อิเกีย x เกรฮาวด์ เมื่อกรุงเทพฯ ที่ยุ่งเหยิงถูกเปลี่ยนเป็นเฟอร์นิเจอร์สนุกๆ ฉบับไทย

เรียกเสียงฮือฮาให้วงการออกแบบและดีไซน์ได้มากสำหรับ อิเกีย x เกรฮาวด์ เมื่อ เกรฮาวด์ (Greyhound) แบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ความแหวกแนว และความสนุกสนาน จับมือกับ อิเกีย (IKEA) บริษัทค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากสวีเดน ออกคอลเล็กชันพิเศษร่วมกันเป็นครั้งแรก

ผลลัพธ์ที่ได้คือคอลเล็กชัน เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้านที่แฝงความสนุกแบบไทยๆ โดยคอลเล็กชันนี้ไม่เพียงเหมาะกับการใช้ชีวิตในพื้นที่ขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อกระแสความคิดใหม่ในการใช้ชีวิตแบบรักษ์โลก พร้อมที่จะดูแลโลกโดยเริ่มจากที่อยู่อาศัย

ให้ความไม่สมบูรณ์คือความสมบูรณ์

เกรฮาวด์ เป็นแบรนด์เดียวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเลือกให้ร่วม Collaboration Projects 2020 กับ อิเกีย ในคอลเล็กชันพิเศษที่ชื่อ “SAMMANKOPPLA/ซัมมันคอปล่า” (ภาษาสวีเดนแปลว่า ความเชื่อมโยง หรือเชื่อมต่อ) ซึ่งอยู่ภายใต้แนวคิด “Imperfect is perfect” (ความไม่สมบูรณ์คือความสมบูรณ์)

SAMMANKOPPLA/ซัมมันคอปล่า มุ่งเน้นตอบโจทย์เทรนด์ทั่วโลกซึ่งคนย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงมากขึ้น ส่งผลต่อการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดที่ตามมา โดยคีย์เวิร์ดหลักในการออกแบบคือความเป็นอยู่แบบไทยยุคใหม่ที่ผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต รวมทั้งความเชื่อแบบไทยๆ ที่ปลูกฝังส่งต่อกันมายาวนานเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างประหยัด พอเพียง ยั่งยืน ที่สำคัญไม่ทิ้งความเป็นแบรนด์ Casual Street Style ของเกรฮาวด์ที่มีความสร้างสรรค์และสนุกสนาน

“การร่วมงานกับเกรฮาวด์ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องการคิดพลิกแพลง ด้วยมุมมองของแบรนด์ที่มีความขี้เล่น ผ่อนคลาย จึงได้ผลงานดีไซน์ที่มีความแปลกใหม่ เราตั้งใจให้ ‘SAMMANKOPPLA/ซัมมันคอปล่า’ ตอบความต้องการของกลุ่มคนที่ ‘young at heart’ มองหาเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังปรับแต่งได้หลากหลายตามการใช้งาน ช่วยให้จัดสรรงบประมาณและพื้นที่ได้เป็นอย่างดี” ไมเคิล นิโคลิก หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ อิเกีย สวีเดน กล่าว

สนุกสนานและร่วมสมัยแบบไทยสไตล์

สินค้าหลายชิ้นในคอลเล็กชัน เน้นการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชันและการนำเอาวัสดุเก่ามาหมุนเวียนใช้ใหม่ เช่น โคมไฟที่ดัดแปลงจากกระปุกน้ำยาเก่า แนวคิดของการต่อโครงสำหรับทำนั่งร้าน ซึ่งมีแรงบันดาลใจในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากโจทย์คือเรื่องความเบา และต้องมีความคล่องตัวในการใช้สอย

หรือการนำเอางานหัตถกรรมจักสานพื้นบ้านไทยมาต่อยอดด้วยวัสดุและดีไซน์ที่ทันสมัย เพื่อชูแนวคิด 3R (Reduce / Reuse / Recycle) ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (environmental footprint) และที่สำคัญสุดคืออยู่ในช่วงราคาที่ทุกคนจับต้องได้

ภาณุ อิงคะวัต Co-Founder GREYHOUND ORIGINAL อธิบายถึงที่มาของคอลเล็กชัน นี้ว่าได้แรงบันดาลใจจากความเป็น กรุงเทพมหานคร เมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่งแต่พลิกแพลงให้สิ่งที่ไม่สมบูรณ์เป็นความสมบูรณ์แบบได้อย่างลงตัว

“ตลอด 40 ปี ที่เกรฮาวด์ทำธุรกิจด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์มา เราชื่นชอบในความเรียบง่าย แต่ก็เชื่อว่าในความเรียบง่ายไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ เราจึงสอดแทรกความสนุก สร้างสรรค์ และศิลปะ เพื่อเปลี่ยนทุกๆ วันของชีวิตที่ธรรมดา ให้ไม่ธรรมดา คอลเล็กชัน นี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้นำเสนอความคิดสไตล์เกรฮาวด์สู่โลก โดยผสมผสานกับความคิดและความเชื่อแบบไทยๆ นำเอาความสับสนวุ่นวายของกรุงเทพมหานครเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง มาพลิกแพลงให้โลกได้เห็นว่า ในความที่ไม่ลงตัวสามารถกลายเป็นชิ้นงานที่สนุกและลงตัวได้”

กรุงเทพฯ เมืองยุ่งๆ ที่ลงตัว

นั่งร้านที่เห็นอยู่เกลื่อนกลาดตามถนนของเมืองใหญ่ที่กำลังพัฒนาอย่างกรุงเทพฯ นำมาต่อยอดไอเดียเป็นสินค้า 3 อย่าง คือ โต๊ะ รถเข็นวางของ และ ราวแขวนผ้าเคลื่อนที่ (ราคา 2,990 บาท ต่อชิ้น) ในสไตล์ Industrial Chic ที่ยังคงความดิบๆ ความดั้งเดิมของวัสดุ ตัวโต๊ะมีการเติมลายกราฟิกแบบไทยๆ ไปที่ขอบโต๊ะให้เป็นลูกเล่นแบบไทยดีไซน์ที่มากขึ้น และทั้ง 3 ชิ้นมีการติดล้อให้เคลื่อนย้ายสะดวกและล็อกได้เพื่อความปลอดภัยเหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก

ในคอลเล็กชันนี้เราจะได้เห็นเสื่อถักพื้นบ้านของไทย ที่นำมาออกแบบใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ด้วยการเติมลวดลายกราฟิกแบบไทย 3 ลายผสมผสานกันในเสื่อทอ 1 ผืนจากพลาสติกรีไซเคิล และหากพลิกเสื่อนี้ใช้งานอีกด้านจะได้เสื่อสีสลับด้านที่สร้างความแปลกใหม่ (ราคา 1,290 บาท สำหรับผืนใหญ่และ ราคา 490 บาท สำหรับผืนเล็ก)

กระปุกน้ำยาเก่าๆ ได้นำมาแปลงร่างเป็นโคมไฟ LED (ราคา 690 บาท) และเพิ่มความยาวของสายไฟเป็นพิเศษถึง 5 เมตร เผื่อต้องการลากโคมไฟไปวางให้ความสว่างบนพื้นมุมห้อง หรือนำออกไปใช้ที่สนาม และเมื่อเอามาเก็บแขวนคืนที่เสา ก็ยังมีลูกเล่นสายไฟยาวๆ ที่พันกันยุ่งเหยิงเหมือนสายไฟฟ้าที่ระเกะระกะอยู่ตามเสาไฟบนถนนกรุงเทพฯ ที่เราคุ้นตา

บานพับประตูตึกแถวโบราณในกรุงเทพฯ ยังเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการดีไซน์ฉากกั้นห้อง (ราคา 1,990 บาท) ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายง่าย

หมอนอิงสามเหลี่ยมแบบไทยนำมาเพิ่มความร่วมสมัยโดยเปลี่ยนวัตถุดิบจากผ้าลายไทยพื้นบ้านเป็นผ้าฝ้ายสีดำเรียบแบบมินิมัล และเพิ่มลายสามเหลี่ยมด้านข้างด้วยการพิมพ์สกรีนด้วยมือเพื่อให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ขณะเดียวกันก็ดูง่ายๆ สบายๆ ตามวิถีชีวิตไทยๆ ส่วนปลอกหมอนทำจากฝ้ายที่ปลูกโดยใช้ยาฆ่าแมลงให้น้อยที่สุด และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ถอดซักได้ ส่วนไส้ในเป็นวัสดุโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (ราคา 990 บาท)

นอกจากนี้ยังมีหมอนทรงกลม มี 3 สีให้เลือกคือ เขียว แดง ฟ้า  ทำจากผ้าฝ้ายและไส้ในเป็นวัสดุโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลเช่นกัน ถอดซักได้ (ราคา 399 บาท)

การพบกันระหว่างไอเท็มฮิตของเกรฮาวด์และอิเกีย

เสื้อยืดเกรฮาวด์ยังคงยืนหนึ่งเป็นไอเท็มฮิตอย่างหนึ่งของแบรนด์ ดีไซเนอร์จึงหยิบมาเพิ่มความสนุกสนานทำเป็นเสื้อยืดคลุมเก้าอี้ที่ออกแบบให้พอดีกับเก้าอี้มาตรฐานทั่วๆ ไป รวมทั้งเก้าอี้อิเกียหลายๆ แบบแถมมีกระเป๋ามากมายให้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น มือถือ สายชาร์จ และ นิตยสาร (ราคา 925 บาท)

ถุงหิ้ว FRAKTA/ฟรัคต้า เป็นสินค้าอิเกียที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ครั้งนี้ได้นำมาผสมความเป็นไทยด้วยการเอาลายทอผ้าขาวม้าที่คนไทยรู้จักดีมาปรับใช้ พร้อมทั้งเพิ่มฟังก์ชั่นที่อาจเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างเพิ่มซิปที่ปากถุงกลายเป็นการเพิ่มทั้งคุณค่าและความปลอดภัยในการใช้งาน  รองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 25 กิโลกรัม (ราคา 149 บาท)

วัสดุเดียวกับถุงหิ้ว FRAKTA/ฟรัคต้า ยังนำมาต่อยอดเป็นกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊ก เหมาะสำหรับใส่โน้ตบุ๊กขนาด 14 นิ้ว บุวัสดุกันกระแทก มีสายคล้องมือช่วยให้ถือกระชับมั่นคง (ราคา 99 บาท) นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าใส่ของขนาดเล็กซึ่งแต่ละใบจะมีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากการวางแพตเทิร์นให้มีวัสดุเหลือใช้น้อยที่สุด(ราคา 49 บาท) และกระเป๋าสะพายที่ดีไซน์ด้วยรูปทรงเดียวกับกระเป๋ารุ่นยอดนิยมของเกรฮาวด์ ออริจินัล ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากถุงทราย กระเป๋าสามารถปรับความยาวและถอดออกได้ สามารถใช้เป็นกระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋าถือได้ มีช่องใส่ของแยก 2 ช่อง (ราคา 149 บาท)

“การทำงานกับอิเกียเป็นโอกาสและประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ เราได้เรียนรู้วิธีการทำงานที่ยึดมั่นในปรัชญาของแบรนด์ การค้นหาแนวทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องให้ออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม แต่มีราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การได้เข้าใจวิธีที่แบรนด์เก่าแก่อย่างอิเกีย ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้และปรับตัวไปกับกระแสใหม่ๆของโลกและความต้องการที่เปลี่ยนตลอดเวลาของลูกค้า ทำให้แบรนด์ร่วมสมัย และไม่ตกยุคมาตลอดปีแล้วปีเล่า” ภานุ กล่าว

อิเกียและเกรฮาวด์ ใช้เวลากว่า 3 ปี ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดสำหรับคอลเล็กชันนี้ เริ่มตั้งแต่การแลกเปลี่ยนความคิด การออกแบบ การเลือกวัสดุ ตลอดจนการผลิต มีสินค้ารวม 25 รายการ พร้อมวางจำหน่ายที่อิเกียทั่วโลกในเดือนสิงหาคม ส่วนที่ประเทศไทยวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ในจำนวนจำกัดที่อิเกีย บางนา และอิเกีย บางใหญ่เท่านั้น

Fact File

• รายละเอียดเพิ่มเติมคอลเล็กชัน อิเกีย x เกรฮาวด์ คลิก www.ikea.co.th