สกอลล์ รองเท้าเพื่อสุขภาพอายุกว่า 100 ปีที่มีต้นกำเนิดจากช่างซ่อมรองเท้าประจำบ้าน
Brand Story

สกอลล์ รองเท้าเพื่อสุขภาพอายุกว่า 100 ปีที่มีต้นกำเนิดจากช่างซ่อมรองเท้าประจำบ้าน

Focus
  • สกอลล์ แบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพโดย วิลเลียม มาเธียส สกอลล์ที่ได้รับการสานต่อมาถึง 113 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
  • ดร.สกอลล์ ฉายแววตั้งแต่เด็กจนถูกส่งไปฝึกหัดกับช่างซ่อมรองเท้า และขวนขวายหาความรู้ต่อจนตัดสินใจเข้าเรียนที่โรงเรียนแพทย์แห่งนครชิคาโก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเท้าที่เขามองว่าถูกละเลย
  • ผลิตภัณฑ์ของ ดร.สกอลล์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแก่การประกวดเท้าซินเดอเรลลาในสหรัฐอเมริกา

“การทำให้ความสะดวกสบายต่อสุขภาพ และสวัสดิภาพของผู้คนดีขึ้นด้วยการดูแลเท้าของพวกเขา” และ “สุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่สุขภาพเท้า” คือปรัชญาการทำงานของ ดร.สกอลล์ หรือ วิลเลียม มาเธียส สกอลล์ ผู้คิดค้นและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์รองเท้าเพื่อสุขภาพ ที่แบรนด์ Scholl สานต่อมาถึง 113 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท Scholl Manufacturing Co. Inc. ในปี ค.ศ. 1907 

สกอลล์

แบรนด์ สกอลล์ เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับด้วยจุดแข็งคือ ความนุ่มสบายเวลาสวมใส่ ความทนทาน การแก้ปัญหาสุขภาพเท้าและการรักษาสมดุลให้กับการเดิน เห็นได้จากการจำหน่ายอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในไทยเองก็ได้เริ่มนำเข้ามาจำหน่าย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 ราว 31 ปีได้แล้ว 

ความนิยมทั้งหมดทั้งมวลนี้ ต้องยกความดีความชอบให้ ดร.สกอลล์ ตั้งแต่เขายังเป็นหนุ่มน้อยวิลเลียมนู่นเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอพาทุกคนย้อนไปรู้จักเขากันหน่อยดีกว่า 

สกอลล์

สกอลล์เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1882 ในครอบครัวเกษตรกรซึ่งอาศัยอยู่แถบตะวันตกกลางของสหรัฐอเมริกา สมัยยังเป็นหนุ่มน้อยนั้น เขามักง่วนอยู่กับการเย็บปะรองเท้าให้กับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งมีกันอยู่ถึง 15 คน เขารู้จักการนำด้ายมาเคลือบขี้ผึ้งก่อนเย็บเพื่อให้เหนียวทนทาน เรียกได้ว่าโชว์ฝีมือและฉายแววในฐานะช่างซ่อมรองเท้าประจำบ้านตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว พ่อแม่เขาเห็นเช่นนั้นจึงส่งเขาไปเป็นลูกมือฝึกหัดกับช่างทำรองเท้าในตัวเมือง เมื่อฝึกครบ 1 ปี เขาจึงเดินทางไปหาความรู้เพิ่มเติมที่เมืองชิคาโก และด้วยประสบการณ์การตัดและขายรองเท้าให้แก่บรรดาลูกค้าที่นั่น ทำให้สกอลล์เริ่มเห็นปัญหาตุ่มหนังหนาแข็งและตาปลาบนนิ้วเท้า ซึ่งทำให้เขาเห็นว่าเท้าเป็นอวัยวะที่ถูกละเลย บวกกับแพทย์และช่างทำรองเท้าก็ไม่ได้สนใจที่จะช่วยบรรเทาปัญหานี้กันสักเท่าไร

สกอลล์

สกอลล์จึงตัดสินใจใช้เวลากลางคืนหลังจากการเป็นพนักงานขายรองเท้าไปกับการเรียนหลักสูตรภาคค่ำของโรงเรียนแพทย์แห่งนครชิคาโก จนได้รับปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิต ในปี ค.ศ. 1904 เมื่อเขาอายุ 22 ปี และได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ “ฟุต-อีสเซอร์” แผ่นรองรับน้ำหนักบริเวณส่วนโค้งของอุ้งเท้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเท้าชนิดแรกสุดของเขาในปีเดียวกัน สิ่งนี้ได้รับความนิยมจนทำให้สกอลล์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อเท้าอื่นๆ จนกลายเป็นอุตสาหกรรมประเภทหนึ่งได้ 

ทั้งนี้เขายังเปิดหลักสูตรการรักษาและป้องกันโรคเท้าขึ้นเพื่อพนักงานขายรองเท้าโดยระบบการศึกษาทางไปรษณีย์ นอกจากนี้ยังรวบรวมบุคลากรให้คำปรึกษาเพื่อเดินทางไปบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลเท้าอย่างเหมาะสมที่เมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังได้มีการตีพิมพ์หนังสือ 2 เล่ม ชื่อ The Human Foot: Anatomy, Deformities, and Treatment (1915) สำหรับแพทย์ และ Dictionary of the Foot (1916) เป็นคู่มือสำหรับคนทั่วไปอีกด้วย 

โดยสกอลล์ได้อธิบายว่า “เท้าผิดรูปผิดร่าง พบอยู่มากในสหรัฐอเมริกา เพราะคนอเมริกัน มีเพียง 1 ใน 50 คนเท่านั้นที่จะเดินด้วยท่วงท่าที่ถูกต้อง” พร้อมชวนทุกคนเดินวันละ 2 ไมล์แบบ “ศีรษะตั้ง อกเชิด นิ้วเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า” และแนะนำด้วยว่าให้สวมรองเท้าวันละ 2 คู่ เพื่อให้รองเท้าแต่ละคู่แห้งสนิทปลอดความชื้น 

แม้ในช่วงแรกโฆษณาผลิตภัณฑ์ของ ดร.สกอลล์ จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการนำภาพเท้าเปลือยเปล่าไร้การห่อหุ้มใดๆ เว้นแต่แถบพันนิ้วกันตาปลา กับภาพเท้าเปลือยบนแผ่นรองรับส่วนโค้งของเท้ามาเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ แต่ในปีค.ศ. 1916 สกอลล์ก็ได้ปลุกกระแสความตื่นตัวเรื่องเท้าในหมู่คนอเมริกันอย่างกว้างขวาง จากการเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแก่ “การประกวดเท้าซินเดอเรลลา” เพื่อเสาะหาเท้าสตรีที่มีรูปร่างลักษณะสมบูรณ์ที่สุด โดยเท้าของผู้เข้าประกวดจะได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ตรวจวัดขนาดและพิมพ์รอยเท้าไว้ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ออกแบบโดยสกอลล์ และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ตัดสินคัดเลือก ซึ่งรอยเท้าของสตรีผู้ชนะเลิศได้เป็น “เท้าซินเดอเรลลา” จะได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำหลายฉบับ 

ตามความคาดหมายของสกอลล์ ผู้หญิงจำนวนมากที่เปรียบเทียบเท้าซึ่งไม่ค่อยสมบูรณ์ของตนกับเท้าซินเดอเรลลาแล้ว จะรีบออกจากบ้านไปซื้อสินค้าของสกอลล์มาใช้ ทำให้ห่อสีเหลือง-ฟ้าซึ่งบรรจุผลิตภัณฑ์ของสกอลล์กลายเป็นที่จดจำและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนอเมริกันนับแต่นั้นมา 

ต้นเรื่อง : นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 123 เดือนพฤษภาคม 2538

อ้างอิง

Fact File