![Pour Over Lab ห้องแล็บที่จะพาไปดำดิ่งกับกาแฟ Specialty](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/pouroverlab.jpg)
Pour Over Lab ห้องแล็บที่จะพาไปดำดิ่งกับกาแฟ Specialty
- Pour Over Lab ร้าน Special Coffee ที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อราวต้นปี 2563 กับคอนเซ็ปต์ห้องแล็บวิทยาศาสตร์ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ทำกาแฟที่หลากหลายนอกเหนือจาก Espresso Machine ที่ ปาณิสรา เจ้าของร้านตั้งใจอยากให้คุณภาพกาแฟออกมาดีที่สุด
- หากอยากสวมบทเป็นนักทดลองดูบ้าง นอกจากจุด Lab Yourself ที่ลูกค้าสามารถกดปุ่มดริปออโต้ด้วยเครื่อง Poursteady เองได้แล้ว หากอยากทดลองเบลนด์เมล็ดกาแฟเอง เป็นกลิ่นเฉพาะ รสเฉพาะของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน
Pour Over Lab คือ ห้องแล็บกาแฟที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อราวต้นปี ตัวร้าน ตั้งอยู่ชั้น 1 ภายในมัลติแบรนด์สโตร์อย่าง Cazh สยามดิสคัฟเวอรี แค่มองเห็นจากหน้าร้านก็ปิ๊งแล้วด้วยโทนสีขาวดูสะอาดตา โปร่งโล่งด้วยกระจกบานใหญ่ และอัดแน่นด้วยอุปกรณ์ทำกาแฟแบบจัดเต็ม ด้วยความตั้งใจของ ปาณิสรา เอี่ยมโหมด เจ้าของร้าน
“ตอนที่เราคิดร้านนี้ขึ้นมาเราก็นึกกันว่าอะไรที่จะเอามาประยุกต์ใช้กับกาแฟได้ เราเลยคิดว่าการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาประยุกต์ใช้กับกาแฟและเมนูต่าง ๆ น่าจะดี เพราะทุกเมนูมีการคิดค้น มีการวิจัยและการทดลอง เพื่อให้ได้เมนูทั้งหมดของร้านที่ทำออกมา คอนเซ็ปต์ของร้าน รวมถึงการตกแต่งเลยเป็นเหมือนห้องแล็บวิทยาศาสตร์”
![Pour Over Lab](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/coffee1.jpg)
เมล็ดกาแฟของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย โดยส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นเมล็ดกาแฟนำเข้าที่ทางร้านนำมาคั่วเอง ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Single Origin จากฟาร์มเดียว หรือหากลูกค้าอยากลองเบลนด์เอง เป็นกลิ่นเฉพาะ รสเฉพาะของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน ต้องการแบบไหนสามารถขอคำแนะนำจาก Coffee Professional หรือก็คือ บาริสต้า ได้เลย ซึ่งบาริสต้าทุกคนของที่นี่ต้องผ่านการเทรนด์เรื่องกาแฟ Specialty มาก่อนอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถแนะนำลูกค้าได้
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/poueoverlab2-1.jpg)
คอนเซ็ปต์ห้องแล็บของที่นี่ไม่ได้มาแค่ชื่อ แต่กระจายอยู่ในทุก ๆ ส่วนของร้าน ตั้งแต่ชุดของบาริสต้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ใส่เมล็ดกาแฟ (200 กรัม) สำหรับซื้อกลับที่ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายขวดสารเคมีสีชา ที่นอกจากจะเข้ากับคอนเซ็ปต์ร้านแล้วยังสามารถนำมารียูสสำหรับการซื้อครั้งต่อไปได้ แถมยังได้รับส่วนลดอีกต่างหาก
เรื่องอุปกรณ์ ถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของ Pour Over Lab เลย “ร้านเราจะไม่มี Espresso Machine เพราะเราอยากให้คนกินกาแฟรู้ว่ากาแฟไม่ได้ทำจาก Espresso Machine อย่างเดียว เราสามารถสกัดกาแฟได้หลากหลายวิธี ซึ่งก็จะมีทั้งดริปเปอร์แบบต่าง ๆ Syphon, Chemex, Delter Press, French Press ที่เรามีให้ลูกค้าเลือกหลากหลาย เราสามารถแนะนำได้ว่าแต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างไร เช่นดริปเปอร์ Origami (World Brewers Cup Champion 2019) ก็จะช่วยในเรื่องของความไบร์ท ถ้าเลือกเมล็ดกาแฟที่มีความหนัก ก็อาจจะแนะนำเป็นดริปเปอร์ตัวนี้ หรือ Tetsu Kasuya V60 (World Brewers Cup Champion 2016) ก็จะช่วยให้กาแฟมีความเข้มขึ้น มีบอดี้ที่หนักขึ้น”
![Pour Over Lab](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/poueoverlab1.jpg)
นอกจากความสนุกเสมือนได้ดูการทดลองจาก Coffee Professional ในการทำ Hand Drip แล้ว ลูกเล่นอีกอย่าง สำหรับคนที่อยากลงมือทดลองดูบ้างคือ Lab Yourself โดยหลังจากเลือกเมล็ดกาแฟและดริปเปอร์ได้แล้ว จะเป็นการให้เรากดปุ่มดริปเองด้วยเครื่อง Poursteady ซึ่งเป็นการดริปแบบออโตทำให้กาแฟที่ได้ออกมามีความเสถียรของกลิ่นและรสในแบบที่ต้องการ
แต่ที่เป็นไฮไลต์เลยคือเครื่อง One Dutch ที่ปาณิสราบอกกับเราว่าที่นี่เป็นเครื่องแรกในประเทศไทย
“One Dutch เป็นเครื่องทำ Cold Drip แบบออโตความพิเศษของเครื่องนี้จะย่นระยะเวลาในการทำ Cold Drip ให้เร็วขึ้น ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาน 2 วัน แต่เครื่องนี้จะใช้เวลาในการทำอยู่ที่ 8 ชั่วโมงก็จะได้ออกมา 1 ขวด เฉลี่ยอยู่ที่ขวดละประมาน 1 ลิตร ใน 1 ครั้งเราจะได้กาแฟทั้งหมด 8 ตัว ที่จะดึงมาเป็นกาแฟซิกเนเจอร์ของร้าน”
![Pour Over Lab](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/coffee2-1.jpg)
ซิกเนเจอร์เมนูที่เราขอเทคะแนนใจให้เลยคือเมนูที่มีส่วนผสมของส้มยูซุอย่าง Orenji Dutch ที่หยิบกาแฟ Cold Drip มามิกซ์กับความหอมสดชื่นของส้มยูซุ เสิร์ฟมาในน้ำแข็งก้อนกลม ให้ความรู้สึกเฟรชซึ่ง Sphere Moon จะให้กลิ่นรสคล้ายกัน แต่จะต่างกันที่เนื้อสัมผัสของส้มยูซุที่นำไปปั่นก่อน
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/poueoverlab7.jpg)
![Pour Over Lab](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/poueoverlab4.jpg)
ในช่วงนี้ Pour Over Lab เขามีเมนูพิเศษอย่าง Tiramisu Dutch ซึ่งเป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทีรามิสุสูตรดั้งเดิมจากอิตาลี แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดกาแฟ เมนู Non Coffee ของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น ความละมุนของเมนูเฟรปเปอย่าง Brownie Snow ที่นำบราวนีโฮมเมดสูตรของทางร้านมาปั่นรวมกับนม หรือจะเป็น Seasoning Mocktail สีสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสี่ฤดูกาล เช่นเมนู Summer ที่ภายนอกดูเป็นสายหวานด้วยสีชมพู แต่แอบแฝงความร้อนแรงเอาไว้ในรสชาติเหมือนฤดูร้อน
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/08/poueoverlab6.jpg)
กิมมิกมัดใจอีกอย่างคือในทุก ๆ เมนูเครื่องดื่มของ Pour Over Lab จะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเปล่าสีฟ้า ซึ่งสกัดจากอัญชัน สามารถยกดื่มได้ทันที เหตุผลมาจากงานวิจัยที่บอกว่าการมองสีฟ้าจะช่วยเพิ่มความรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตา ทำให้เวลาเสิร์ฟสามารถช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและรับรสของกาแฟได้ดีขึ้น
นอกจากเครื่องดื่มแล้ว อย่าลืมสั่งเค้ก Red Velvet และบราวนีโฮมเมดรสเข้มข้นมาลองด้วย แต่หากกินคู่กับกาแฟ ครัวซองต์อัลมอนด์หอม ๆ จะเข้ากันสุดเลย
Fact File
- Pour Over Lab ชั้น 1 ตั้งอยู่ภายในร้าน Cazh มัลติแบรนด์สโตร์ สยามดิสคัฟเวอรี Facebook : facebook.com/pouroverlab.th และ Instagram : @pouroverlab.th
![](/wp-content/uploads/2019/12/logo-greyscale-1.png)