
ตำนานจั้งไห่ : ผู้ไร้วรยุทธ์แต่อาวุธคือสติปัญญาและเล่ห์เหลี่ยม ล้างแค้น 10 ปีก็ไม่สาย
- ตำนานจั้งไห่ (The Legend of Zang Hai) ซีรีส์จีนย้อนยุคถ่ายทอดเรื่องราวการแก้แค้นของ จั้งไห่ รับบทโดยเซียวจ้าน ที่เต็มไปด้วยแผนการแยบยลและเป็นการใช้สติปัญญาเป็นอาวุธแทนหอกดาบ
- เนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ สะท้อนโบราณราชประเพณี เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ความเป็นอยู่ยากไร้ของราษฎรที่ยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหวของสังคมมาทุกยุคสมัย
- เนื้อเรื่องแสดงถึงความสำคัญของการบูรณาการศาสตร์แขนงต่างๆ ตั้งแต่ ฮวงจุ้ย วิศวกรรม สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ ดาราศาสตร์ จนถึงเทคนิคการเจรจาต่อรอง เพื่อบรรลุเป้าหมาย
ไต่ระดับความเข้มข้นขึ้นทุกตอนสำหรับซีรีส์จีนย้อนยุค ตำนานจั้งไห่ (The Legend of Zang Hai) ที่กำลังออกอากาศทางแพลตฟอร์ม Youku และได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากผู้ชมนับตั้งแต่ตอนแรกที่ฉายเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 กับเรื่องราวการล้างแค้นที่ไม่ได้ใช้วรยุทธ์หรือพละกำลังในการต่อสู้ แต่เป็นการใช้สติปัญญาและการบูรณาการศาสตร์แขนงต่างๆมาใช้ห้ำหั่นศัตรู อีกทั้งเนื้อหายังอิงประวัติศาสตร์ สะท้อนโบราณราชประเพณี เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ความเป็นอยู่แสนอัตคัตของราษฎรที่ยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหวของสังคมมาทุกยุคสมัย

ตำนานจั้งไห่ เป็นผลงานการกำกับของ เจิ้งเสี่ยวหลง (Zheng Xiaolong) ที่มีผลงานซีรีส์ยอดนิยมแนวย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์และการเมือง เช่น เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน (Empresses in the Palace) และ หมี่เยี่ย จอมนางเหนือมังกร (The Legend of Mi Yue) โดยซีรีส์ 40 ตอนจบ ตำนานจั้งไห่ ได้นักแสดงชายชื่อดัง เซียวจ้าน (Xiao Zhan) ที่โด่งดังจากบท เว่ยอู๋เซี่ยน ในซีรีส์เรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed) และล่าสุดกับบท ก้วยเจ๋ง ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง มังกรหยก (The Legends of the Condor Heroes: The Gallants) มารับบท จั้งไห่ ผู้สะสมความแค้นนานนับ 10 ปีและกลับมาชำระความกับกลุ่มผู้มีอำนาจที่สังหารคนในครอบครัวอย่างโหดเหี้ยม

เร้นกาย 10 ปี อัพร่างและโปรไฟล์ใหม่เพื่อรอชำระแค้น
ตำนานจั้งไห่ เป็นเรื่องราวของ จื้อหนู (ชื่อเดิมของ จั้งไห่) บุตรชายวัย 10 ขวบของหัวหน้าโหรหลวง แห่งสำนักโหราศาสตร์ของแคว้นต้ายง เขาเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากโศกนาฎกรรมสังหารหมู่ทั้งครอบครัวโดยขุนนางยศสูงทรงอำนาจ ผิงจินโหว จวงหลูอิ่น (แสดงโดย หวงจู, Huang Jue) เพื่อปิดปากพ่อของจื้อหนูผู้ค้นพบความเร้นลับและสิ่งของลึกลับในระหว่างควบคุมการขุดภูเขาเพื่อก่อสร้างแท่นบวงสรวง จื้อหนูรอดชีวิตมาได้จากความรู้ด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่พ่อปลูกฝังทำให้เขาชื่นชอบขุดอุโมงค์ทำเป็นเส้นทางใต้ดินไปยังห้องต่างๆในอาณาเขตบ้าน และอุโมงค์ใต้ดินนี่เองที่ทำให้เขาหลบซ่อนตัวจากศัตรูได้

จื้อหนู ได้รับความช่วยเหลือจากชายปริศนาผู้สวมหน้ากากและผ้าคลุมสีดำที่ภายหลังเขาเรียกว่า ผู้มีพระคุณ พาหนีออกจากเมืองหลวงไปเร้นกายยังที่ห่างไกลและเพื่อฝึกฝนศาสตร์ในด้านต่างๆ กับอาจารย์ 3 คน จื้อหนูได้รับการผ่าตัดปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์กระดูกและใบหน้าเพื่อไม่ให้เหลือเค้าโครงเดิมที่อาจมีส่วนคล้ายกับพ่อและแม่จนทำให้ศัตรูจำได้ นอกจากการอีโวร่างใหม่แล้ว เขายังมาพร้อมกับชื่อใหม่ว่า จั้งไห่ (แสดงโดย เซียวจ้าน) ที่หมายถึง ผู้เก็บซ่อนความลึกล้ำดั่งมหาสมุทร
ตลอด 10 ปีที่ซ่อนตัวในเงามืด เขาได้เรียนรู้ศาสตร์แขนงต่างๆ ตั้งแต่ ฮวงจุ้ย วิศวกรรม สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ดาราศาสตร์ อุทกศาสตร์ จนถึงการเจรจาต่อรอง และ การควบคุมจิตใจต่อสิ่งยั่วเย้าต่างๆ และภายใต้ใบหน้าสดใสของชายหนุ่มวัย 20 ปี เขาสามารถเอ่ยถึงความคั่งแค้นที่สุมในอกที่ไม่เคยจางหายไปแม้แต่น้อยด้วยน้ำเสียงปกติและท่าทางสบายๆ ว่า คืนนั้นครอบครัวเขาตายกันทั้งหมด 14 คน ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นเวลา 3,325 วัน
“อาจารย์สอนข้าว่า ความแค้นไม่ต้องแสดงออกผ่านใบหน้า เก็บไว้ในใจก็พอ หัวใจเป็นของตัวเอง คนอื่นมองไม่เห็น ใบหน้าหันออกสู่ภายนอก ใครๆ ก็มองเห็นได้”

สิ่งของเร้นลับที่พ่อของจื้อหนูบังเอิญค้นพบและผิงจินโหวต้องการครอบครอง คือ ลัญจกรผี และ มัจฉาคิ้วงู ที่ซ่อนความลับไว้มากมายตามที่ปรากฎในชุดนวนิยายผจญภัยเรื่อง บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน เขียนโดย หนานไพ่ซานซู ซึ่งในนิยายมีการกล่าวถึงตัวละครนามว่า วังฉางไห่ (หรือ จั้งไห่ ในซีรีส์) ว่าเป็นคนสร้างสุสานที่เต็มไปด้วยกลไกมากมาย อย่างไรก็ตามเรื่องของ วังฉางไห่ ไม่มีนิยายแยกออกมาแต่ผู้แต่งได้ขายลิขสิทธิ์ตัวละครนี้ให้ทีมผู้สร้างซีรีส์ นอกจากนี้ผู้เขียนบทเรื่อง ตำนานจั้งไห่ คือ จ้าวหลิ่วอี้ (Zhao Liu Yi) คนเดียวกับที่เขียนบทซีรีส์เรื่อง บันทึกจอมโจรแห่งสุสานภาครียูเนี่ยน: เสียงพิโรธของเทพเจ้า ภาค1-2 และ บันทึกจอมโจรแห่งสุสานทะเลทราย

บูรณาการศาสตร์หลากแขนงเพื่อหล่อหลอมเป็นอาวุธสังหาร
จั้งไห่ ได้รับการฝึกฝนศาสตร์ด้านต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ภูมิศาสตร์ และ ฮวงจุ้ย จากอาจารย์ชิงโต่ว ที่เน้นย้ำว่าการผิดพลาดในการคำนวณแม้เพียงนิดเดียวก็หมายถึงหายนะอันใหญ่หลวง ส่วนอาจารย์เกาหมิงขัดเกลาเรื่องการใช้วาทศิลป์ในการเจรจาต่อรองที่สามารถเอาชนะกองกำลังขุนพลนับหมื่นได้และการแสดงที่แนบเนียนจนจับไม่ได้
“สิ่งที่ต้องทำคือทำให้คนเชื่อในเรื่องที่อยากให้เขาเชื่อ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าปลอมได้สมจริงแค่ไหน หรือว่าสวมเครื่องแต่งกายเหมือนสักเท่าไหร่ แต่ต้องรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นกลัวอะไรที่สุดแล้วก็มุ่งหวังอะไรมากที่สุด ความสามารถที่ร้ายกาจที่สุดบนโลกใบนี้คือใช้ความจริง คำพูดที่แท้จริงมาหลอกคน”
อาจารย์เกาหมิงอธิบายถึงเรื่องการเจรจาต่อรองว่าเกี่ยวพันถึงความรู้ในใต้หล้าต้องครอบคลุมทุกด้านและเชี่ยวชาญทุกแขนง

ชายชาตรีแม้ชาญฉลาดแค่ไหน หรือแม้แต่ผู้ครองเพศบรรพชิตมานานหลายพรรษาก็อาจพลาดพลั้งต่อความเย้ายวนและความอ่อนโยนของสตรีได้ ดังนั้นนอกจากการบ่มเพาะความรู้ในด้านต่างๆ ให้เชี่ยวชาญแล้ว จั้งไห่ ยังได้รับการทดสอบจากอาจารย์หญิง ลิ่วซู ให้รู้จักการปกปิดอารมณ์ความรู้สึก
“ต้านทานความเย้ายวนแห่งความปรารถนาไม่ยาก สิ่งที่ยากคือต้านทานความเย้ายวนของความรู้สึก เจ้าไม่เพียงแค่ต้องปกปิดตัวเองเอาไว้ ยังต้องฝึกฝนอารมณ์ให้อยู่ในระดับสุดยอด ทำให้คนรู้สึกว่าเจ้าร้องไห้เป็นเรื่องจริง ที่ยิ้มก็เป็นเรื่องจริง”
นี่คือบทเรียนจากอาจารย์หญิงลิ่วซูที่ว่า สิ่งที่ป้องกันได้ยากที่สุดบนโลกใบนี้คือความจริงใจ

ถึงเวลามังกรเร้นกายลงสู่น้ำทะเลลึก
เหตุการณ์การสิ้นพระชนม์ของไทเฮา ความขัดแย้งของขุนนางในราชสำนักเกี่ยวกับโบราณราชประเพณีในการฝังพระศพ และการคานอำนาจระหว่างฮ่องเต้และท่านอ๋อง นับเป็นโอกาสเหมาะที่ จั้งไห่ จะได้กลับสู่เมืองหลวงด้วยร่างใหม่และโปรไฟล์ใหม่เพื่อหาทางให้ได้ทำงานใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจาก ผิงจินโหว ผู้มีวรยุทธ์เป็นเลิศ รอบคอบ ขี้ระแวง สวมเสื้อเกราะอ่อนไหมทองตลอดเวลาและห้อมล้อมด้วยองค์รักษ์ ซึ่งการจะกำจัดเขาได้นั้น จั้งไห่ตระหนักดีว่า “ยากเย็นเหมือนขึ้นสวรรค์ มีเพียงเอาชนะด้วยปัญญา”
การฝ่าด่านแรกเพื่อเข้าทำงานในจวนของผิงจินโหวต้องใช้สติปัญญาในการแก้กลไกของสุสานหลวงและ จั้งไห่ เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว การเห็นชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายต่อหน้าเพิ่มขึ้นจากกลไกสังหารป้องกันผู้บุกรุกสุสานหลวงยิ่งเพิ่มความคับแค้นใจนอกเหนือไปจากการตายของ 14 คนในครอบครัวของเขา

ความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม อุทกศาสตร์ รวมถึงการใช้วาทศิลป์ เล่ห์เหลี่ยมและการใช้ความเชื่อของผู้คนในเรื่องสิ่งเร้นลับและการเคารพเบื้องสูง เป็นสิ่งที่ จั้งไห่ ใช้เพื่อเอาตัวรอดและหาทางใกล้ชิดกับศัตรู นอกจากนี้ในเรื่องยังสะท้อนเรื่องการคอรัปชั่นของเหล่าขุนนางที่ป่าวประกาศว่าตนเองเป็น ผู้จงรักภักดี แต่กลับโกงกินงบประมาณการสร้างสุสานหลวงใต้ดินจนเกิดความเสียหายต่อการฝังพระศพอดีตฮ่องเต้และไทเฮา

โบราณราชประเพณีคร่ำครึกับความแร้นแค้นของราษฎร
ขุนนางที่ยักยอกงบประมาณแผ่นดินในการสร้างสุสานหลวงจนต้องมีการบูรณะใช้เล่ห์เหลี่ยมหาทางสังหารปิดปากช่างฝีมือ 8 คน และ จั้งไห่ ผู้รับหน้าที่ควบคุมการบูรณะ โดยการอ้างโบราณราชประเพณีเรื่องการสังเวยฝังคนเป็นไปพร้อมกับพระศพอดีตฮ่องเต้และไทเฮาเพื่อปลอบประโลมวิญญาณเบื้องสูง ด้วยกล่าวอ้างว่าดวงชะตาแปดอักษรหยินหยางของคนเหล่านี้ต้องโฉลกกับวิญญาณจึงควรฝังร่วมอยู่ในสุสานหลวงตลอดกาล

ดวงชะตาแผ่นดินตามโหราศาสตร์ ความจงรักภักดี โบราณราชประเพณี และเงินปลอบขวัญก้อนโต เป็นเงื่อนไขที่ขุนนางฉ้อฉลนำมาใช้บีบบังคับทางอ้อมให้เหล่าช่างฝีมือผู้ยากไร้ยอมจำนนดั่งที่ช่างคนหนึ่งกล่าวว่า
“จิตใจที่จงรักภักดี ใครกล้าพูดว่าไม่บ้าง เพียงแต่จากการถูกบังคับ เปลี่ยนเป็นสมัครใจก็เท่านั้นเอง ราชสำนักจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อปลอบขวัญคนที่ถูกฝังสังเวย เราล้วนเป็นคนที่กำลังจะตาย ยังไม่สู้เอาชีวิตของเราแลกเงินทองให้ครอบครัวและลูกๆมีชีวิตต่อไปดีกว่า”

และเป็นอีกครั้งที่คนรอบตัวของ จั้งไห่ ถูกฆ่าตายหมดอย่างโหดเหี้ยมในสุสานแทนที่จะให้ดื่มยาพิษตามประเพณี เขาต้องใช้เล่ห์เหลี่ยม ความสามารถในศาสตร์ต่างๆ และวาทศิลป์ พาตัวเองออกมาจากสุสานและพิธีสังเวยพร้อมกับใช้เรื่อง ดวงชะตาแปดอักษรสมพงศ์กับดวงวิญญาณเบื้องสูง ย้อนรอยให้ขุนนางผู้ตั้งเงื่อนไขนี้เองกลายเป็นผู้รับเคราะห์แทน

ส่วนผิงจินโหว แม้จะเป็นขุนนางยศสูง วรยุทธ์เป็นเลิศ แต่ยังมีความเชื่อไม่มากก็น้อยเรื่องฮวยจุ้ยและโหราศาสตร์ ดังนั้นเมื่อผนวกกับคำทำนายของซินแส (ตัวปลอม) ที่ว่าจะมี ดาวมงคลจุติในสถานการณ์ที่คนนั้นจะตายแต่ไม่ตาย อันเป็นอุบายของจั้งไห่และอาจารย์ ทำให้ผิงจินโหวผู้เปี่ยมด้วยเล่ห์เหลี่ยมไม่แพ้กันแม้จะคลางแคลงใจและรู้ดีว่า จั้งไห่ เป็นคนอันตรายแต่ก็แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้วยความคิดว่า “แทนที่จะเลี้ยงหมูทั้งฝูง มิสู้เลี้ยงหมาป่าสักตัว”

นี่เป็นเพียงแค่ปฐมบทของแก้แค้น (เนื้อหาที่กล่าวถึงปรากฎใน Ep 1-9) และการต่อสู้แบบบุ๋นที่ต่างฝ่ายต่างเต็มไปกลอุบายและแผนการแยบยลที่รอให้อีกฝ่ายพลาดพลั้ง ดังเช่น เนื้อเพลงท่อนหนึ่งของ original soundtrack เรื่องนี้ที่ว่า
“เก็บงำความคมกริบในดวงตา
กำความโหยหาอันตรายไว้ในฝ่ามือ
คลื่นกระหน่ำซ่อนในแขนเสื้อ
ฟ้าร้องไร้เสียง
แผนการลึกซึ้ง ลึกไม่เท่าสายตาข้า”
Fact File
รับชม ตำนานจั้งไห่ (The Legend of Zang Hai) ได้ทางแพลตฟอร์ม Youku
