6 เคล็ดลับสุขภาพ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกล “โรคภูมิแพ้”
Better Living

6 เคล็ดลับสุขภาพ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกล “โรคภูมิแพ้”

Focus
  • โรคภูมิแพ้ เกิดได้จากปัจจัยทางพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมตัวการที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เรียกกว่า สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายทางระบบหายใจ  อาหาร  การสัมผัสทางผิวหนัง การสัมผัสทางตา  ทางหู  หรือทางจมูก
  • โรคภูมิแพ้มีวิธีการรักษาอยู่หลายอย่างตั้งแต่การใช้ยาไปถึงการดูแลตัวเอง ซึ่งหากเราดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็อาจจะทำให้อาการของภูมิแพ้ยากที่จะกำเริบขึ้นมา

โรคภูมิแพ้ เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่นอกจากปัจจัยทางพันธุกรรมแล้วก็ยังเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจนทำให้มี สารก่อภูมิแพ้ (allergens) หรือ สิ่งกระตุ้น อยู่รอบตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยมลภาวะฝุ่น แบคทีเรีย ควัน และสารพิษ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยในการเพิ่มความเสี่ยงที่นำไปสู่โรคภูมิแพ้ด้วยกันทั้งสิ้น เฉพาะในประเทศไทยเองมีสถิติการเกิดโรคภูมิแพ้สูงขึ้นทุกปีมากถึง 3-4 เท่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาและแม้ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่จะมองว่าโรคภูมิแพ้เป็นโรคทั่วไป เป็นโรคประจำตัวที่ไม่อันตรายมาก แต่สำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้อยู่ตลอดแทบจะทั้งปีและต่อเนื่องนานหลายปีจะรู้ว่าโรคภูมิแพ้นั้นสร้างความน่ารำคาญใจให้มากเพียงใด อีกทั้งยังมีผลต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การปฏิบัติตัวที่ต้องเคร่งครัดขึ้นกว่าคนทั่วไป รวมไปถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันไม่ให้อาการของโรคกำเริบ ซึ่งในบางเคสที่เป็นโรคภูมิแพ้ขั้นรุนแรง อาจถึงกับต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจกันเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าร่างกายเราต้อง ‘แพ้’ ให้โรคภูมิแพ้เสมอไป ตรงกันข้ามโรคภูมิแพ้สามารถทุเลาเบาบางลงได้หากเรารู้จักวิธีป้องกันดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้อาการของโรคภูมิแพ้กำเริบรุนแรง เริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ว่ามีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยทางพันธุกรรม และ ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม คนที่เป็นโรคนี้ตั้งแต่ตอนเด็ก เมื่ออายุมากขึ้นบางคนอาจจะมีอาการลดลงไปเอง แต่บางคนก็ยังมีอาการภูมิแพ้จนถึงตอนโต โรคภูมิแพ้อาจหายขาดได้หรือไม่ขึ้นอยู่ปัจจัยที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับสภาพแวดล้อมรอบตัว การดูแลร่างกาย ไปจนถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับ 6 เคล็ดลับสุขภาพฉบับห่างไกล โรคภูมิแพ้ ที่หลายคนมองข้าม แต่เพียงแค่หลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอาการของโรคภูมิแพ้กำเริบได้แล้ว

01 แค่ขยับเท่ากับโบกมือลาภูมิแพ้

แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย แต่จะดียิ่งกว่าหากใน 1 สัปดาห์เราลุกขึ้นมาขยับแข้งขยับขาออกกำลังกายสัก 2-4 วัน ครั้งละ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย เคล็ดลับคือต้องกลั้นใจบอกตัวเองว่า “ฉันทำได้” และตัดสินใจลุกจากที่นอนหรือโต๊ะทำงานมาออกกำลังกายให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การออกกำลังกายกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ประจำวัน ซึ่งแม้เราจะออกกำลังกายเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทว่าหากทำได้อย่างสม่ำเสมอในทุกสัปดาห์ ความน้อยจะสะสมเป็นความแข็งแรงของสุขภาพ เป็นหัวใจสำคัญที่นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการของโรคภูมิแพ้แล้ว ยังเป็นเสมือนการสร้างเกราะภูมิคุ้มกันที่ดีให้ร่างกายอีกด้วย

จำไว้ว่าร่างกายของแต่ละคนแตกต่างไม่เหมือนกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องออกกำลังอย่างหักโหม จะเลือกวิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ สควอช ยืดเหยียดกับเก้าอี้ในห้องทำงาน หรือเดินช้าๆ ในสวนก็ถือเป็นการออกกำลังกายทั้งนั้น โดยผลลัพธ์ของการออกกำลังกายจะทำให้ความไวของเยื่อบุจมูกและหลอดลมลดลง ยิ่งในคนที่ออกกำลังจนกลายเป็นกิจวัตรก็จะยิ่งทำให้อาการจากโรคภูมิแพ้ค่อย ๆ ดีขึ้นไปจนถึงขั้นอาจลืมไปแล้วว่าเคยเป็นภูมิแพ้

02 ร่างกายต้องการ “การนอน”

แม้จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าร่างกายขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอและมีคุณภาพ สุดท้ายอาการของโรคภูมิแพ้ก็จะกลับมาเคาะประตูหน้าบ้านอีกครั้งอย่างแน่นอน เหตุผลก็เพราะการนอนหลับอย่างมีคุณภาพคือโมงยามสำคัญในการเสริมเกราะให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ขณะนอนหลับร่างกายจะทำการซ่อมแซมฟื้นฟู และปรับสมดุลระบบต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งการเข้านอนเร็วยังช่วยให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยปรับระดับความเครียดในร่างกายให้อยู่ในภาวะที่สมดุลย์ เป็นอีกทางในการกระตุ้นภูมิต้านทานให้ทำงานอย่างดีเยี่ยม

แม้หลายคนจะรู้อยู่แล้วว่าการนอนหลับคือสิ่งที่ร่างกายต้องการ แต่ดูเหมือนว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและมีคุณภาพจะไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนพยายามนอนหลับแต่หลับไม่สนิท หลายคนยังคงเก็บสะสมความตึงเครียดระหว่างวันไปคิดวนเวียนระหว่างที่หลับตา ไหนจะเรื่องการจัดสิ่งแวดล้อมในห้องนอนที่จำเป็นต้องเอื้อต่อการนอนอีก ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ เสียงเพลง หรืออากาศที่ถ่ายเท ล้วนมีผลต่อคุณภาพการนอนทั้งสิ้น ดังนั้นนอกจากกฎเหล็กไม่เข้านอนดึกจนเกินไป หรือนอนตามสูตร6-8 ชั่วโมงแล้ว ตัวช่วยอย่างเครื่องฟอกอากาศเพื่อสร้างบรรยากาศในการนอนจึงเป็นอีกจุดเริ่มสำหรับการนอนหลับอย่างมีคุณภาพโดยเฉพาะหากต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลภาวะทางอากาศ

โรคภูมิแพ้

03 ใส่ใจการกินที่มากกว่าแค่เรื่องอาหาร 5 หมู่

อีกวิธีใกล้ตัวในการโบกมือลาอาการโรคภูมิแพ้ที่หลายคนมองข้ามก็คือเรื่องอาหารการกิน คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าต้องกินอาหารให้ครบประโยชน์ทั้ง 5 หมู่ จึงจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันพื้นฐานให้แก่ร่างกายได้ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อาจจะต้องใส่ใจรายละเอียดให้มากกว่านั้น เริ่มจากพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ซึ่งแตกต่างกันไปตามร่างกายแต่ละคน เช่น อาหารประเภทสำเร็จรูป อาหารใส่กล่องโฟม อาหารใส่กล่องพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจจะทำให้อาหารนั้นๆ มีสารตกค้างเจือปน เสี่ยงต่อโรคร้ายและภูมิคุ้มกันที่ลดลงได้ นอกจากนี้อาจจะต้องเน้นเลือกรับประทานเมนูเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย เช่น โปรตีน เกลือแร่ วิตามิน ผักผลไม้ที่มีบีตา-แคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี เป็นต้น

โรคภูมิแพ้

04 สภาพแวดล้อมที่ดีสร้างได้

หนึ่งในสาเหตุของภูมิแพ้มาจากสภาพแวดล้อมและอากาศ ยิ่งในปัจจุบันที่มลภาวะทางอากาศเพิ่มสูงขึ้นก็ยิ่งทำให้มีปัจจัยภายนอกที่สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย ควันบุหรี่ และฝุ่นละอองจากแหล่งต่าง ๆ แต่ถึงแม้สภาพแวดล้อมภายนอกจะเป็นเรื่องยากในการควบคุม ทว่าก็ไม่ใช่ว่าสภาพแวดล้อมที่ดีจะสร้างไม่ได้ อาจเริ่มจากใกล้ตัวเราก่อนด้วยการจัดการสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง หรือบ้านที่มีของสะสม หนังสือ ตุ๊กตา เพราะอาจจะเป็นแหล่งรวมไรฝุ่นและสะสมจนทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ โดยส่วนของบ้านที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ “ห้องนอน” เนื่องจากเป็นพื้นที่ภายในบ้านที่สมาชิกแต่ละคนใช้เวลามากที่สุด และนั่นก็ทำให้ห้องนอนต้องได้รับการดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากการทำความสะอาดทำห้องนอนให้มีอากาศถ่ายเทเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติอยู่เสมอ การเลือกของตกแต่งจากธรรมชาติอย่าง ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน เช่น ต้นลิ้นมังกร เดหลี เขียวหมื่นปี เศรษฐีเรือนใน ก็เป็นอีกตัวช่วยในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในบ้านให้เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย

โรคภูมิแพ้

05 บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์…เป็นภูมิแพ้เลี่ยงได้เลี่ยง

บุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อสุขภาพยิ่งในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะควันบุหรี่นั้นมีผลโดยตรงต่อการสร้างความระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งนอกจากบุหรี่แล้วบางครั้งปัจจัยภายนอกบางอย่างที่เลี่ยงไม่ได้ เช่น มลพิษจากท่อไอเสีย ควันรถ และฝุ่นละออง PM2.5 ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดความระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากจำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางมลภาวะเหล่านี้ แนะนำให้ป้องกันตัวเองเบื้องต้นด้วยการสวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานไม่ต้องรอให้มีข่าวฝุ่น PM2.5 ก็สามารถขึ้นเช็กลิสต์หน้ากากาอนามัยไว้เป็นไอเทมที่ต้องพกติดกระเป๋าอยู่เสมอ

โรคภูมิแพ้

06 “ยา” การรักษาที่ควบคู่กันไป

เมื่อดูแลตัวเองเป็นอย่างดีและจัดการสภาพแวดล้อมที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ได้แล้ว สุดท้ายการใช้ยาบรรเทาอาการภูมิแพ้จะลดลงและกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลตัวเองในยามฉุกเฉินเท่านั้น เช่น การใช้ยาแก้แพ้ ยาขยายหลอดลม ยาต้านฮิสตามีน แต่หากบางเคสที่มีอาการภูมิแพ้ขั้นรุนแรงเกิดขึ้นก็อาจมีการใช้ยาต้านการอักเสบ ที่มักจะอยู่ในรูปของยากลุ่ม เตียรอยด์ (Steroid) ซึ่งสิ่งสำคัญสุดในการใช้ยาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้เหล่านี้คือต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ให้แพทย์เป็นคนสั่งยาเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยอย่างดีที่สุด

Fact File

Shopee 12.12 Birthday Sale ชอปส่งท้าย เซอร์ไพรส์จัดเต็มทุกโปร 12.12 จากแบรนด์ดังชั้นนำกับขบวนสินค้ายอดฮิตมากมายลดแบบจัดหนัก รับโค้ดส่วนลด 2,000.- และโค้ดลด 50% ชอปส่งท้ายปีฟินกว่าเดิมด้วยโปรส่งฟรีทั่วไทยขั้นต่ำ 0.- เริ่มชอปได้เลยตั้งแต่29 พ.ย. – 12 ธ.ค. ที่ Shopee 12.12 Birthday Sale!

อ้างอิง


Author

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ Sarakadee Lite