Keds แบรนด์ต้นกำเนิด สนีกเกอร์ ที่กลายมาเป็นรองเท้าคู่ใจเหล่าไอดอล
Brand Story

Keds แบรนด์ต้นกำเนิด สนีกเกอร์ ที่กลายมาเป็นรองเท้าคู่ใจเหล่าไอดอล

Focus
  • สนีกเกอร์ (Sneaker) คำนี้เพิ่งมีเมื่อราวร้อยกว่าปี โดยแบรนด์ที่เป็นต้นกำเนิดและต้นแบบรองเท้าสนีกเกอร์ ได้แก่ Keds
  • ค.ศ.1916 บริษัท ยู. เอส. รับเบอร์ (U.S.Rubber) เจ้าของโรงงานแปรรูปยาง และเป็นโรงงานผู้ผลิตรองเท้ายางรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รองเท้ารูปแบบใหม่ภายใต้ยี่ห้อ Keds เป็นรองเท้าสำหรับเล่นกีฬาเทนนิสพื้นยาง

แม้รองเท้ากีฬาประเภทหุ้มข้อจะเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งราชวงศ์อังกฤษหรือราว 495 ปีที่ผ่านมา (ค.ศ. 1526) เป็นรองเท้าฟุตบอลทำจากหนังสัตว์ แต่รองเท้าผ้าใบพื้นยางที่เรียกว่า สนีกเกอร์ (Sneaker) เพิ่งมีเมื่อราวร้อยกว่าปี โดยแบรนด์ที่เป็นต้นกำเนิดและต้นแบบรองเท้าสนีกเกอร์ ได้แก่ Keds แบรนด์รองเท้าผ้าใบที่กลายมาเป็นแฟชันไอเทมที่จะขาดไม่ได้สำหรับเซเลบริตีทั่วโลก

Keds
ภาพโฆษณารองเท้าKeds ที่ไม่จำกัดแค่รองเท้ากีฬา

ค.ศ.1916 บริษัท ยู. เอส. รับเบอร์ (U.S.Rubber) เจ้าของโรงงานแปรรูปยาง และเป็นโรงงานผู้ผลิตรองเท้ายางรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รองเท้ารูปแบบใหม่ภายใต้ยี่ห้อ Keds เป็นรองเท้าสำหรับเล่นกีฬาเทนนิสแบบเจาะรูร้อยเชือกฝังลงบนวัสดุผ้าแคนวาสหรือผ้าใบที่ขึ้นรูปเป็นรองเท้าหุ้มส้น รองรับกระชับรูปเท้าเพื่อการเคลื่อนไหวที่สะดวกขึ้นและน้ำหนักรองเท้าเบากว่าที่เคยมีมา

บริษัท ยู. เอส. รับเบอร์ (U.S.Rubber) ในช่วงก่อตั้ง

วัสดุสำคัญที่ทำให้Keds แตกต่างจากรองเท้ารุ่นก่อน ๆ คือ พื้นรองเท้าทำด้วยยางวัลคาไนซ์ มีความแข็งแรง ตัวบอดี้ของรองเท้าเป็นผ้าแคนวาสหรือผ้าใบ ใช้เทคนิคการทอที่ค่อนข้างหนา เวลาใส่เดินไม่มีเสียงกระทบพื้นเหมือนรองเท้ารุ่นก่อน ๆ ซึ่งใช้วัสดุจากหนังสัตว์เป็นหลัก พร้อมดีไซน์แบบมินิมัลที่เป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน

รองเท้าKeds รุ่น Champion ได้รับเครดิตว่าเป็นสินค้าตัวแรกที่ทำให้คำว่า สนีกเกอร์ กลายเป็นคำสามัญ ด้วยคุณสมบัติของรองเท้าที่ไม่มีเสียงดังกระทบพื้นเวลาคนสวมใส่เดิน พ้องกับคำนามในภาษาอังกฤษที่แปลว่า คนที่เดินแบบไร้เสียง และศัพท์คำว่า Sneaker ก็กลายเป็นคำนามเรียกรองเท้ากีฬาทั่วไป พร้อมทำให้รองเท้ากีฬากลายเป็นรองเท้าที่ใส่ได้ทุกวัน แม้แต่ผู้หญิงก็ใส่ได้โดยไม่จำเป็นว่าจะใส่ไปเล่นกีฬาโครเกเท่านั้น

Keds
รองเท้าKeds รุ่นแรกสำหรับเล่นกีฬา

ทั้งนี้ก่อนที่สนีกเกอร์แบรนด์Keds จะถือกำเนิด มีรองเท้าที่ใกล้เคียงกันนั่นคือรองเท้าพื้นยาง พลิมโซลล์ (Plimsoll) ซึ่งเป็นรองเท้าสำหรับเล่นกีฬาซึ่งถูกออกแบบมาครั้งแรกเมื่อราว ๆ ค.ศ.1830 เพื่อสวมใส่เล่นกีฬาโครเก (กีฬายอดนิยมยุควิคตอเรียช่วงศตวรรษที่ 19 ที่บรรจุในการแข่งขัน โอลิมปิก ปารีส ปี ค.ศ.1900 ด้วย) และสำหรับใส่เดินเล่นตามชายหาด ชื่อเรียกรองเท้าพื้นยางพลิมโซลล์ มาจากรูปแบบของรองเท้าที่มีรอยต่อระหว่างส่วนที่เป็นผ้าห่อหุ้มเท้ากับพื้นยางที่พ้องกับเส้นพลิมโซลล์บอกขีดระดับน้ำด้านข้างเรือ หากน้ำบนพื้นสูงเกินขีดรอยต่อพื้นยางกับผ้าของรองเท้าจะทำให้เท้าเปียก เช่นเดียวกับระดับน้ำเหนือเส้นพลิมโซลล์ข้างเรือ

Keds

Keds และการตลาดรองเท้าคู่ใจของเหล่าไอดอล

แม้ว่ารองเท้าสนีกเกอร์จะมีจุดเริ่มต้นมาจากรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นกีฬา แต่ในยุคหลัง ๆ สนีกเกอร์หรือรองเท้าผ้าใบที่มีวัสดุผ้าใบและพื้นยางในรูปทรงหุ้มส้นเท้าและปลายเท้า กระชับข้างเท้าที่ทั้งสองด้าน จะเน้นไปเป็นรองเท้าลำลองสวมใส่ในชีวิตประจำวันไปจนถึงแฟชันไอเทมเสียมากกว่า โดยเฉพาะแบรนด์ Keds ได้ชูธงการตลาดใช้ศิลปินดาราคนดังเป็นอินฟลูเอนเซอร์หลัก และทางแบรนด์ก็แต่งตั้ง เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ศิลปินนักร้องหญิงที่ประสบความสำเร็จเป็นขวัญใจวัยรุ่นหญิงแห่งยุคมาเป็น Global Brand Ambassador ของรองเท้าผ้าใบKeds อีกด้วย ส่วนพัฒนาการด้านแฟชั่นของKeds แต่ละรุ่นก็แจ้งเกิดพร้อมกับเหล่าซูเปอร์สตาร์เช่นกัน

Keds
  • ค.ศ.1949 รองเท้ากีฬาไลน์ใหม่ในชื่อ Pro-Keds ออกวางตลาด เป็นสนีกเกอร์หรือรองเท้าผ้าใบรุ่นแรก ๆ ที่ออกแบบมาสำหรับเล่นบาสเกตบอล
  • ช่วงทศวรรษ 1940 มีการเปิดตัวรองเท้าสำหรับผู้หญิงยี่ห้อ Kedettes เป็นรองเท้าผ้าใบส้นสูง เรียกว่าแม้จะใส่รองเท้าส้นสูงแต่ยังคงใส่สบายเหมือนรองเท้ากีฬา
  • ช่วงทศวรรษ 1950 ตรงกับยุคกำเนิดดนตรีร็อกแอนด์โรล วัยรุ่นขบถต่อผู้ใหญ่และวัฒนธรรมเดิม ดาราฮอลลีวูดและนักร้อง กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ของวัยรุ่นอเมริกัน นางเอกดังของฮอลลีวูด ซึ่งถือเป็นสไตล์ไอคอนแห่งยุค อย่าง มาริลีน มอนโร (Marilyn Monroe) ช่วยดันให้รองเท้าผ้าใบKeds ติดตลาดมากขึ้น ถึงแม้ว่าภาพลักษณ์ของมาริลีน มอนโร คือเซ็กซ์ซิมโบล สาวเซ็กซี่เย้ายวน แต่ในภาพยนตร์เรื่อง Clash ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ. 1952 มาริลีน มอนโร แสดงเป็นสาวอเมริกันยุคร็อกแอนด์โรล กับแนวเสื้อผ้าเสื้อเชิ้ตพับแขนและกางเกงส์ยีนพับขา และรองเท้าผ้าใบรุ่นคลาสสิก Keds Champion Originals
  • ค.ศ.1955 รองเท้าผ้าใบหรือสนีกเกอร์กลายเป็นรองเท้าสวมใส่ทั่วไปไม่จำกัดเฉพาะในการเล่นกีฬา ผู้ผลิตรองเท้าหลากหลายแบรนด์ได้ผลิตภัณฑ์รองเท้าผ้าใบ หรือ สนีกเกอร์ ที่ใช้วัสดุผ้าใบ(แคนวาส)และหนัง (Leather) พัฒนารองเท้าเพื่อการเล่นกีฬาควบคู่ไปกับรองเท้าแฟชั่น
  • ช่วงทศวรรษ 1960 รองเท้าผ้าใบKeds รุ่น Champion ตอกย้ำเทรนด์รองเท้าแฟชั่นสำหรับสาว ๆ ความเรียบง่ายของรุ่น Champion ถูกจับคู่กับกางเกงยีนส์และลุคสบาย ๆ ในวันธรรมดา และ Keds ก็ดังจนฉุดไม่อยู่เมื่อดาราฮอลลีวูดที่ถือเป็นสไตล์ไอคอนแห่งยุคอย่าง ออดรีย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) สลัดลุคนางเอกสายหวานสไตล์เสื้อผ้าแบบโอต์ กูตูร์จากภาพยนตร์ Breakfast at Tiffany’s, Sabrina, Roman’s Holiday มาสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวรุ่นคลาสสิกของKeds กับกางเกงยีนส์ ในภาพยนตร์เรื่อง Two for the Road ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ. 1967
  • ค.ศ. 1969 รองเท้าผ้าใบKeds กลายเป็นไอเทมแรกที่มาก่อนกาลสำหรับเทรนด์ “เจ้าสาวในรองเท้าผ้าใบ” เมื่อคนดังอย่าง โยโกะ โอโนะ (Yoko Ono) สวมสนีกเกอร์สีขาวรองเท้ากีฬาเทนนิสKeds ในวันแต่งงานกับ จอห์น เลนนอน ศิลปินอดีตสมาชิกวง เดอะบีเทิลส์ (The Beatles) ที่สถานกงสุลอังกฤษ แห่งนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1969 งานแต่งงานของเลนนอนกับโอโนะเป็นแบบเรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตอง แค่จูงมือไปจดทะเบียนสมรสที่สถานกงสุลอังกฤษในนิวยอร์ก ทั้งคู่มาในชุดสีขาว สำหรับเจ้าสาวโอโนะ ไม่ใช่ชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องแต่เป็นมินิเดรสแขนยาวติดกระดุมผ่าหน้า หมวกปีกกว้างผ้าเฟลต์สีขาว แว่นกันแดดอันใหญ่และรองเท้าผ้าใบสีขาวทับบนถุงเท้ายาวถึงเข่า และเธอก็ได้กลายเป็นผู้มาก่อนกาลแห่งเทรนด์ “เจ้าสาวในรองเท้าผ้าใบ” ชื่อเสียงของเลนนอนและเจ้าสาวของเขา ไม่ใช่แค่ศิลปินดนตรี แต่เป็นทั้งคู่ขวัญใจหนุ่มสาวนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมแห่งปลายยุค 60-70 เพราะทั้งคู่ใช้ทุกโอกาสที่ออกสื่อในการเรียกร้องสันติภาพ ต่อต้านสงคราม ยุคที่สหรัฐอเมริกาทำสงครามเวียดนามเสื้อผ้าและสไตล์การแต่งตัวของทั้งคู่ในวันแต่งงานก็กลายเป็นแถลงการณ์แสดงเจตจำนงเสรีเช่นกัน
หนังฮิตแห่งปี ค.ศ. 1987 เรื่อง Dirty Dancing
เจนนิเฟอร์ เกรย์ กับ รองเท้าผ้าใบสีขาวรุ่น Champion
(ภาพ : PMC ARCHIVES )
  • ทศวรรษ 1980 เป็นยุครุ่งเรืองของสนีกเกอร์รองเท้ากีฬากลายเป็นไอเทมที่ต้องมี ทั้งยังได้พัฒนาการแตกไลน์กันไปหลายไลฟ์สไตล์ผู้สวมใส่ ผู้ผลิตรองเท้ากีฬารายใหญ่ทั้งอาดิดาส (Adidas)ไนกี้ (Nike)คอนเวิร์ส (Converse)ฯลฯ ก็หันมาบุกตลาดสนีกเกอร์กันอย่างมากมายรวมถึงความสำเร็จของแบรนด์ไนกี้ที่พัฒนารองเท้ากีฬาบาสเกตบอลรุ่นใส่แล้วบินได้ อย่าง Air Jordan ร่วมกับ ไมเคิล จอร์แดน นักกีฬาบาสเกตบอลคนดังแห่งลีกบาสเกตบอลอาชีพ (NBA) ที่ขายดี แม้ในกลุ่มคนไม่เล่นกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งยุคนี้นี่เองที่ทำให้รองเท้า สนีกเกอร์ที่ไม่เพียงแต่ยี่ห้อ Keds ขายดีไปทั่วโลก
  • ปลายยุค 80 ฮอลลีวูดยังคงเป็นกระบอกเสียงให้ Keds ด้วยการนำเทรนด์รองเท้าผ้าใบเจาะตลาดวัยรุ่น กับหนังฮิตแห่งปี ค.ศ. 1987 เรื่อง Dirty Dancing ต้นแบบหนังฮิตวัยรุ่นเต้นตามใจฝันทั่วโลก นางเอกแสดงโดย เจนนิเฟอร์ เกรย์ (Jennifer Grey) ฝันอยากเป็นนักเต้นอาชีพ เธอมีรองเท้าผ้าใบสีขาวรุ่น Champion ของ Keds เป็นรองเท้าคู่ใจทั้งในตอนซ้อมและตอนเต้นในเวทีประกวด หนังฮิตดาราดัง รองเท้าก็ขายดีไปด้วย
  • ยุค 2000s ผลิตภัณฑ์รองเท้าผ้าใบของ Keds ยังชูธงการตลาดใช้ศิลปินดาราคนดังเป็นอินฟลูเอนเซอร์หลัก เช่นการแต่งตั้ง เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) เป็น Global Brand Ambassador ส่วนในฝั่งเอเชีย คริสตัล (Krystal) นางเอกและไอดอลสาวชาวเกาหลีแห่งวง f(x) ก็ได้รับเลือกให้เป็น Global Presenter คนแรกของแบรนด์ Keds ในฝั่งเอเชีย
คริสตัล (Krystal) นางเอกและไอดอลสาวชาวเกาหลีแห่งวง f(x)

Fact File

เกี่ยวกับ บริษัทยู. เอส. รับเบอร์ (U.S. Rubber Company)

  • ก่อตั้งเมื่อค.ศ.1892 เป็นโรงงานผลิตยางแปรรูปรายใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งอุตสาหกรรมการผลิตยางแปรรูป รวมถึงยางรถยนต์ยี่ห้อ กู๊ดเยียร์ (Goodyear)ทั้งยังเป็นโรงงานผลิตรองเท้ากีฬาหรือสนีกเกอร์ ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 30 แบรนด์ ในช่วงปี ค.ศ. 1892-1917
  • การที่บริษัท ยู. เอส. รับเบอร์เป็นเจ้าตลาดผลิตยางแปรรูปรายใหญ่ที่สุดของโลก มีโรงงานกระจายอยู่ทั่วโลก ส่งผลให้บริษัทยู. เอส. รับเบอร์ เป็นโรงงานผู้ผลิตรองเท้ากีฬาคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของโลกหลายยี่ห้อ และทางบริษัทได้ผลิตรองเท้าผ้าใบพื้นยางภายใต้ยี่ห้อKeds เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1916
  • มาร์ควิส คอนเวิร์ส (Marquis Converse) ผู้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส (Converse) เมื่อ ค.ศ.1917 ที่เริ่มจากรองเท้าผ้าใบสำหรับกีฬาบาสเกตบอล ก็เคยเป็นพนักงานในโรงงานของ ยู. เอส. รับเบอร์มาก่อน

อ้างอิง


Author

ทศพร กลิ่นหอม
นักเขียนสายบันเทิง สังคม ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ เคยประจำการอยู่ที่ เมเนจเจอร์ออนไลน์ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และรายการ ET Thailand ปัจจุบันรับจ้างทั่วไป