เยือนไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ Phu Quoc ปลายทางที่ผสานวิถีท้องถิ่นและความผ่อนคลายอย่างแท้จริง
Lite

เยือนไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ Phu Quoc ปลายทางที่ผสานวิถีท้องถิ่นและความผ่อนคลายอย่างแท้จริง

Focus
  • แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนามแต่ ฟู้ก๊วก (Phu Quoc) จังหวัดเคียนเกียง (Kien Giang) ก็มีพื้นที่เพียงราว ๆ 578 ตารางกิโลเมตร บวกกับบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบไม่พลุกพล่านเพราะแยกออกจากตัวเมือง ที่นี่จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน
  • ฟู้ก๊วก อาจจะไม่ได้มีชายหาดหรือน้ำทะเลที่สวยว้าวเหมือนเกาะฝั่งอันดามันของไทย แต่กลับมีเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งเรื่องวิถีประมงท้องถิ่นของเวียดนามและการเป็นปลายทางแห่งใหม่ของเวียดนามใต้

ว่ากันว่าถ้าจะไป ฟู้ก๊วก (Phu Quoc) หรือเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงปลายปีราวเดือนตุลาคมไปถึงกลางเดือนพฤษภาคมเพราะตรงกับฤดูร้อน นอกนั้นจะเจอฝนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ Sarakadee Lite มีโอกาสได้ไปเยือนนั้นเจอฝนอยู่บ้าง แต่ระหว่างวันยังมีสลับแสงแดดอุ่นให้ได้นั่งเล่นริมหาดหรือเดินทางขึ้นกระเช้าข้ามเกาะได้สบายๆ เพราะอย่างนั้นเราเลยขอกล่าวทักทายว่า ซินจ่าว (Xin Chào) หรือ สวัสดี ในภาษาเวียดนาม แล้วพาทุกคนไปเยือนเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหาดสวรรค์ของเวียดนามใต้กัน

ฟู้ก๊วก เวียดนาม

เมื่อพูดถึงเวียดนาม ชื่อของ ฟู้ก๊วก อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนักหากเทียบกับปลายทางในเมืองอื่นๆ ที่โด่งดังระดับโลกอย่างดาลัด ฮานอย ฮอยอัน โฮจิมินห์ หรือซาปา ซึ่งนั่นก็เพราะ ฟู้ก๊วก ถือเป็นปลายทางแห่งใหม่สำหรับการท่องเที่ยวเวียดนาม ทว่าที่นี่ก็ยังเดินทางสะดวกด้วยเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังสนามบินนานาชาติฟู้ก๊วกโดยใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งสำหรับสายการบินไทยเวียตเจ็ท (Thai Vietjet) ในปัจจุบันมีถึง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (อัปเดตเมื่อช่วงตุลาคมปี 2565) ทำให้การเดินทางมายังฟู้ก๊วกซึ่งได้สมยาว่า ไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป

ฟู้ก๊วก เวียดนาม
เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ โซนาซี ฟู้ก๊วก
ฟู้ก๊วก เวียดนาม
C View Sky Bar

สำหรับ ฟู้ก๊วก จังหวัดเคียนเกียง (Kien Giang) แม้จะเรียกว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม แต่ที่นี่ก็มีพื้นที่เพียงราวๆ 578 ตารางกิโลเมตร บวกกับบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบไม่พลุกพล่านเพราะแยกออกจากตัวเมือง ที่นี่จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนแบบผู้คนไม่พลุกพล่าน ที่พักส่วนใหญ่ของที่นี่ก็อยู่ไม่ห่างไกลกันนักและตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน อย่างโรงแรมที่เราเข้าพัก เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ โซนาซี ฟู้ก๊วก และ เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ โซนาซี วิลลาฟู้ก๊วก จะอยู่ห่างจากสนามบินราวๆ 8.6 กิโลเมตร หรือ 15 นาทีโดยประมาณ ซึ่งนอกจากเรื่องการเดินทางที่ง่ายมาก และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานฉบับเครือเบสท์ เวสเทิร์นแล้ว ด้วยความที่ตัวโรงแรมอยู่ติดกับหาด Bai Truong หรือ Long Beach ทางฝั่งตะวันตกของเกาะฟู้ก๊วก ที่นี่จึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะเดินลงไปนั่งเก้าอี้ริมหาด มองลงมาจากระเบียงห้องพักหรือขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงที่ C View Sky Bar ก็ย่อมได้

ฟู้ก๊วก เวียดนาม
ฟู้ก๊วก เวียดนาม

แต่หากอยากสัมผัสกับวิวทะเลที่จริงจังขึ้นหน่อยก็ต้องที่ Sun World Hon Thom Nature Park สถานีขึ้นเคเบิลคาร์เพื่อเดินทางจากเมืองหรือตำบล An Thoi เพื่อไปยังเกาะ Hon Thom ซึ่งในปัจจุบันเปิดบริการวันละ 4 รอบตั้งแต่รอบแรกเวลา 09.00 น. จนถึงรอบสุดท้ายเวลา 15.30 น. ใช้เวลาในการเดินทางรอบละราว 20 นาที สิ่งที่ทำให้ควรค่าแก่การไปเช็กอินคือไม่เพียงวิวทะเลที่มองเห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ แต่เมื่อหันกลับไปยังทางที่ขึ้นมาทุกคนจะได้เห็นวิวเมืองในมุมสูง ประกอบกับหมู่บ้านชาวประมง เรือประมงนับร้อยที่อ้อยอิ่งบนปากอ่าว รวมถึงฟาร์มไข่มุกที่แทรกตัวอยู่ระหว่างทางตลอด 7,899.9 เมตร โดยที่การเดินทางรอบหนึ่งสามารถจุคนได้ไม่เกิน 30 คน 

ส่วนใครที่ชอบความแอดเวนเจอร์เราก็อยากชวนไปสนุกกันต่อกับโรลเลอร์โคสเตอร์ไม้ที่ยาวที่สุดใน Grand World Phu Quoc แต่บอกก่อนว่าไม่ธรรมดา ใครไม่ชอบความหวาดเสียวอาจจะต้องขอผ่าน เพราะใน 1 รอบใช้เวลาทั้งหมดแค่ 2 นาที 10 วินาทีเท่านั้นในระยะทาง 32.4 เมตร คือเรียกได้ว่าลุยยาวไม่มีจังหวะให้หยุดพัก แต่สำหรับสายผจญภัยก็ไม่ควรพลาด

ฟู้ก๊วก

ถึงฟู้ก๊วกแล้วอย่างไรก็ต้องแวะไป Ho Quoc Pagoda วัดที่ใหญ่ที่สุดในฟู้ก๊วกซึ่งกินพื้นที่ถึงราว 20 เปอร์เซ็นต์ของทั้งเกาะ Ho Quoc Pagoda เริ่มสร้างในเดือนตุลาคม ค.ศ.2011 ในระยะเวลา 14 เดือนก็แล้วเสร็จใน ค.ศ.2012 จึงถือได้ว่าเป็นวัดที่ค่อนข้างใหม่ แต่เป็นหมุดหมายยอดนิยมในการเดินทางมาสักการะเจ้าแม่กวนอิม หนึ่งในตัวแทนของวัฒนธรรมจีนที่ผสมผสานอยู่ในเวียดนามและวัดแห่งนี้คือภาพมังกรแปดตัวขนาดใหญ่ที่ลาดเอียงไปกับบันไดทางขึ้น โดยที่เลข 8 คือเลขมงคลของจีน แต่สำหรับเวียดนามนิยมเลข 9 รูปนี้จึงมีความหมายพิเศษคือความมงคลของมังกรแปดตัวตามแบบจีนและเลข 9 ที่นับขึ้นมาอีกหนึ่งเป็นการสื่อถึงกษัตริย์ในแบบฉบับของเวียดนาม 

ฟู้ก๊วก

อีกหนึ่งสปอตที่ว่ากันว่าไม่ไปก็เหมือนไม่ถึง ฟูก๊วก Sunset Sanato จุดเช็คอินยอดฮิตของฟู๊ก๊วกที่เดินทางไม่ไกลจากสนามบินมากนัก สัญลักษณ์อย่างหนึ่งเมื่อมาถึงที่นี่คือประติมากรรมช้างขายาวและรูปปั้นหน้าคนขนาดใหญ่  จุดนี้มีค่าเข้าชมต่อคนราว ๆ 100,000 VND หรือประมาณ 150 บาท แต่อันที่จริงที่นี่เป็นบีชคลับด้วย สำหรับใครที่มีเวลาสามารถไปนั่งชิลได้ตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกก็จะคุ้มค่าเป็นพิเศษ

โดยรวมแล้ว ฟู้ก๊วก อาจจะไม่ได้มีชายหาดหรือน้ำทะเลที่สวยว้าวเหมือนเกาะฝั่งอันดามันของไทย แต่กลับมีเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งเรื่องวิถีประมงท้องถิ่นของเวียดนามและการเป็นปลายทางแห่งใหม่ของเวียดนามใต้ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินทางเข้ามาไม่เยอะมากนัก นั่นจึงทำให้ฟู้ก๊วกเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการปลายทางสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งฟู้ก๊วกเป็นหนึ่งในคำตอบ

Fact File

  • เบสต์เวสเทิร์น พรีเมียร์ โซนาซี ฟู้ก๊วก และ เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ โซนาซี วิลลาฟู้ก๊วก เว็บไซต์ : www.bestwestern.co.th
  • สายการบินไทยเวียตเจ็ท (Thai Vietjet) ให้บริการบินตรงสู่ฟูก๊วกสี่เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์ เว็บไซต์ : www.vietjetair.com

Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ