็นภาพของเขาที่แฝงไว้ด้วยจินตนาการแปลกประหลาดผสมเชิงอีโรติก รวมทั้งงานเลื่องชื่อ เช่นภาพประกอบให้กับบทละครเรื่อง Salome ของ ออสการ์ ไวลด์ (Oscar Wilde) และผลงานที่วาดให้กับนิตยสาร The Savoy, The Studio และ Yellow Book

ส่วนมูคา ศิลปินชาวเช็กมีผลงานออกแบบหลากหลายทั้งโปสเตอร์ ปฏิทิน ภาพประกอบหนังสือ ภาพพิมพ์หิน เครื่องประดับและของแต่งบ้าน จุดเด่นคือภาพที่แสดงความอ่อนช้อยแต่แข็งแรงของหญิงสาวในชุดเสื้อผ้าบางเบาพลิ้วไหวท่ามกลางดอกไม้นานาชนิด ผลงานที่สร้างชื่อคือการออกแบบโปสเตอร์รูปนักแสดงหญิง ซารา แบร์นาร์ต (Sarah Bernhardt) ให้กับโรงละครเรเนสซองส์ที่กรุงปารีส จนกระทั่งแบร์นาร์ตประทับใจและให้เขาเป็นมัณฑนากรให้กับโรงละครของเธอ

งานมัลติมีเดียเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ทีมงานโปรดักชันยังเป็นทีมเดิมกับ 2 นิทรรศการมัลติมีเดียเมื่อปีที่แล้ว คือ บริษัท Vision Multimedia Projects ที่บริษัทแม่อยู่ทั้งที่มอสโกและเบอร์ลิน นิทรรศการออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ที่ชอบถ่ายรูปและแชร์ในโซเชียลมีเดีย เพราะผู้ชมสามารถถ่ายรูปและถ่ายวิดิโอได้เต็มที่กับภาพกราฟิกแอนิเมชันแบบเต็มตาและเต็มจอ ความสนุกของหลายคนคือหามุมและโพสต์ท่าว่าภาพของใครจะแปลกและสร้างสรรค์กว่ากัน

ลินดาเชง กรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กล่าวว่า “เราอยากให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสถึงผลงานของศิลปินระดับโลก งานมัลติมีเดียทำให้คนเข้าถึงศิลปะได้ง่ายขึ้นและอาจอยากศึกษาและไปดูผลงานจริงในมิวเซียมต่อไป งานแบบนี้ยังเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบถ่ายรูป ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเราจึงลงทุนไปมากกับการจัดแสดงงานมัลติมีเดีย”

สำหรับหลายคนที่เคยชมงานดิจิทัลอาร์ตของทีม TeamLab ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้าง Interactive และ Immersive ระหว่างผลงานกับผู้ชม นิทรรศการนี้อาจไม่ตอบโจทย์ถ้าคุณชอบการเอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานแบบนั้น แต่ โอเลก มารินิน  (Oleg Marinin) Managing Partner ของ Vision Multimedia Projects กล่าวว่าเป็นงานคนละสไตล์กัน ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ งานของเขาอารมณ์จะคล้ายๆ กับภาพยนตร์ฝรั่งเศสมากกว่า

“เราพยายามไม่ให้เป็นเพียงสไลด์โชว์ธรรมดา แต่ก็ต้องระวังไม่ใส่สเปเชียลเอฟเฟกต์และแอนิเมชันลงไปมาก เพราะจะดูเป็นการ์ตูนไปเลย ต่อมาเราจึงสร้างเรื่องราวขึ้นและไล่ลำดับการนำเสนอผลงานตามประเภทของศิลปะและศิลปิน ภาพเคลื่อนไหวถูกนำเสนอไปพร้อมกับดนตรีเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชม สิ่งที่ท้าทายคือทั้ง 3 ศิลปินอยู่ในศิลปะลัทธิเดียวกันแต่ผลงานค่อนข้างต่างกัน ต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะผนวกผลงานของพวกเขาให้กลายเป็นเรื่องเดียวกันได้ลงตัว”

เสริมประสบการณ์ดูงานแบบ 3D และ Virtual Reality

ห้องจัดแสดงขนาดเล็กอีกห้องนำเสนอประสบการณ์ชมงานยุคอาร์ตนูโวอีกแบบ โดยให้ผู้ชมสวมแว่น 3 มิติ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากห้องแสดงหลัก พื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องจัดแสดงทั้ง 2 ห้อง จัดแสดงข้อมูลและไทม์ไลน์ของศิลปินทั้ง 3 คน

ห้อง VR Studio

ถัดไปอีกห้องเป็น VR Studio (จ่ายค่าเข้าชมเพิ่ม 200 บาทจากบัตรเข้าชมนิทรรศการ Something Nouveau) ที่ผู้ชมสวมแว่นและท่องโลกศิลปะแบบ Virtual Reality กับภาพของวินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh) เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edvard Munch) และอีก 3 ศิลปินชาวรัสเซีย

สำหรับแฟนๆ ของแวนโก๊ะ เตรียมตัวให้พร้อมกับนิทรรศการมัลติมีเดียผลงานของแวนโก๊ะในเดือนเมษายน

Fact File

  • นิทรรศการจัดแสดงถึงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 ที่ RCB Galleria ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
  • บัตรราคา 350 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 250 บาทสำหรับเด็ก นักเรียน นิสิต/นักศึกษาและผู้อาวุโส
  • ซื้อบัตรที่ www.zipeventapp.com/e/Something-Nouveau
  • รายละเอียดเพิ่มเติม: โทร. 0-2237-0077-8 หรือคลิก www.rivercitybangkok.com


Author

เกษศิรินทร์ ผลธรรมปาลิต
Feature Editor ประจำ Sarakadee Lite อดีต บรรณาธิการข่าวไลฟ์สไตล์ Nation ผู้นิยมคลุกวงในแวดวงศิลปวัฒนธรรมจนได้ขุดเรื่องซีฟๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ