62 ปี เซียงเพียว จากยาหม่องน้ำรูปอากงในขวดคลาสสิก สู่ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

เซียงเพียว ชื่อนี้ไม่ว่ารุ่นไหนก็รู้จักดี กับตำนานยาสมุนไพรแผนโบราณที่สืบทอดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่สู่ยาครอบจักรวาลของชาวจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทยในยุคเสื่อผืนหมอนใบ โดยมี บุญเจือ เอี่ยมพิกุล (เป๋งจือ แซ่อุ้ย) เป็นผู้นำสูตรยามาต่อยอดและพัฒนาเป็นยาหม่องน้ำสีเหลืองอำพันบรรจุในขวดแก้วขนาดเล็กทรงสามเหลี่ยมและมีรูปบิดาของตัวเองแปะอยู่หน้าขวด เขาตั้งชื่อแบรนด์ของตัวเองว่า เซียงเพียวอิ๊ว และวางขายในปี พ.ศ.2501 และกลายมาเป็นแบรนด์ เซียงเพียว ในปัจจุบัน

ยาหม่องน้ำและบรรจุภัณฑ์แบบคลาสสิกนี้ยังคงอยู่คู่เมืองไทยมายาวนานถึง 62 ปี และบุญเจือได้ส่งไม้ต่อธุรกิจให้ลูกสาว สุวรรณา เอี่ยมพิกุล ผู้สามารถขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดคนรุ่นใหม่ด้วยการสร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ และยังนำสินค้าออริจินัลของบริษัทอย่างเซียงเพียวเข้าสู่กลุ่มสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งอีกทั้งเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ผ่านการสร้างสนามปั่นจักรยาน Peppermint Bike Park และการเปิดร้านอาหาร Mint Café

“อากงและอาม่าอพยพหนีภัยสงครามจากจีนมาสยามในราว พ.ศ.2473 และอาศัยกันอยู่แถวสวนพลูในกรุงเทพฯ อาม่ามีญาติเป็นหมอร่วมเดินทางมาด้วยกันชื่อซินแสถัง ผู้เป็นเจ้าของสูตรยาสมุนไพรครอบจักรวาลที่ชาวจีนนิยมใช้แก้สารพัดโรค ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัววิงเวียน จุกเสียดแน่นท้อง ตะคริว เคล็ดขัดยอก อาการคันจากแมลงสัตว์กัดต่อย

“ซินแสจะผสมสมุนไพรต่างๆ ใส่ในขวดโหลสีชาและห่อด้วยถุงกระดาษอีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้คนเห็นเพราะหวงสูตร เมื่อท่านแก่และไม่สบายพ่อดิฉันเป็นคนดูแล ท่านจึงยอมบอกสูตรให้ แต่บอกไม่หมดนะ พ่อมาพัฒนาและต่อยอดสูตรจนกลายมาเป็นยาหม่องน้ำ เซียงเพียวอิ๊ว” สุวรรณา ซีอีโอของบริษัทเบอร์แทรม (1958) จำกัด กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์

จากยาหม่องน้ำสู่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง

ส่วนชื่อแบรนด์นั้นมีความหมาย 2 นัย คำว่า “เซียง” แปลว่า ดีกว่า และ เหนือกว่า ส่วนคำว่า “เพียว” แปลว่า ยี่ห้อ และคำว่า “อิ๊ว” แปลว่า น้ำมัน เซียงเพียวอิ๊ว จึงหมายถึง น้ำมันยี่ห้อที่ดีกว่าเหนือกว่า แต่อีกนัยหนึ่ง คำว่า “เซียง” คือชื่อบิดาของบุญเจือ ดังนั้นชื่อแบรนด์ยังแฝงความหมายว่า ยาหม่องน้ำยี่ห้อนายเซียง และจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบุญเจือจึงนำรูปบิดาของตนมาเป็นโลโก้แปะอยู่บนขวด

ธุรกิจยาหม่องน้ำประสบความสำเร็จจนบุญเจือก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนจักรินทรฟาร์มาซูติคอล ในปี พ.ศ.2510 และขยายเป็นบริษัทเมื่อปี พ.ศ. 2525 ภายใต้ชื่อ เบอร์แทรม โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ยาหม่องน้ำ ยาหม่องแบบบาล์ม และยาดมชนิดแท่ง ในปี พ.ศ.2534 สุวรรณาเข้ามารับช่วงบริหารต่อจากบิดาซึ่งปัจจุบันอายุ 87 ปี และได้รีแบรนด์ เซียงเพียวอิ๊ว มาเป็น เซียงเพียว เพื่อให้เรียกง่ายขึ้นและรองรับการขยายผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ๆ

เธอได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้นโดยแตกไลน์สินค้ามียาหม่องน้ำเซียวเพียวสูตรขาว ที่มีส่วนผสมของเปปเปอร์มินต์ ทำให้กลิ่นอ่อนกว่าสูตรออริจินัล และยังขยายตลาดสู่กลุ่มสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งโดยมีหัวหอกคือ เซียงเพียวรีลีฟครีม ครีมบรรเทาอาการปวดเมื่อยร่างกาย

“กีฬา เป็น passion ของเราอยู่แล้ว เพราะเราชอบขี่จักรยาน เล่นเทนนิสและตีกอล์ฟ เราจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่ม casual sport player ที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาจัดๆแต่ออกกำลังกายบ้าง ไม่ออกบ้าง กล้ามเนื้อจึงไม่แข็งแรงมาก รีลีฟครีมจะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ไม่ให้เป็นตะคริว ใช้ทาก่อนและหลังออกกำลังกาย เราจะมีผลิตภัณฑ์อีกหลายตัวตามมาเพื่อรุกในตลาดสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง” สุวรรณาในวัย 57 ปี ที่ยังคงแอ็กทีฟเสมอ กล่าวถึงก้าวต่อไปของแบรนด์ในตำนาน

สร้างแบรนด์ใหม่เพื่อจับตลาดคนหนุ่มสาว

นอกจากขยายตลาดของเซียงเพียวแล้ว สุวรรณายังได้สร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในปี พ.ศ.2548 เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีทั้งยาดมชนิดแท่ง ยาหม่องเจล และยาหม่องแท่ง

“ลุคของเซียงเพียวดูแก่ไปสำหรับคนรุ่นใหม่ เราจึงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเข้าไปอยู่ในกระเป๋าของคนหนุ่มสาวได้แบบที่เขาไม่อายที่จะหยิบมาใช้ จึงเกิดเป็นแบรนด์ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ มียาหม่องแบบแท่งที่ทาได้ไม่เลอะมือ ยาหม่องแบบเจลในตลับ และยาดมแบบแท่ง ทั้งหมดมีกลิ่นหอมสดชื่นจากส่วนผสมของเปปเปอร์มินต์ ออยล์ เรายังตอบโจทย์ผู้ชายที่มองว่าบรรจุภัณฑ์ของเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ดูเป็นผู้หญิงและกลิ่นไม่แรง ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ยาดมแบบแท่งในหลอดสีดำและเพิ่มส่วนผสมของยูคาลิปตัส ออยล์”

ล่าสุดทางบริษัทได้ออกไอเทมคลายร้อนในไลน์ใหม่ชื่อ Urban Mint by Peppermint Field (เออเบิร์น มิ้นท์ บาย เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์) ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและนักเดินทาง ได้แก่ บอดี้สเปรย์แบบเย็น ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิว และสเปรย์แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ

เปิดสนามปั่นจักรยานและร้านอาหาร

ด้วยความชื่นชอบในการขี่จักรยานผสมกับการตั้งเป้าพาแบรนด์เข้าสู่ไลฟ์สไตล์คนเมืองมากขึ้น สุวรรณาจึงได้ปรับปรุงพื้นที่ขนาด 10 ไร่ ของครอบครัวในซอยโยธินพัฒนา 3 เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ให้เป็นสนามปั่นจักรยานในชื่อ Peppermint Bike Park ในปี พ.ศ. 2558 พร้อมทั้งเปิดร้านอาหาร Mint Café ภายในโครงการในปีต่อมา

“พ่อมีที่ดินตรงนั้นซึ่งมีต้นไม้เยอะมาก เราจึงอยากทำอะไรให้มี Value Added และเปรียบเสมือนบิลบอร์ดของแบรนด์ จึงเกิดเป็นสนามปั่นจักรยานที่คนมาออกกำลังกาย มา Interact กันได้ในบรรยากาศร่มรื่น เป็นสถานที่ที่เป็นลมหายใจที่มีคุณภาพของคนเมือง เมื่อคนออกกำลังกายเสร็จก็ต้องการที่กิน ที่ดื่ม จึงเกิดเป็นร้านอาหาร Mint Café ตามมารวมทั้ง Mint Dog Yard ลานสนามหญ้าให้สุนัขได้วิ่งเล่นเพราะเราเลี้ยงสุนัขเหมือนกัน”

ล่าสุดร้าน Mint Café ได้เปิดสาขา 2 ในชื่อ Mint Café Express ตั้งอยู่ภายในบริเวณสำนักงานบริษัทเบอร์แทรม ในซอยลาดพร้าว 80 และขายอาหารเช่นเดียวกับสาขาแรกคือมีทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตกแบบฟิวชัน

“พื้นที่ตรงนี้เดิมเป็นโรงงานเก่ามีขนาด 4 ไร่ ภายหลังเราขยายโรงงานไปที่ลำลูกกาคลอง 7 บนพื้นที่ 78 ไร่ในปี พ.ศ.2557 เราจึงพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นออฟฟิศที่เราเรียกว่า Bertram Creative Hub อาคารด้านหน้าที่เป็น Mint Café Express ช่วงกลางวันเราก็ปิดส่วนหนึ่งเพื่อใช้เป็นแคนทีนสำหรับพนักงานและทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน พนักงานได้สิทธิ์รับส่วนลด 50% ของอาหารทุกเมนูในร้าน”

ที่ร้าน Mint Café Express สุวรรณาเกิดไอเดียให้เชฟศรายุทธ วัฒนากร สร้างสรรค์ เซียงเพียว เทเบิล (Siangpure Table) ในรูปแบบ Chef’s Table เป็นอาหาร 7 คอร์สสำหรับดินเนอร์ในชื่อ “สำรับแห่งความทรงจำ” ซึ่งเชฟได้แรงบันดาลใจและตีความจากประวัติของบุญเจือและการก่อร่างสร้างแบรนด์เซียงเพียวมาเป็นจานอาหาร นอกจากสะท้อนถึงแบรนด์สตอรีของเซียงเพียวแล้ว การแตกไลน์จากยาครอบจักรวาลมาเป็นเมนูอาหาร ยังเป็นการคิดข้ามกรอบ บอกถึงความพร้อมของเซียงเพียวที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงยาหม่องน้ำรูปอากงอีกต่อไป

Fact File

• เซียงเพียว เทเบิล “สำรับแห่งความทรงจำ”ให้บริการในรูปแบบ Chef’s Table สำหรับดินเนอร์โดยรองรับขั้นต่ำ 6 ที่นั่ง และสูงสุด 12 ที่นั่งต่อคืน ในราคา 1,800+ บาทต่อคน หรือ 2,700+ บาท สำหรับจับคู่อาหารกับไวน์ สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร. : 06-5096-4650
• Mint Café Express ตั้งอยู่ในบริเวณ Bertram Creative Hub ซอยลาดพร้าว 80 กรุงเทพฯ และเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-20.00 น.