![เบื้องหลังคลังสยอง ของ จุนจิ อิโต้ สู่บ้านสยองขวัญ Junji Ito Horror House in Thailand](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-open2.jpg)
เบื้องหลังคลังสยอง ของ จุนจิ อิโต้ สู่บ้านสยองขวัญ Junji Ito Horror House in Thailand
- นิทรรศการ Junji Ito Horror House in Thailand 2023 ได้นำผลงานมังงะเขย่าขวัญชุด “คลังสยอง” ของ จุนจิ อิโต้ มาถ่ายทอดในรูปแบบบ้านสยองขวัญและนิทรรศการผลงานสุดพิสดารผสมไซไฟ
- ในบ้านสยองขวัญแบ่งการผจญภัยในเส้นทางมืดๆ เป็น2 เส้นทางที่จำลองบรรยากาศชวนหลอนแตกต่างกันจากมังงะเรื่องต่างๆ
- จุนจิ อิโต้ คือปรมาจารย์นักเขียนมังงะแนวสยองขวัญชาวญี่ปุ่นซึ่งมีผลงานชื่อดังมากมาย เช่น โทมิเอะ, โซอิจิ และก้นหอยมรณะ
“แปลกประหลาด” “สยดสยอง” “พิลึกพิลั่น” “สุดพิสดาร” คือนิยามมังงะแนวสยองขวัญของปรมาจารย์ชาวญี่ปุ่น จุนจิ อิโต้ (Junji Ito) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ โทมิเอะ หญิงสาวแสนสวย แต่น่าสะพรึงกลัวผู้ที่ไม่ว่าจะโดนฆ่าสักกี่ครั้งก็ยังฟื้นคืนชีพได้จากการแตกเซลล์ขยายพันธุ์ เรื่อง ลูกโป่งหัวมนุษย์ ที่มนุษย์แต่ละคนถูกลูกโป่งยักษ์รูปใบหน้าเหมือนตนเองไล่ล่าจับแขวนคอ หรือเรื่อง ก้นหอยมรณะ ที่ผู้คนในเมืองหนึ่งเริ่มมีสภาพจิตหลอนและสิ่งรอบตัวกลายเป็นลายก้นหอยจนนำไปสู่เรื่องราวสยดสยอง
![จุนจิ อิโต้](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-1.jpg)
จากมังงะสายดาร์กด้วยลายเส้นหนักและเข้มที่เน้นการสร้างบรรยากาศชวนเขย่าขวัญ นิทรรศการ Junji Ito Horror House in Thailand 2023 ซึ่งจัดแสดงตั้งแต่ วันที่ 7 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ชั้น 4 ได้นำผลงานคลาสสิคเขย่าขวัญชุด “คลังสยอง” ของ จุนจิ อิโต้ มาถ่ายทอดในรูปแบบบ้านสยองขวัญและนิทรรศการที่ชวนผู้ชมมาพิสูจน์ความกล้าท้าความกลัวในบรรยากาศชวนหลอนกับคาแรกเตอร์สุดฮิต เช่น “โทมิเอะ” สาวลึกลับและอมตะผู้ใช้ความงามล่อลวงผู้คนไปสู่ความพินาศและความตาย และ “โซอิจิ” เด็กหนุ่มที่ชอบคาบตะปูไว้ในปากกับพฤติกรรมพิลึกพิลั่นและสุดป่วนประสาทที่จะออกมาโลดแล่นทักทายผู้คน (แบบสยองๆ)
![จุนจิ อิโต้](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-17.jpg)
![จุนจิ อิโต้](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-open3.jpg)
Junji Ito Horror House จัดแสดงครั้งแรกที่ไต้หวันเมื่อกลางปี 2566 และประสบความสำเร็จด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 1 แสนคน สำหรับนิทรรศการในประเทศไทยนั้น ผู้จัดคือ Japan Anime Movie Thailand ภายใต้บริษัทไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ ได้จับมือกับบริษัท Muse Communication ของไต้หวัน ด้วยงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ในการยกบรรยากาศสยองขวัญเหมือนที่ไต้หวันมาไว้ที่กรุงเทพฯ บนพื้นที่จัดแสดงขนาด 1,500 ตารางเมตร
“ผมได้ไปดูนิทรรศการ Junji Ito Horror House ซึ่งเป็น season 2 ที่ไต้หวันเมื่อกลางปี 2566 แล้วว้าวมาก สนุกมาก จึงตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์นำมาจัดแสดงที่ไทยทันที เรานำประสบการณ์แบบที่ไต้หวันมาอย่างครบสูตรเพื่อให้ผู้ชมได้ interact และพบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างจากการอ่านมังงะ เช่น ในตอน “ผมยาวแห่งห้องใต้หลังคา” ในมังงะจะเห็นว่าพ่อของหญิงสาวผมยาวทำหน้าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหัวของลูกสาวห้อยอยู่ที่ห้องใต้หลังคา ในนิทรรศการนี้จะจำลองให้เห็นภาพว่า ทำไมพ่อถึงตกใจจนช็อกตายแบบนั้น นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์อีก 10 ด่าน และตัวละครเด่นๆ ออกมาโลดแล่นเป็นตัวเป็นตน” เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร ประธานกรรมการ บริษัทไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ กล่าว
![จุนจิ อิโต้](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-14.jpg)
ยกบรรยากาศสุดหลอนในมังงะสู่บ้านสยองขวัญ
หลังจากนำภาพยนตร์แอนิเมชันญี่ปุ่นหลายเรื่องมาฉายในประเทศไทย เช่น วันพีช (One Piece) ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) และล่าสุด กริดแมนยูนิเวิร์ส (Gridman Universe) เกียรติกมลกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทฯ ได้จัดนิทรรศการเต็มรูปแบบและจำหน่ายบัตรเข้าชม
“นิทรรศการนี้อาจไม่ใช่สำหรับสายชอบถ่ายรูปแบบจัดๆ แต่เป็นการนำเสนอจินตนาการจากในมังงะออกมา ผมคิดว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้เจอบ่อยๆ งานของ จุนจิ อิโต้ เป็นศิลปะที่มีจินตนาการล้ำลึกและมีคนรักในลายเส้นมังงะของเขาเป็นจำนวนมาก พาร์ตเนอร์ของเราคือรักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ที่ได้ลิขสิทธิ์ในการแปลและพิมพ์ผลงานของ จุนจิ อิโต้) ยืนยันว่าผลงานของ จุนจิ อิโต้ เป็นเบสต์เซลเลอร์ตลอดระยะเวลา 20 ปี”
ด้านหน้าทางเข้าจัดแสดงประติมากรรมรูปโซอิจิ ซึ่งตรงหน้าอกมีลายเซ็นของ จุนจิ อิโต้ ที่เซ็นไว้ในนิทรรศการที่ไต้หวัน ส่วนไฮไลต์ของนิทรรศการ คือ บ้านสยองขวัญ ซึ่งแบ่งการผจญภัยเป็น2เส้นทาง คือ Route A ในธีมหมู่บ้านสยองขวัญ และ Route B ในธีมเมืองแห่งการจากลา ผู้ชมสามารถซื้อบัตรเข้าชมเพียงเส้นทางเดียว หรือซื้อแบบรวมทั้งสองเส้นทางก็ได้ เนื่องจากทั้งสองโซนมีการจำลองบรรยากาศชวนหลอนที่แตกต่างกันจากตอนต่างๆ ในมังงะ เช่น โทมิเอะ : รูปถ่าย, รูปปั้นไร้หัว, ผมยาวแห่งห้องใต้หลังคา, ลูกโป่งหัวมนุษย์, พี่น้องฮิคิซึรึป่วนพิสดาร, ทางวงกต และกองหนังสือหลอน
![จุนจิ อิโต้](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-15.jpg)
การเข้าชมแต่ละครั้งจะแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 6 คนโดยต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์และเก็บมือถือ เพราะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปในบ้านสยองขวัญ การเดินในเส้นทางมืดๆ ภายในบ้านต้องจับเชือกเดินตามกันไปและคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สิ่งที่พบเจอในแต่ละด่านนั้น หากเป็นผู้ที่ติดตามงานของ จุนจิ อิโต้ ทั้งแบบมังงะ หรือที่ดัดแปลงเป็นแอนิเมชันจะสามารถเชื่อมต่อได้เลยว่ามาจากฉากสะเทือนขวัญในเรื่องไหน แต่หากไม่เคยอ่าน หรือดูงานมาก่อนอาจจะแค่รู้สึกหลอนกับบรรยากาศและเสียงเอฟเฟกต์ หรือสะดุ้งกรีดร้องกับฉากจัมป์สแกร์ (jump scare) ดังนั้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเข้าชมจึงขอแนะนำให้ดูงานของ จุนจิ อิโต้ มาก่อนบ้างโดยมีทางลัดแบบฉบับเร่งด่วน คือ ชมซีรีส์แอนิเมชัน “Junji Ito Maniac: Japanese Tales of the Macabre” ใน Netflix ที่นำมังงะในคลังสยองจำนวน 20 เรื่องของ จุนจิ อิโต้ มาดัดแปลงเป็นแอนิเมชัน
![จุนจิ อิโต้](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-open5.jpg)
จำลองฉากเด่นในมังงะและสเกตช์ reproduction ของเรื่องดัง
หลังการผจญภัยในบ้านสยองขวัญ ถัดมาเป็นโซนจัดแสดงผลงานสเกตช์มังงะแบบ reproduction ของ จุนจิ อิโต้ เช่น เรื่อง เมืองแห่งป้ายสุสาน, ข้างหลังตรอก, กองหนังสือหลอน, สัตว์เลี้ยงแสนรักของโซอิจิ และสเกตช์ที่ลงรายละเอียดและท่าทางของคาแรกเตอร์บางตัว เช่น ครูสอนศิลปะที่โดนฆ่าตายด้วยรูปปั้นไร้หัวที่ตนเองเป็นคนปั้นขึ้นมา สาวผมยาวที่ตายอย่างสยดสยองในห้องใต้หลังคา และชายหนุ่มที่โดนแขวนคอด้วยลูกโป่งยักษ์
โซนต่อมาตกแต่งด้วยกรอบมังงะลายเส้นขาวดำของเรื่อง ก้นหอยมรณะ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซของเขาที่เล่าเรื่องสุดพิศวงของเมืองหนึ่งที่โดนคำสาปก้นหอยมรณะทำให้ผู้คนและสิ่งรอบตัวกลายเป็นลายก้นหอยอันน่าสะพรึงและน่าขยะแขยง ไฮไลต์ของโซนนี้ คือ การจำลองฉากเด่นที่พ่อของคาแรกเตอร์หลักขดตัวตายเป็นรูปก้นหอยในถังไม้ในขนาดเท่าคนจริง
เกียรติกมลกล่าวว่า ขั้นตอนโพรดักชันส์ของนิทรรศการใช้เวลาร่วม 3 เดือนและใช้เวลาติดตั้งในสถานที่จัดแสดงอีก 2 สัปดาห์ โดยผลงานและอุปกรณ์เกือบทั้งหมดยกมาจากนิทรรศการที่ไต้หวันซึ่งเพิ่งจบไปเมื่อไม่นานมานี้
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-open7.jpg)
“นักแสดงของเราซ้อมกันหนักมากเพื่อแสดงเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ ในมังงะ เช่น โทมิเอะ ที่เป็นสาวสวยนั้น เราต้องลองแต่งหน้าหลายๆ แบบและส่งให้ JI/ASP ซึ่งเป็นคอมมิตตีที่ดูแลลิขสิทธิ์งานของ จุนจิ ว่าสวยตรงตามคอนเซปต์หรือไม่ เรามีฝ่ายคัดเลือกนักแสดงและสอนการแสดงด้วยโดยต้องมาทำเข้าใจกันว่า การแสดงของโทมิเอะจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะในมังงะอาจจะดูมีเสน่ห์เย้ายวน แต่ในแอนิเมชันนั้นมีความนิ่งกว่า หรือตอนที่กรีดร้องจะเล่นระดับไหน นักแสดงหลักที่เล่นเป็นโทมิเอะนั้น เขาเคยแต่งคอสเพลย์เป็นโทมิเอะมาก่อนและรู้จักงาน จุนจิ ดีอยู่แล้ว”
เกียรติกมลคาดหวังว่า นิทรรศการครั้งนี้จะสามารถดึงดูดผู้ชมได้เป็นหลักแสนคนตลอดระยะเวลาการจัดแสดงร่วม 3 เดือน
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-open4.jpg)
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-8.jpg)
“ในปีนี้มีนิทรรศการแบบ immersive มาจัดแสดงในไทยหลายงานและได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่าแสนคน เช่น นิทรรศการ Van Gogh Alive Bangkok และ The World of Studio Ghibli’s Animation Exhibition Bangkok ส่วนนิทรรศการของ จุนจิ ถ้าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ก็มีแนวโน้มว่าผมจะซื้อลิขสิทธิ์ season 1 มาจัดแสดงต่อซึ่งมีหลายคนบอกว่ามีความหลอนกว่า”
สำหรับโซนขายของที่ระลึกนั้น มีทั้งของที่ส่งตรงมาจากนิทรรศการที่ไต้หวัน เช่น ร่ม เสื้อยืด ฟิกเกอร์ ถุงเท้า พวงกุญแจ โปสต์การ์ด และที่บริษัทไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนิทรรศการในประเทศไทย อย่างเช่นแก้วทัมเบลอร์ หมวก แฟ้ม และสมุดโน้ต
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-4.jpg)
หล่อหลอมความสยองแปลกประหลาดสไตล์จุนจิ
“ปกติผมจะไม่พยายามสร้าง ‘ความน่ากลัว’ แบบจงใจ แต่มุ่งเน้นไปที่ ‘ความแปลกประหลาด’ และ ‘พิลึกพิลั่น’ มากกว่า
“พอพูดถึงวิญญาณแล้ว ผมว่าเรามักจะนึกถึงสิ่งที่ ‘จับต้องไม่ได้’ ใช่ไหมล่ะครับ ผมเลยอยากเขียนการ์ตูนเกี่ยวกับความน่ากลัวที่มีตัวตนจริงอย่างเช่นความน่ากลัวจาก ‘สิ่งแปลกประหลาด’ ที่มีอยู่จริงและสัมผัสได้”
ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์กับ จุนจิ อิโต้ ในหนังสือ เจาะลึกอิโต้ จุนจิ สู่ก้นบึ้งแห่งความสยอง (Ito Junji Kenkyuu Horror no Shinen kara) ที่ตีพิมพ์ในปี 2560 เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีการเข้าสู่วงการนักเขียนมังงะของเขา
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-11.jpg)
จุนจิชอบอ่านมังงะและวาดตามลายเส้นของบรมครูมังงะ คือ อุเมซุ คาซึโอะ (Umezu Kazuo) และ โคกะ ชินอิจิ (Koga Shinichi) มาตั้งแต่เด็กผสมกับความชอบดูหนังเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด อ่านหนังสือแนวลึกลับและไซไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมให้เขาสร้างมังงะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนที่มีส่วนผสมของความสยองขวัญและไซไฟ แปลกประหลาด และพิสดารมากกว่าเรื่องแนวภูตผีวิญญาณ
มังงะเรื่องแรกของเขาคือ โทมิเอะ ที่วาดในปี 2530 และได้รับรางวัลชมเชยในการประกวดรางวัล อุเมซุ คาซึโอะ ครั้งที่ 1 ของนิตยสาร Gekkan Halloween ซึ่งเขาเขียนในขณะทำงานเป็นช่างทันตกรรมในโรงงานวัสดุทันตกรรมหลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยทันตแพทย์
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-10.jpg)
หลังจากนั้น 3 ปี จุนจิลาออกจากการเป็นช่างทันตกรรมเพื่อทุ่มเทเวลาในการสร้างสรรค์ผลงานมังงะอย่างเต็มตัวโดยมีซีรีส์เรื่อง โซอิจิ ตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จอย่างมาก ตามด้วยผลงานสร้างชื่อมากมาย เช่น รักที่ทรมานของคนตาย, คอลวงตาย, นางแบบแฟชั่น, สยองหลายชั้น, ปลามรณะ และ สูญสิ้นความเป็นคน (ต้นฉบับจากวรรณกรรมของ ดาไซ โอซามุ)
จุนจิกล่าวถึง โทมิเอะ คาแรกเตอร์ในมังงะเรื่องแรกของเขาและกลายเป็นซิกเนเจอร์ว่า “การวาดทั้งความงดงามและความน่าสยดสยองออกมาให้สุดโต่งที่สุด มันสนุกดีครับ…เธอคือหญิงสาวผู้งดงามที่สุดในโลกนี้ครับ ผมตั้งให้เองน่ะนะ เวลาวาดผู้หญิงคนอื่น ผมจะวาดโดยระวังไม่ให้สวยกว่าโทมิเอะเสมอเลยครับ”
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-13.jpg)
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-12.jpg)
อีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซที่มีเนื้อเรื่องแปลกประหลาดพิสดารและสุดระทึกขวัญ คือ ลูกโป่งหัวมนุษย์ ที่เป็นแนว ด็อพเพิลเก็งเงอร์ (doppelgänger) หรือการเห็นตัวเองอีกคนหนึ่ง แต่ในรูปแบบสยองขวัญ เพราะอีกคนหนึ่งนั้นกำลังไล่ฆ่าตัวเราเองเพื่อเอาไปแขวนคอกับลูกโป่ง
“ความคิดทำนองที่ว่า ‘การมีตัวตนอยู่ของตัวเราเองเป็นสิ่งน่ากลัว’ มันอยู่ในหัวผมมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วครับ โดยเฉพาะเรื่องแนว ด็อพเพิลเก็งเงอร์ (แฝดปีศาจ) หรือการ ‘เห็นตัวเองอีกคนหนึ่ง’ นี่ ผมว่าเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ นะ เมื่อก่อนทุกครั้งที่ผมเริ่มครุ่นคิดว่า ‘ตัวเราคืออะไรกันแน่’ ผมก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเสมอเลย ดังนั้นผมเลยคิดว่า การถูกลูกโป่งที่รูปร่างเหมือนหน้าเราเองลอยเข้ามาโจมตี มันคงเป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ แน่” จุนจิให้สัมภาษณ์ในหนังสือ
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2023/10/junji-16.jpg)
Fact File
- Junji Ito Horror House in Thailand 2023 จัดแสดงที่ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ชั้น 4 ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2566
- บัตรเข้าชมราคา 400 บาทต่อการเข้าชมแต่ละ Route (พร้อมหน้ากาก 1 ลาย), ราคา 750 บาท สำหรับทั้ง Route A และ B (พร้อมหน้ากาก 2 ลาย) และตั๋ว VIP สำหรับ Route A & B + Fast Track ราคา 1,000 บาท (พร้อมหน้ากาก 2 ลาย และกระเป๋าผ้า) ซื้อบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com
อ้างอิง
หนังสือ เจาะลึกอิโต้ จุนจิ สู่ก้นบึ้งแห่งความสยอง (Ito Junji Kenkyuu Horror no Shinen kara) จัดพิมพ์โดย รักพิมพ์ พับลิชชิ่ง
![](/wp-content/uploads/2019/12/logo-greyscale-1.png)