KAWS จากศิลปินกราฟฟิตตี้ สู่ผู้ทรงอิทธิพลต่อศิลปะและไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยผ่านคาแรคเตอร์ Companion
- KAWS (คอวส์) ศิลปินชาวอเมริกันชื่อดัง ออกแบบคาแรคเตอร์ซิกเนเจอร์ Companion รูปหน้ากระโหลกและดวงตารูปกากบาท (X) เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกทั้งในรูปแบบไฟน์อาร์ตและงานศิลปะเชิงพาณิชย์
- ประติมากรรมซิกเนอเจอร์ Companion ขนาดความสูง 18 เมตร ได้เดินทางมาอวดโฉมที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ณ ใจกลางท้องสนามหลวง กับโปรเจกต์ KAWS:HOLIDAY THAILAND
- KAWS ดีไซน์คาแรคเตอร์ Companion ให้เป็น “มาสคอตหน้าไม่เป็นมิตร” เพื่อสื่อสารถึงสภาพจิตใจของผู้คนที่รู้สึกโดดเดี่ยว เปราะบาง และแปลกแยกในสังคมปัจจุบัน
KAWS (คอวส์) ศิลปิน ดีไซเนอร์และครีเอเตอร์ชาวอเมริกันชื่อดังเป็นที่รู้จักทั่วโลกกับการสร้างสรรค์คาแรคเตอร์หน้ากระโหลกและดวงตารูปกากบาท (X) ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สื่อถึงอารมณ์ลึกซึ้งในบริบทการวิพากษ์วัฒนธรรมร่วมสมัย และล่าสุดผลงานประติมากรรมที่เป็นซิกเนอเจอร์ของเขาในชื่อ Companion ขนาดความสูง 18 เมตร ได้เดินทางมาอวดโฉมที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ณ ใจกลางท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 13 – 25 พฤษภาคม 2568 กับโปรเจกต์ KAWS:HOLIDAY THAILAND
ประติมากรรม Companion นั่งอยู่บนโลกและโอบอุ้มดวงจันทร์ไว้อย่างอ่อนโยน พร้อมด้วย Companion อีกตัวที่ขนาดเล็กกว่าพักผ่อนอยู่บนตัก โดยมีฉากหลังเป็นสีทองอร่ามของหมู่พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว เพื่อสะท้อนถึงการส่งต่อองค์ความรู้ คุณค่า และความใส่ใจจากรุ่นสู่รุ่น สอดคล้องกับโลเคชั่นสนามหลวง สถานที่ประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของไทย
ที่ผ่านมาคอวส์ได้ร่วมมือกับ All Rights Reserved ออกแบบโปรเจ็กต์ KAWS:HOLIDAY นำคาแรคเตอร์ Companion มาขยายเป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ตั้งแต่ 10 เมตร ไปจนถึงเกือบ 30 เมตร ในวัสดุที่หลากหลายและติดตั้งกลางแจ้งตามสถานที่แลนด์มาร์กต่างๆ ทั่วโลก ทั้งกลางน้ำ กลางป่า กลางหิมะ เริ่มต้นใน ค.ศ. 2018 ณ กลางทะเลสาบ Seokchon ในกรุงโซล เกาหลีใต้ และที่ได้รับการพูดถึงมากคือการติดตั้งงานบริเวณกลุ่มเทวสถานปรัมบานัน (Prambanan) มรดกโลกของอินโดนีเซีย กลางป่าฉางไป่ซาน นอกจากนี้ยังมีที่เซี่ยงไฮ้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และ สวิตเซอร์แลนด์ สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 13 ที่ KAWS:HOLIDAY มาจัดแสดง
เพื่อต้อนรับการมาเยือนของ คอวส์ และ ผลงานเลื่องชื่อของเขา Sarakadee Lite ชวนไปรู้จักชีวิตและการทำงานของของศิลปินแห่งยุคสมัยให้มากขึ้น
1. KAWS ศิลปินดีไซเนอร์และครีเอเตอร์ ชาวอเมริกันศิลปินนักสร้างสรรค์คาแรคเตอร์ ที่โดดเด่นในวงการคาแรคเตอร์ดีไซน์และสายงานสตรีทอาร์ทของอเมริกาในยุคมิลเลนเนียม ชื่อจริงของเขาคือ ไบรอัน ดอนเนลลีย์ (Brian Donnelly) เกิดวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ.1974 ที่เจอร์ซีย์ ซิตี้ รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา
2. เขาเป็นหนึ่งในศิลปินยุคเจนเนอเรชัน x ที่เริ่มจากการทำงานสตรีทอาร์ต และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติในวงการศิลปะและสายงานออกแบบเชิงพาณิชย์ เขาออกแบบผลิตภัณฑ์และทำงานคอลแลบกับแบรนด์ดังๆ จากยุค 90s จนถึงปัจจุบัน
3. หลังจากเรียนจบสายวาดภาพประกอบ จากวิทยาลัยศิลปะ The School of Visual Arts ที่นิวยอร์กช่วงกลางยุค 90 ไบรอัน ดอนเนลลี เริ่มสร้างสรรค์งานกราฟิตตี้ และ สตรีทอาร์ต ภายใต้ชื่อ KAWS ซึ่งเป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแวดวงศิลปะแนวเออร์บันอาร์ต (urban art) ในนิวยอร์ก โดยงานกราฟฟิตตี้ของเขามักปรากฎอยู่ตามพื้นที่สาธารณะ เช่น การเพนท์ภาพทับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และป้ายโฆษณาที่วางอยู่ตามป้ายรถเมล์ข้างถนน งานกราฟฟิตตี้ สตรีทอาร์ต ยุคแรกๆ ของผลงานมีจุดเด่นที่เป็นการบิดมุมหรือสร้างงานที่ล้อกับงานวิชวลเดิมที่เป็นโฆษณาสินค้า ด้วยการวาดตัวคาแรคเตอร์ในสไตล์การ์ตูนที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง
4. ซิกเนเจอร์ เส้นกากบาท (X) ที่ปรากฏอยู่ในงานกราฟฟิตตี้และงานสตรีทอาร์ต จนถึงงานสร้างสรรค์คาแรคเตอร์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว สะท้อนมุมมองออกแนววิพากษ์ของเขาต่อวัฒนธรรมป๊อป สังคมบริโภคนิยมและอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ร่วมสมัย เช่น งานชื่อ “Supermodel 2” (ค.ศ.1999) และ “Kate Moss, White Gloves” (ค.ศ.2001) ที่เขาเพนท์เส้นกากบาทและวาดเส้นการ์ตูนซ้อนทับกับภาพถ่ายใบหน้าซูเปอร์โมเดลที่เป็นโฆษณาบนสิ่งพิมพ์ และต่อมาเส้นกากบาท กลายเป็นจุดเด่นของคาแรคเตอร์ “Companion” ที่ลักษณะเป็นตัวการ์ตูนแต่ดวงตาเป็นรูปกากบาท (X) แต่กลับกลายเป็นการสื่ออารมณ์ลึกซึ้งดึงดูดความสนใจของผู้ชม
5. คาแรคเตอร์ Companion เผยโฉมครั้งแรกในค.ศ.1999 ในรูปแบบ ไวนิลทอย รุ่นลิมิตเต็ด รูปทรงของใบหน้าเหมือนหัวกระโหลก และดวงตาเป็นเส้นกากบาทปูดโปนออกมาเห็นชัด เป็นโปรเจกต์ที่ทำร่วมกับแบรนด์ Bounty Hunter Tokyo ผู้ผลิตของเล่นและเสื้อผ้าแฟชั่นของญี่ปุ่น และขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว
6. การดีไซน์คาแรคเตอร์ Companion โดยใช้เครื่องหมาย กากบาท (X) ในดวงตา บนใบหน้ารูปหัวกระโหลก เพื่อสื่อถึงความตายและความว่างเปล่าผสมกับรูปลักษณ์การ์ตูน เขาต้องการสะท้อนถึงวัฒนธรรมป๊อปที่ตัวการ์ตูนกลายเป็นสิ่งที่คนร่วมสมัยยึดถือเป็นเพื่อนหรือรู้สึกดีและมีความผูกพันลึกซึ้ง Companion มีลักษณะที่ดูเหมือน “มาสคอตหน้าไม่เป็นมิตร” ซึ่งตรงข้ามกับแนวคิดการสร้างมาสคอตแบบเดิมที่ต้องดูน่ารักและเข้าถึงคนได้ง่าย แต่กลับสื่อสารถึงสังคมยุคปัจจุบันอย่างสะเทือนอารมณ์ที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกโดดเดี่ยว เปราะบาง และแปลกแยก
7. เมื่อเข้ายุคต้นปี ค.ศ.2000 ศิลปินได้พัฒนาจากงานสตรีทอาร์ต มาเป็นงานในรูปแบบศิลปะที่วิจิตรมากขึ้น ทั้ง ภาพเขียน ประติมากรรม และงานศิลปะจัดวางหรืออินสตอลเลชันอาร์ต และขยับจากป้ายล้อเลียนข้างถนน มาเป็นผลงานที่จัดแสดงในแกลเลอรีและพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย
8. ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา งานของคอวส์ไม่ใช่แค่สตรีทอาร์ตแต่เป็น งานศิลปะจัดวางหรือ อินสตอลเลชันอาร์ต แต่ขยับสู่พื้นที่ศิลปะทั้งในหอศิลปะร่วมสมัยระดับชาติสำคัญๆ อย่าง MoMA (The Museum of Modern Art) ที่นิวยอร์ก พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ลอสแองเจลีส CAM (The Contemporary Art Museum) หอศิลป์ The Serpentine Gallery ที่ลอนดอน และ การแสดงในพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ เช่น งานอินสตอลเลชันคาแรคเตอร์ Companion อัดลมขนาดยักษ์ในงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ Art Basel Hong Kong ที่อ่าววิคตอเรีย ฮ่องกง หรือ บอลลูนยักษ์รูปคาแรคเตอร์ Companion ในขบวนพาเหรดฉลองเทศกาลขอบคุณพระเจ้าประจำปีของห้าง Macy ห้างใหญ่ของอเมริกาใน ค.ศ.2012
9. ในสายไลฟ์สไตล์ คอวส์ได้คอลแลบสร้างสรรค์ดีไซน์โปรดักท์กับแบรนด์ดังๆ ไม่ว่าจะเป็น งานออกแบบไลน์เสื้อผ้าใน ค.ศ.2017 ให้กับแบรนด์แฟชั่นของญี่ปุ่นอย่าง UNIQLO ในคอลเลคชั่น Peanuts เสื้อผ้าลายตัวการ์ตูนสนูปปี้และผองเพื่อนในสไตล์มีกากบาท งานออกแบบศิลปะตัวการ์ตูนยอดฮิตของฝั่งอเมริกาอย่าง SpongeBob SquarePants ในเวอร์ชันดวงตากากบาทสไตล์ซิกเนเจอร์ของ คอวส์ งานออกแบบรองเท้ารุ่นลิมิตเต็ดให้ Nike จนถึงงานคอลแลบกับไฮแฟชั่นอย่างแบรนด์ Dior จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของการผสานงานศิลปะกับงานโปรดักท์ดีไซน์ในยุคปัจจุบัน
10. ผลงานของคอวส์เป็นการผสมผสานระหว่างงานศิลปะไฟน์อาร์ต งานออกแบบ และวัฒนธรรมป๊อป ผ่านการแสดงงานในพื้นที่สาธารณะ ที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงศิลปะได้ง่ายขึ้น และงานที่ทำร่วมกับแบรนด์ต่างๆ หรืองานเชิงพาณิชย์ทั้งหลาย เป็นการทลายเส้นแบ่งระหว่างศิลปะชั้นสูงกับงานป๊อปเพื่อการค้าทั่วไป นอกจากนี้คาแรคเตอร์และซิกเนเจอร์ในงานสร้างสรรค์ของเขายังเป็นเรฟเฟอร์เรนซ์ และถูกนำไปใช้ในงานป๊อปและแฟชั่นอื่นๆ ด้วย รวมถึง มิวสิควิดีโอเพลง Toosie Slide ของศิลปินเพลงป๊อปดังๆอย่าง Drake หรืองานออกแบบแฟชันแนวสตรีทของแรพเพอร์คนดังอย่าง คานเย่ เวสต์ นอกจากนี้เมื่อ ค.ศ. 2019 งานศิลปะชุด THE KAWS ALBUM ที่เขาทำให้ NIGO ศิลปินนักดนตรีและดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งแบรนด์สตรีทแวร์อย่าง Bathing Ape ได้ถูกประมูลผ่าน Sotheby’s ที่ ฮ่องกงด้วยราคาปิดดีลสูงถึง 14.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง
