ศิลปะกับคนนอก นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ บิล เบนสเลย์ สถาปนิกผู้ออกแบบโรงแรมกว่า 200 แห่งทั่วโลก

นอกจากจะเป็นสถาปนิก นักออกแบบตกแต่งภายในและภูมิสถาปนิกชาวอเมริกันผู้มีผลงานออกแบบโรงแรมและรีสอร์ตกว่า 200 แห่งทั่วโลก เช่น โรงแรม Four Seasons ที่เชียงราย และ The Siam ที่กรุงเทพฯ บิล เบนสเลย์ (Bill Bensley) ยังสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมเกือบ 100 ชิ้นและภาพสเก็ตช์นับไม่ถ้วนในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาโดยบางภาพมีขนาดใหญ่ถึง 3 เมตร

ผลงานเหล่านี้กำลังได้รับการรวบรวมเพื่อจัดแสดงในนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเขาในชื่อว่า The Outsider Art of Bill Bensley ที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ระหว่างวันที่ 15 กันยายน – 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนนิทรรศการ เบนสเลย์ ได้คัดเลือกผลงานจำนวน 10 ภาพที่พูดถึงประเด็นต่าง ๆ ที่กำลังร้อนแรง เช่น LGBTQ+ โรคระบาด การเหยียดเชื้อชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้สนใจร่วมประมูลทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.rcbauctions.com และแพลตฟอร์มชื่อดัง www.invaluable.com โดยเริ่มเปิดประมูลวันแรกเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลกและเปิดให้ประมูลจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564 (กรุงเทพฯ เวลาเที่ยงคืน)

การประมูลครั้งนี้ยังเป็นการเปิดตัวแพลตฟอร์มการประมูลออนไลน์บนเว็บไซต์ใหม่ของ RCB Auctions ซึ่งเป็นบริษัทประมูลโบราณวัตถุและศิลปวัตถุแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยืนยงในวงการสะสมและแลกเปลี่ยนของเก่ามานานกว่า 35 ปี รายได้จากการประมูลประมาณ 80% จะบริจาคให้กับ Shinta Mani Foundation และ Wildlife Alliance เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพิทักษ์สัตว์ป่า

เบนสเลย์ มักเรียกตัวเองว่าเป็น คนนอก ของวงการศิลปะเนื่องจากไม่ได้เรียนด้านวิจิตรศิลป์โดยตรง และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อนิทรรศการ The Outsider Art of Bill Bensley แต่ด้วยใจรักศิลปะทำให้เขาศึกษาค้นคว้าและหัดวาดภาพด้วยตัวเองและจากคำชี้แนะของเพื่อนศิลปินโดยเฉพาะเพื่อนรักอย่าง เคท สเปนเซอร์ (Kate Spencer) 

เขาทำงานหลากหลายเทคนิค เช่น สีน้ำ สีอะคริลิก สีน้ำมันและงานคอลลาจโดยขนาดภาพมีตั้งแต่ 50×50 เซนติเมตรจนถึงขนาดใหญ่ 3 เมตร ลักษณะงานได้รับอิทธิพลจากศิลปะแนวโฟวิสม์ (Fauvism) ซึ่งมีการใช้สีสันสดใสตัดกันและแฝงด้วยอารมณ์ขัน เขาสร้างสรรค์ผลงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาระหว่างเดินทางไปทั่วภูมิภาคเอเชียและที่บ้านโบทานิกาซึ่งเป็นทั้งบ้านสวนและสตูดิโอของเขาในกรุงเทพฯ

“ผมรักศิลปะมาโดยตลอดและมักอิจฉาศิลปินดัง ๆ ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานให้ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ ผมชอบศิลปะที่เข้าถึงได้ง่ายจนรู้สึกว่าตัวเองก็สามารถทำได้คิดว่านี่คือเหตุผลที่ผมชอบงานศิลปะในแนวทางแบบคนนอกระบบ เพราะศิลปะตอบรับทุกคนแต่ในขณะเดียวกันก็ท้าทายความเป็นศิลปิน ศิลปะสำหรับผมคือการเล่าเรื่องราว การบอกกล่าวและการสร้างความแตกต่าง ผมเขียนรูปมาโดยตลอดเพื่อระดมเงินให้แก่ผู้ยากไร้และเพื่อปกป้องธรรมชาติของพวกเราผ่านองค์กรอย่าง Wildlife Alliance และ Shinta Mani Foundation” เบนสเลย์กล่าว

เบนสเลย์ มักใช้เวลาช่วงเช้าตรู่วาดภาพก่อนที่เขาจะเริ่มทำงานในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Bensley สตูดิโอออกแบบที่มีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และบาหลีซึ่งมีทีมงานร่วม 150 ชีวิตรวมถึง จิระชัย เร่งทอง ผู้เป็นทั้งคู่ชีวิตและคู่คิดในการทำงานของเขา

ในนิทรรศการที่จะเปิดในเดือนกันยายนนี้จัดแสดงภาพเขียนจำนวน 90 ชิ้นและแบ่งเป็น 5 ธีมหลักคือ การผจญภัยในปาปัวนิวกินี สิ่งแวดล้อม โรคระบาดและการเหยียดเชื้อชาติ สังคมของ LGBTQ+ และความฝัน 

ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2562 เบนสเลย์ ได้มีโอกาสเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ ที่ห่างไกลความเจริญในประเทศปาปัวนิวกินี ชุมชนเหล่านี้มีอายุนับพันปีและไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอก ภูมิทัศน์ที่งดงามและไมตรีจิตของผู้คนที่นั่นสร้างความประทับใจให้เขามากจนสเก็ตช์ภาพพอร์เทรตของคนในชุมชนไว้จำนวนหนึ่ง เนื่องจากเบนสเลย์สามารถพูดภาษาอินโดนีเซียได้จึงทำให้พวกเขาต่างได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เบนสเลย์ ได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ด้านหลังภาพพอร์เทรตแต่ละภาพที่เขาสเก็ตช์ เมื่อกลับมาถึงสตูดิโอที่กรุงเทพฯเขาเริ่มต้นวาดภาพขนาดใหญ่ตามแบบที่ได้สเก็ตช์ไว้ ที่ด้านหลังภาพเขียนแต่ละภาพยังแนบภาพสเก็ตช์ออริจินัลเพื่อให้ผู้ชมได้รับฟังเรื่องราวที่เขาประทับใจ

เบนสเลย์ ใส่ใจเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่เขาเป็นที่รู้จักในฐานะภูมิสถาปนิก นักออกแบบตกแต่งภายในและสถาปนิก รวมถึงบทบาทล่าสุดที่เป็นศิลปิน เขากล่าวว่างานออกแบบของเขาพยายามใช้พื้นที่ให้น้อยที่สุดเพื่อสร้างผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติโดยรอบให้น้อยที่สุด เช่น โปรเจกต์เต็นท์แคมป์สุดไพรเวตที่ชื่อ Shinta Mani Wild ซึ่งตั้งอยู่ในป่าลึกบนเขตรอยต่อของ 3 ผืนป่าขนาดใหญ่ในประเทศกัมพูชา ในภาพเขียนเบนสเลย์วาดรูปคนอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนเหมือนดังคำกล่าวของ เดวิด แอตเทนบะระ (David Attenborough) นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษที่เบนสเลย์ยกย่องให้เป็นฮีโร่ของเขาในเรื่องสิ่งแวดล้อมว่า “ถ้าเราดูแลธรรมชาติ ธรรมชาติจะดูแลเราเช่นกัน”

ประเด็นร้อนแรงเรื่องโรคระบาดและการเหยียดเชื้อชาติเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เขาให้ความสนใจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ในภาพชื่อ “สิ่งที่พวกเขาทำได้คืออยู่บ้านและดูโทรทัศน์” มีภาพมนุษย์ต่างดาวมองมายังโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยมลพิษและการเหยียบย่ำกันโดยเห็นว่ามนุษย์นั้นช่างโง่เขลาและกิจกรรมที่ทำได้มีเพียงการอยู่บ้านและดูโทรทัศน์เท่านั้น

เบนสเลย์กล่าวว่าเขารักประเทศไทยและตัดสินใจตั้งรกรากอยู่ที่นี่เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยอมรับความหลากหลายของเชื้อชาติและเพศสภาพ ในผลงานของเขาจึงบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านภาพของเพื่อน ๆ ที่เขาขอร้องให้มาเป็นแบบสำหรับวาดภาพที่สตูดิโอ 

ส่วนธีมสุดท้ายในนิทรรศการบอกเล่าเรื่องความฝันที่ บิล เบนสเลย์ จะพาผู้ชมไปท่องดินแดนจินตนาการอันบรรเจิดของเขา ความฝันนี่เองเป็นตัวขับเคลื่อนให้เขาออกแบบโปรเจกต์ชื่อดังมากมาย เช่น Royal Istana Palace พระราชวังส่วนตัวของสุลต่านในมาเลเซีย เต็นท์แคมป์สุดหรู Capella Ubud ในผืนป่าเขตร้อนของบาหลีและ Yen Tu MGallery โปรเจกต์ที่ปรับสถานที่ปฏิบัติธรรมในยุคศตวรรษที่ 12 ท่ามกลางผืนป่าให้เป็นที่พักไพรเวตในเวียดนาม

Fact File

• รายละเอียดเกี่ยวกับการประมูลคลิก www.rcbauctions.com หรือ https://www.invaluable.com/catalog/7purqdstux
• รายละเอียดเกี่ยวกับนิทรรศการคลิก rivercitybangkok.com/blog/2021/05/the-outsider-art-of-bill-bensley