เก็บ​ลิสต์หนัง​ ซากุระ​ สุดโรแมนติก​ ชุบหัวใจช่วง​ Social Distancing
Lite

เก็บ​ลิสต์หนัง​ ซากุระ​ สุดโรแมนติก​ ชุบหัวใจช่วง​ Social Distancing

Focus
  • ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมแบบนี้ การได้ไปอยู่ท่ามกลางดอกซากุระทั้งที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างรอคอย แต่เป็นอันต้องพับเก็บแพลนไปชั่วคราวเพราะการแพร่ระบาดของ โควิด-19
  • ในช่วง Social Distancing ที่ต้องเว้นระยะห่างจากสังคม ภาพยนตร์ซากุระ 5 เรื่องที่ยกมานั้น น่าจะพอช่วยชุบใจให้ไม่เฉาได้ทั้งด้วยความสวยงามของดอกซากุระ และเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ต่างกันไป

ซากุระ​ บานหนักมาก โควิด-19 ก็ระบาดหนักมาเช่นกัน… 

ทันทีที่เข้าสู่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ หนึ่งในเช็คลิสต์ประจำปีที่นักท่องเที่ยวไทยตั้งตาคอยน่าจะเป็นการได้แลนดิ้งไปชมดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มต้นทั้งที่ญี่ปุ่น​ และเกาหลีใต้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ทำให้เราต่างต้องทำใจพับเก็บแพลนการเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงการเว้นระยะห่างจากสังคม​ Social distancing ​เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ 

แต่เพื่อไม่ให้การกักตัวอยู่บ้านหนี โควิด-19 ต้องเฉาและเหงาจนเกินไป Sarakadee Lite ขอเสิร์ฟลิสต์ภาพยนตร์ 5 เรื่องให้ผู้อ่านได้เว้นพักจากข่าวสารมาชม ซากุระ ผลิบานผ่านภาพยนตร์เป็นการชุบใจไปพลางๆ

ข้างหลังภาพ Behind the Painting (2527, 2544)

ซากุระ

โศกนาฏกรรมรักสุดคลาสสิกจากปลายปากกาของ ศรีบูรพา หรือกุหลาบ สายประดิษฐ์ ที่เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 2527 ก่อนจะหวนคืนจอเงินอีกครั้งใต้การกำกับของ เชิด ทรงศรี ในปี 2544 เรื่องราวความรักต่างวัย ต่างสถานะเริ่มขึ้นเมื่อ นพพร ไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นและได้รับจดหมายจากเจ้าคุณอธิการบดี เพื่อนของพ่อให้เป็นธุระหาบ้านพักและพาม.ร.ว.กีรติ ภรรยาสาวของท่านไปเปิดหูเปิดตาขณะที่ท่านต้องไปออกงาน

ความใกล้ชิดเริ่มก่อตัวเป็นความรัก โดยมีฉากหลังเป็นความงดงามของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะภูเขาไฟฟูจิ หรือริมลำธารเขามิตาเกะ อันเป็นที่ซึ่งนพพรและม.ร.ว.กีรติกล่าวว่าความรักของพวกเขาเกิดขึ้นที่นั่น ทั้งยังเป็นฉากในภาพที่ม.ร.ว.กีรติวาดไว้ด้วยชีวิตและหัวใจ ซึ่งมอบไว้ให้แก่นพพรในตอนท้าย ก่อนจะจากไปพร้อมประโยคอันตราตรึง “ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก”

สำหรับเรื่องนี้มีดอกซากุระมาให้เชยชมกันตั้งแต่ตอนต้นของเรื่อง แต่ถึงจะชมพูสวยแค่ไหนคงต้องหลีกทางให้ “Nopporn no Kokoro desu: ดอกหัวใจนพพร” และ “ดอก Forget Me Not พันธุ์กีรติ” ที่ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้วแน่นอน

โคนัน เดอะมูฟวี่ 7 คดีฆาตกรรมแห่งเมืองปริศนา (2546)

ซากุระ

อิ่มเอมกับความรักสุดคลาสสิกไปแล้ว มาแนวสืบสวนชวนลุ้นนิดๆ กันบ้างกับ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักและรอคอยตอนใหม่กันอยู่เสมอ สำหรับเดอะมูฟวี่ ภาค 7 ซึ่งออกฉายในญี่ปุ่นครั้งแรกในปี 2546 นั้น โคนัน ได้ตามลุงโมริ และรันไปที่เกียวโตเพื่อสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาได้พบกับปริศนาภาพจากคนร้ายซึ่งเกี่ยวโยงกับที่ซ่อนพระโพธิสัตว์ยาคุชิเนไรแห่งวัดซันโนซึ่งหนึ่งฆาตกรในกลุ่มโจรได้ขโมยไปเมื่อ 8 ปีก่อน แถมคดีนี้ยังโยงกับอุณาโลมที่ฮัตโตริ เฮย์จิ นักสืบมัธยมปลายจากโอซาก้าเพื่อนสนิทของโคนัน เก็บได้เมื่อ 8 ปีก่อนเช่นกัน เพราะคิดว่าเป็นลูกแก้วของเด็กสาวผู้เป็นรักแรกของเขา เฮย์จิซึ่งมาตามหารักแรกและช่วยโคนันสืบคดีในครั้งนี้ จึงเป็นที่หมายหัวของคนร้ายไปด้วย 

เรื่องราวของภาคนี้เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เราได้เห็นโลเคชันที่มี ซากุระ เติบโตอยู่แทบจะทั้งเรื่อง แน่นอนว่าเหล่าแฟนพันธุ์แท้คงไม่พลาดที่จะไปตามรอยกันมาแล้ว ที่เด่นๆ เลยก็คือทางรถไฟสายเก่าอย่าง Keage Incline, วัดคิโยะมิซุ, วัดนันเซ็นจิ แต่จุดที่โรแมนติกที่สุดเห็นจะเป็นริมแม่น้ำคาโมะที่มีซากุระผลิบานอยู่สองข้างทาง แต่ดันเป็นบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ (ในเรื่อง) เสียได้ แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะมัวตื่นเต้นกับการสืบคดีอย่างเดียว เพราะภาคนี้มีโมเมนต์ชวนอมยิ้มที่รันได้เจอกับโคนันในร่างชินอิจิแม้เพียงชั่ววินาทีก็ตาม

แอบกระซิบนิดนึงว่าตอนนี้ HOOQ ใจดีเปิดให้รับชม โคนัน เดอะซีรีส์ ฟรีถึง 929 ตอน รวมทั้งโคนัน เดอะมูฟวี่ภาค 1-20 และภาคพิเศษ Missing Conan กับคดีที่หายไปด้วย ได้เวลาไขคดีแล้ว!

Hana and Alice สองหัวใจหนึ่งความทรงจำ (2547)

ซากุระ

รักสามเส้าวัยมัธยมปลายของสองสาวเพื่อนซี้ ฮานะ (รับบทโดย อันเนะ ซูซูกิ) และ อลิซ (รับบทโดย ยู อาโออิ) เมื่อฮานะ ดันแอบปิ๊งหนุ่มโรงเรียนเดียวกันอย่าง มิยาโมโตะ (รับบทโดย โทะโมะฮิโระ คะกุ) วันหนึ่งหลังเธอแอบสะกดรอยตามเขาที่มัวอ่านหนังสือไม่มองทางจนชนประตูล้มตึงลงไป ฮานะจึงถือโอกาสเข้าไปช่วยพร้อมสร้างสถานการณ์โกหกว่ามิยาโมโตะทำความทรงจำเรื่องที่เธอกับเขาเป็นแฟนกันหายไป ทั้งยังปั้นให้ อลิซ เป็นแฟนเก่าลวงๆ ของเขาอีก ทำให้มิยาโมโตะต้องไปถามหาความทรงจำกับอลิซ จนเกิดคำถามว่าถ้าความทรงจำของเขากลับมาแค่ครึ่งเดียว คือความทรงจำระหว่างเขากับอลิซ (ทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง) จะทำอย่างไร

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ชุนจิ อิวาอิ (ผู้กำกับ) ได้ต่อยอดมาจากโฆษณาหนังสั้นในวาระฉลองครบรอบ 30 ปีของแบรนด์ Kit Kat ซึ่งกระแสตอบรับดีจนต้องหยิบมาขยายต่อเป็นเรื่องยาว และในปี 2558 ที่ภาพยนตร์ Hana and Alice มีอายุ ครบ 11 ปี อิวาอิก็ได้หวนมากำกับภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องยาวอีกครั้ง ด้วยการต่อยอด Hana and Alice ออกมาเป็นเวอร์ชันอานิเมะในชื่อ ‘The Case of Hana and Alice ปริศนาโรงเรียนหลอน’ ซึ่งได้สองสาวนักแสดงคนเดิมมาพากษ์เสียงด้วย โดยเนื้อหาจะเป็นเรื่องราวก่อนเวอร์ชันภาพยนตร์และเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมลึกลับ

กวน มึน โฮ (2553)

ซากุระ

ไปซ้อนมอเตอร์ไซค์ชม ซากุระ สองข้างทางฝั่งแดนกิมจิกัน กับ กวน มึน โฮ ด้วยความโรแมนติกคอมเมดี้ ชวนหัวเราะปนซึ้ง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นแท่นหนังไทยทำเงินสูงสุดในปี 2553 ทั้งยังถือเป็นหนังแจ้งเกิดสองนักแสดงหลักอย่าง หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ และ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี พระเอกของเรื่องที่ควบตำแหน่งผู้ร่วมเขียนบทด้วย

ความสัมพันธ์แบบ “ยินดีที่ไม่รู้จัก” เกิดจากคนอกหักสองคนที่บังเอิญมาเจอกันที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ความไม่รู้จักทั้งคนรอบข้าง และไม่รู้จักกันเองทำให้ทั้งคู่ได้มีโมเมนต์เปิ่นๆ กวนๆ ช่วยฮีลใจกันและกันแบบไม่มีความเคอะเขินเป็นเงื่อนไข ซึ่งแม้แต่ตอนกลับไทยแล้วยังรู้จักกันแค่ชื่อเล่นปลอมๆ อย่าง ด่าง กับ เมย์ ที่แต่งขึ้นตอนแนะนำตัวกับมินอาเพื่อนสาวของนางเอกเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์งงๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้กลับอยู่ในความทรงจำของทั้งคู่ไปอีกนาน

ซึ่งแน่นอนว่านอกจากความกวน ป่วน ฮา ยังมีความน่าสนใจของโลเคชันยอดฮิตอันเป็นสถานที่ถ่ายทำ จนเกิดกระแสตามรอยกวน มึน โฮ ขึ้นมาในช่วงหนึ่ง อย่างร้านกาแฟ Coffee Prince เกาะนามิ วัดโชเกซา นัมซานทาวเวอร์ หรือสะพานข้ามคลองชองกเยชอน หนึ่งในฉากจดจำที่นางเอกไปตะโกนระบายความในใจหลังเลิกกับแฟนเก่า

Kimi no Suizou wo Tabetai ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ (2560)

ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนวโรแมนติกดราม่ากับบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย โทโมโกะ โยชิดะ ซึ่งเคยทำผู้ชมน้ำตาซึมมาแล้วนับไม่ถ้วนกับ Tomorrow I Will Date With Yesterday’s You ที่เข้าฉายในปีเดียวกัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากนิยาย Best Seller โดย ซูมิโนะ โยรุ บอกเล่าเรื่องราวของ “ซากุระ” (รับบทโดย มินามิ ฮามาเบะ) สาวน้อยผู้มากับรอยยิ้มสดใสเหมือนชื่อ และ “ชิกะ” (รับบทโดย ทาคุมิ คิตามูระ (วัยมัธยม) และ โอกุริ ชุน (วัยผู้ใหญ่)) เพื่อนชายร่วมชั้น จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เกิดจากการที่ชิกะดันเก็บสมุด “บันทึกร่วมโรค” ของซากุระได้ที่โรงพยาบาล ทำให้เขารู้ความลับเรื่องโรคเกี่ยวกับตับอ่อนที่ซากุระตั้งใจไม่ให้ใครรู้นอกจากพ่อแม่ 

ซากุระ และ ชิกะ ได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นเมื่อได้มาเป็นกรรมการห้องสมุดด้วยกัน ระหว่างนั้นซารุกะขอให้ชิกะช่วยดูแลเธอในช่วงสุดท้ายของชีวิตโดยการพาไปทำสิ่งที่เธออยากทำ นั่นหมายรวมถึงการชวนไปดูดอกซากุระบานด้วยกันหลังเธอออกจากโรงพยาบาล ตลอดเรื่องแม้ซากุระจะเป็นโรคร้ายและรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่เธอไม่เคยฟูมฟาย และยังคงใช้ชีวิตสนุกสนาน พร้อมยิ้มร่ามอบความสดใสให้ชิกะและคนรอบข้างอยู่เสมอ  การใช้ชีวิตคือหนึ่งในสิ่งที่ซากุระย้ำเตือนชิกะและผู้ชมเพราะ “จะฉันหรือเธอ หนึ่งวันของเราก็มีค่าเท่ากัน” และพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ได้เลย

แน่นอนว่าหลังเข้าฉายกระแสตอบรับถล่มทลายแบบที่นอกจากเวอร์ชันคนแสดงแล้ว ในปี 2561 ยังมีแอนิเมชันตามมาในชื่อ “I Want To Eat Your Pancreas เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน” โดยผู้กำกับ ชินอิจิโร่ อุชิจิมะ ที่ผู้ชมส่วนมากต่างบอกว่าแม้จะรู้ตอนจบแล้วก็ยังคงซึ้งและอยากชมอีกอยู่ดี


Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ