Hong Kong Museum Guide พิพิธภัณฑ์ฮ่องกง ต้องเช็คอิน อัปเดตปี 2023
Lite

Hong Kong Museum Guide พิพิธภัณฑ์ฮ่องกง ต้องเช็คอิน อัปเดตปี 2023

Focus
  • เขตวัฒนธรรมแห่งใหม่ West Kowloon เป็นโซนใหม่สำหรับคนรักพิพิธภัณฑ์ เพราะรัฐตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อรวบรวมพิพิธภัณฑ์ระดับโลกและวัฒนธรรมระดับชาติไว้ในเขตนี้โดยเฉพาะ
  • ไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์ระดับโลกในฮ่องกง ได้แก่ M+ Museum พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยด้านศิลปวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียและของโลก
  • พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ในโซน West Kowloon จัดแสดงสมบัติล้ำค่าของชาติเกือบ 1,000 ชิ้นที่นำมาจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง หรือก็คือ พระราชวังต้องห้าม

แม้ ฮ่องกง จะดูเป็นเมืองที่มีความล้ำสมัย เต็มไปด้วยอาคารตึกสูงดีไซน์โมเดิร์น แต่ถ้าเที่ยวฮ่องกงแบบเจาะลึกจริงๆ จะพบว่าฮ่องกงเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเก่าและใหม่ได้แบบกำลังเที่ยวสนุก แต่ละย่านก็จะมีพิพิธภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมที่มีเรื่องเล่าท้องถิ่นชัดเจนและกระจายไปทั่วทั้งเกาะ ไม่นับรวมเขตวัฒนธรรมแห่งใหม่อย่าง West Kowloon ที่รัฐตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อรวบรวมพิพิธภัณฑ์ระดับโลกและวัฒนธรรมระดับชาติไว้ในเขตนี้โดยเฉพาะ และสำหรับใครที่ชอบเที่ยวเจาะจงไปที่พิพิธภัณฑ์ Hong Kong Museum Guide ได้รวบรวม พิพิธภัณฑ์ฮ่องกง ต้องเช็คอิน อัปเดตปี 2023 ที่สำคัญเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้เขียนไปมาจริง และยืนยันได้ว่าควรค่าแก่การไปเก็บเข้าลิสต์มาก

01 Hong Kong Palace Museum

พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ในโซน West Kowloon ที่ไม่ได้มีแต่ความใหญ่โตโอ่อ่า ทว่ายังรวมโบราณวัฒถุและศิลปะวัตถุชิ้นสำคัญระดับชาติไว้แน่นมากๆ จนเราต้องแนะนำว่าให้เผื่อเวลาเดินแบบอิ่มๆ สักครึ่งวัน ที่นี่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี มีห้องนิทรรศการมากถึง 9 ห้อง จัดแสดงสมบัติล้ำค่าของชาติเกือบ 1,000 ชิ้นที่นำมาจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง หรือก็คือ พระราชวังต้องห้าม ถือเป็นการยืมชิ้นงานจากพิพิธภัณฑ์ต้องห้ามมาจัดแสดงนอกแผ่นดินใหญ่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ที่สำคัญในจำนวนนั้นมี 166 รายการที่ถูกจัดเป็น “สมบัติชาติ” ซึ่งถูกนำมาจัดแสดงในรูปแบบที่ร่วมสมัย

นอกจากโบราณวัตถุและศิลปะวัตถุระดับเอลิสต์แล้ว การออกแบบโครงสร้างพิพิธภัณฑ์ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยตัวพิพิธภัณฑ์ออกแบบโดย Rocco Yim สถาปนิกชื่อดังชาวฮ่องกง นำคีย์หลักเรื่อง “แกนกลางของพระราชวังต้องห้าม” มาเป็นโจทย์ในการออกแบบ คลี่คลายออกมาเป็นโถง 3 โถงซึ่งหันหน้าในทิศทางที่ต่างกันแต่กลับเชื่อมต่อแต่ละชั้นในแนวตั้ง เพดานมีความโปร่งแสง แต่ก็ไม่ทิ้งความหรูหราของพระราชวังด้วยโค้งสีน้ำตาลทองคล้ายผ้าม่านระย้า และไม่เพียงนิทรรศการถาวร ทีนี่ยังมีนิทรรศการหมุนเวียนระดับโลกเวียนมากจากแสดงด้วย

02 M+ Museum

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ของฮ่องกงในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก ซึ่งเราขอยกให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยด้านศิลปวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียและของโลก ชื่อของ M+ มาจากคอนเซปต์ว่า Museum and More หมายถึงการเป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์เพราะตามวัตถุประสงค์คือเป็นสถานที่ที่นำเสนอผลงานทั้งด้านทัศนศิลป์ ดีไซน์ สถาปัตยกรรม และผลงานภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชัน รวมทั้งภาพยนตร์ของยุคศตวรรษที่ 20 และ 21

ตัวอาคาร M+ ตัวอาคารเป็นรูปตัว T กลับหัว ดีไซน์เรียบง่ายแต่ใส่รายละเอียดเกี่ยวเนื่องกับประสบการณ์ชมงานศิลปะไว้แน่นมาก ผลงานการออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกชื่อดัง Herzog & de Meuron ของสถาปนิกระดับโลก จาคส์ เฮอร์ซอก (Jacques Herzog) และ ปีแอร์ เดอ มิวรอน (Pierre de Meuron) ผู้มีผลงานชื่อก้องอย่างพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย Tate Modern London และสนามกีฬารังนกในกรุงปักกิ่ง และเจ้าของรางวัล Pritzker Prize ปี 2001

ด้วยความที่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปร่วมสมัย ความน่าสนใจที่ใส่ไว้จึงเป็นเรื่องเนื้อหาที่ไม่ได้จำกัด เช่น งานของ Ai Weiwei ศิลปินจีนสุดแสบที่วิพากษ์สังคมและการเมืองจีนอย่างท้าทายและเปิดเผย Tehching Hsieh ศิลปิน Performance Art ชาวไต้หวัน Liu Heung Shing ช่างภาพชาวจีน-อเมริกัน เจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ปี 1992, และ Tsang Tsou Choi ผู้ได้รับฉายา “King of Kawloon” จากผลงานกราฟฟิตีตัวอักษรจีน รวมทั้งงานนิทรรศการหมุนเวียนของ Yayoi Kusama ที่นำชิ้นใหญ่และยกห้องลายจุดห้องใหญ่มาไว้กลางพิพิธภัณฑ์กันเลย

03 Tai Kwun

อาคารเก่ากลางย่านโซโหที่โดดเด่นด้วยสีส้มอิฐตัดกับสีขาวหลังใหญ่นี้คืออดีตสถานีตำรวจ  สำนักงานคณะผู้พิพากษากลางและเรือนจำเก่าอายุกว่า 100 ปี ส่วนปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี อาร์ตสเปซ ที่มีทั้งนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนมาจัดแสดง โดยในส่วนของนิทรรศการถาวรนั้นเล่าเรื่องประวัติศาสตร์เรือนจำเก่าให้เห็นภาพนักโทษในอดีตว่าอยู่กันอย่างไร ส่วนนิทรรศการหมุนเวียนก็หลากหลายมาก มีทั้งอาร์ตสเปซในอาคาร และอาร์ตสเปซกลางแจ้ง และแม้จะเป็นอาคารเก่าแต่ในการปรับปรุงใหม่ก็ได้ใส่ดีไซน์ล้ำสมัยแทรกลงไปตรงกลางความเก่าแก่นี้ด้วย เลยทำให้ที่นี่ไม่ได้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่เหมือนเป็นพิกัดที่ผู้คนมานั่งคุย อ่านหนังสือ ดูงานอาร์ตสนุกๆ มากกว่า

04 Nan Lian Garden

สวนสวยเบอร์ต้นของฮ่องกงที่ครั้งหนึ่งเคยได้ขึ้นปกไกด์บุ๊ค Lonely Planat ความสวยที่ว่าคือการผสมผสานกลุ่มงานสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณในราชวงศ์ถังเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสวน ที่นี่จึงไม่ได้มีแค่ดอกไม้และพรรณไม้ให้ได้ชม แต่สวนหนานเหลียนยังมีกลุ่มอาคารไม้แบบโบราณรูปร่างแปลกตา ให้ใช้เวลาครึ่งค่อนวันเดินชมได้อย่างไม่เบื่อ โดยเฉพาะ Golden Pavilion อาคารเก๋งจีนสองชั้นสีทองสูงตระหง่าน ที่อยู่กลางสระบัว และมีสะพานไม้ Zi Wu สีแดงเป็นสัญลักษณ์อยู่คู่กันนั้น คือไฮไลต์ของสวน และด้วยความที่ในสวนรวมทั้งวัดที่อยู่ตรงข้ามมีอาคารเก๋งจีนทำจากไม้โดยใช้เทคนิคโบราณ ด้านในสวนจึงมีพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมซ่อนอยู่ เล่าเรือ่งเกี่ยวกับเรื่องกับเข้าสลักไม้และโครงสร้างอาคารไม้แบบโบราณของจีนซึ่งย่อสเกลจากของจริงมาได้ละเอียดมากๆ

จากสวนสามารถเดินข้ามสะพานมายัง สำนักชีจี้หลิน หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า วัดนางชี อารามไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่เชิงเขาไดมอนด์ สร้างขึ้นในปี 1934 ความอัศจรรย์อย่างหนึ่งของอารามไม้แห่งนี้คือโครงสร้างทั้งหมดไม่มีการใช้ตะปูเลยสักดอก ตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมจีนโบราณในสมัยราชวงศ์ถัง นั่นทำให้สำนักชีจี้หลินติดอันดับอาคารแฮนด์เมดใหญ่ที่สุดในโลกที่ควรค่าแก่การมาเยือน

05 Flagstaff House of Museum of Tea Ware

พิพิธภัณฑ์เครื่องชาแห่งนี้เป็นอีกพิพิธภัณฑ์ที่ค่อนข้างลับ เพราะตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะฮ่องกงปาร์กที่ต้องใช้ความตั้งใจมา แต่บรรยากาศคือดีมากๆ เฉพาะตัวอาคารโคโลเนียลสีขาวก็กเก่าแก่เกือบ 200 ปีจนติดอันดับอาคารโคโลเนียลเก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง ความสนุกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือการเรียงร้อยประวัติศาสตร์ชาที่เปรียบได้กับจิตวิญญาณของชาวจีน ตั้งแต่การทำความรู้จักชาใบแรก เรื่อยมาถึงเอกลักษณ์การชงชาในรัชสมัยต่างๆ รวมถึงความนิยมดื่มชาในฮ่องกง ใบชาประเภทต่างๆ อุปกรณ์การชงชาที่มีตั้งแต่ดั้งเดิมไปจนถึงงานดีไซน์ล้ำสมัย ไม่เพียงเท่านั้น ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีห้องขายใบชา อุปกรณ์ชงชา หนังสือชา รวมทั้งจัดเวิร์กช็อปการชงและชิมชา

06 Hong Kong Maritime Museum

พิพิธภัณฑ์ทางเรือสุดโมเดิร์นที่รวบรวมประวัติศาสตร์การเดินเรือของจีนและฮ่องกงไว้ครบถ้วนและละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลสำคัญในการเดินเรือ โมเดลเรือโบราณไปจนถึงเรือรบรุ่นใหม่ล่าสุด รวมทั้งมีห้องให้เด็กๆ ได้สนุกกับการขับเรือแบบซิมูเลเตอร์ที่เหมือนจริงมาก นอกจากนี้ยังมีเกร็ดความรู้เรื่องโลกใต้ทะเล และสมบัติล้ำค่าใต้อ่าว การันตีความสนุกล้ำสมัยที่หยิบจับได้ทุกชิ้น แถมมีวิวอ่าววิกตอเรียให้ชมกันอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ฮ่องกง

07 Hong Kong Railway Museum

พิพิธภัณฑ์รถไฟเล็กๆ ในย่าน Taipo ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารเก่าหลังคางอนแบบบ้านจีนโบราณ ด้านในจำลองห้องขายตั๋ว และบอกเล่าประวัติศาสตร์การรถไฟในยุคต่างๆ ของฮ่องกง ไฮไลต์ของที่นี่คือ ส่วนของพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งนำขบวนรถไฟเก่าของจริงมาให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปถ่ายรูปอย่างไม่หวง รวมทั้งมีเมืองไทโผจำลองที่ย่อส่วนทุกอย่างมาไว้ให้ซ้อมทัวร์ พร้อมทั้งยังจำลองเส้นทางรถไฟที่ผ่ากลางเมือง และให้นักท่องเที่ยวได้กดปิดปล่อยตัวรถไฟจำลองให้ออกมาโลดแล่นบนรางไปรอบๆ เมืองอย่างสมจริง

พิพิธภัณฑ์ฮ่องกง

08 Sam Tung Uk Museum

พิพิธภัณฑ์ชาวจีนฮักกา หรือจีนแคะ ที่นำหมู่บ้านเก่าอายุ 200 ปีมาปรับปรุง บ้านแต่ละหลังมีลักษณะเป็นห้องเล็กๆ คล้ายห้องแถว แต่ทั้งหมดตั้งอยู่ในรั้วกำแพงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์จีนย้อนยุค โดยห้องแต่ละห้องจำลองวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม การประกอบอาชีพ และเครื่องแต่งกายของชาวฮากกาในอดีตถึงปัจจุบัน ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ได้ปิดปรับปรุงและประกาศในเว็บไซต์ว่าจะกลับมาเปิดในกลางเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้

พิพิธภัณฑ์ฮ่องกง

09 Hong Kong Museum of Medical Sciences

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่ตั้งอยู่ในอาคารโคโลเนียลก่อด้วยอิฐสีแดงสุดคลาสสิก ด้านในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนที่ค่อยๆ วิวัฒนาการจากอดีตสู่ปัจจุบัน รวมทั้งเรื่องวัคซีนและโรคต่างๆ แนะนำสำหรับคนที่สนใจพืชสมุนไพรของจีน


Author

ศรัณยู นกแก้ว
Online Editor ที่ผ่านทั้งงานหนังสือพิมพ์ พ็อกเก็ตบุ๊ค และนิตยสาร ปัจจุบันยังคงสมัครใจเป็นแรงงานด้านการผลิตคอนเทนต์