6 เพลง K-pop ที่เลือกอยู่ข้างเรา แม้วันที่ถูกแรง ซึมเศร้า กลืนกิน
Lite

6 เพลง K-pop ที่เลือกอยู่ข้างเรา แม้วันที่ถูกแรง ซึมเศร้า กลืนกิน

Focus
  • องค์การอนามัยโลกได้ประเมินตัวเลขของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทั่วโลกของปี พ.ศ. 2561-2562 อยู่ที่ 5.4% ของบุคคลทั่วไป ซึ่งก็เท่ากับว่า คนทั่วไป 100 คน ต้องมีผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 5 คน
  • วงการ K-pop นับเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงสำคัญในการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงภาวะซึมเศร้า มีการแต่งเพลงเพื่อให้กำลังใจคนที่กำลังเผชิญกับภาวะทางอารมณ์ที่เปราะบางนี้ขึ้นมากมาย

ปฏิเสธได้ยากเหลือเกินว่าความ ซึมเศร้า กำลังเป็นอีกหนึ่งภัยคุกคามของโลก หลังจากที่องค์การอนามัยโลกได้ประเมินตัวเลขของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทั่วโลกของปี พ.ศ. 2561-2562 อยู่ที่ 5.4% ของบุคคลทั่วไป ซึ่งก็เท่ากับว่า คนทั่วไป 100 คน ต้องมีผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 5 คน และเป็นเหตุให้มีการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายทุกๆ 40 วินาที

ภัยจากความซึมเศร้านี้เกิดขึ้นกับประชากรหลายล้านคนทั่วโลก รวมทั้ง กลุ่มวัยรุ่นในเกาหลีใต้ ประเทศที่ติดอันดับอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด 5 อันดับแรกของโลก โดยมีอัตราฆ่าตัวตาย 26.9 ต่อประชากร 100,000 คน นับเป็นประเทศที่มีอัตราฆ่าตัวตายสูงสุดในเอเชีย ซึ่งหากย้อนเวลากลับไป เกาหลีใต้ยังเคยเป็นแชมป์ประเทศที่มีการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลก (ระหว่างปี พ.ศ. 2553-2557)

สถิติที่น่าตกใจนี้ทำให้ประชาชนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจที่มาของปัญหาและหนทางเยียวยารักษาของโรคซึมเศร้า ซึ่ง ดร.จารุวรรณ สกุลคู อาจารย์สาขาวิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าถึงสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้อันเกี่ยวเนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกาย พื้นฐานด้านจิตใจ โดย ซึมเศร้า เป็น “โรค” ที่สามารถรักษาให้หายได้* เพราะจริงๆ แล้วเป็นเพียงโรคทางกายหนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของคนเรา เหมือนดั่งโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ซึ่งเมื่อเป็นโรคแล้ว มันไม่ได้หมายความว่าเราอ่อนแอ เป็นคนแพ้ หรือเป็นคนไม่สู้กับปัญหา หากแต่มันสามารถสลายหายไปได้ด้วยการใช้ยา และการรักษาทางจิตใจ หรือทั้งสองอย่างควบคู่กัน (*ข้อมูล: ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล)

แรงกดดันจากสภาพแวดล้อมภายนอก ครอบครัว อาชีพ สังคม เศรษฐกิจ ล้วนมีผลโดยตรงต่อความเครียดและ ซึมเศร้า จากสถิติที่น่าเป็นห่วงนี้ เกาหลีใต้ในฐานะประเทศที่กำลังเผชิญกับภาวะโรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตายในหมู่วัยรุ่นมากที่สุด ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อภัยเงียบที่คุกคามประชากรมากว่าทศวรรษนี้ รัฐบาลเกาหลีเองถึงขั้นยอมจ่ายเพื่อศึกษาวิจัยสถิติการฆ่าตัวตายและลดอัตราการฆ่าตัวตาย ร่วมกับหลายภาคส่วนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์นี้ด้วย โดยเฉพาะคนในวงการเคป๊อป ( K-pop ) ที่มีการสูญเสียบุคคสำคัญในวงการบันเทิงจากโรคซึมเศร้าไปเช่นเดียวกัน อาทิ ซอลลี่, คูฮารา, ชาอินฮา, คิม จงฮยอน เป็นต้น

วงการ K-pop นับเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงสำคัญในการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงภาวะซึมเศร้า มีการแต่งเพลงเพื่อให้กำลังใจคนที่กำลังเผชิญกับภาวะทางอารมณ์ที่เปราะบางนี้ขึ้นมากมายเพราะสำหรับความ ซึมเศร้า กำลังใจเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ดังเช่นหนึ่งในข้อความลาครั้งสุดท้ายของ จงฮยอน สมาชิกวง SHINee ว่า

“ขอแค่บอกผมว่า ‘คุณทำได้ดีแล้ว’ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอ”

นอกจากกำลังใจจากคนรอบตัวแล้ว บทเพลงก็เป็นอีกกำลังใจสำคัญที่เราสามารถเปิดรับได้ทุกเวลาที่เราต้องการ เช่น 6 เพลง K-pop จาก 6 ศิลปินที่เราได้คัดสรรมา ซึ่งอาจจะไม่ใช่เพลงที่อยู่ในกระแสหลักทั้งหมด คละเคล้ากันทั้งเพลงติดชาร์ต เพลงนอกกระแส จากศิลปินเดี่ยว และวงที่มาพร้อมทำนองบัลลาด เน้นฟังสบาย อาจคุ้นหูจับทำนองได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง

ขอออกตัวก่อนว่า ถึงแม้ผู้เขียนจะไม่ใช่แฟนคลับตัวยงของศิลปินทั้ง 6 กลุ่มนี้ แต่จากการการค่อยๆ ฟัง (ตั้งแต่ยังไม่ได้ไปเปิดแปลเนื้อความ) แต่ด้วยเมโลดี้ ทำนอง จังหวะ ความนุ่มเบา ผู้เขียนเชื่อว่าคนที่กลับไปฟังตามจะสัมผัสได้ถึงกำลังใจบางอย่าง เหมือนดังที่ผู้เขียนรู้สึกตลอดการฟัง หากเป็นเราเองที่กำลังต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้าบทเพลงก็กำลังกระซิบบอกเราอยู่เช่นกันว่า “เราไม่ได้สู้อยู่เพียงลำพัง แต่เรามีพวกเขาอยู่ข้างๆ จริงๆ”

ซึมเศร้า
ภาพ : www.facebook.com/BOL4.Official

To My Youth, Bolbbalgan4

“Bolbbalgan4” หรือ พลปัลกันโฟร์ หรือพลปัลกันซาจุนกิ ที่แปลเป็นไทยได้ว่า “เด็กน้อยผู้เขินอาย” เป็นวงดูโอ้อินดี้ชื่อดังแดนกิมจิ ผู้สร้างปรากฏการณ์ครองชาร์ตเพลงอันดับต้นๆ ทุกครั้งที่มีเพลงใหม่ออกมา ด้วยความฝันและหลงรักในเสียงเพลงเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่จับมือตัดสินใจเลือกเดินทางสายดนตรี เสียงใสละมุนเป็นเอกลักษณ์ของ “จียอง” นักร้องนำ ผสมผสานกับความสามารถล้นเหลือของ “จียุน” ซึ่งทำหน้าที่ร้องประสาน แร็ป เล่นเบส และกีตาร์ วงนี้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์จริงๆ ทำให้ทั้งคู่กวาดรางวัลจากหลายเวทีไปครอง

สำหรับเพลง To My Youth จากอัลบัม Red Diary Page.1 ที่มาพร้อมกับเมโลดี้ติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟังนี้ เล่าถึงการเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในวัยเยาว์ ความเจ็บปวด ซึ่งสุดท้ายแล้วก็มีเพียงเราเท่านั้นที่จะเป็นแสงสว่างให้แก่โลกใบนี้ได้ มีเพียงเราที่จะผ่านมันไปได้ในสักวันหนึ่ง และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร เราจะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น เวลาคือสิ่งที่เยียวยาความรู้สึกของเราได้จริงๆ ขอแค่เราไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน

ซึมเศร้า
ภาพ : Stone Music Entertainment

I’m All Ears, Youngjae of GOT7,Jimin Park

เพลงนี้ทำขึ้นโดย มูลนิธิประกันชีวิตรับผิดชอบต่อสังคม เป็นแคมเปญรณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตายในหมู่วัยรุ่น ที่ได้นักร้องเสียงนุ่มสบาย ชเว ยองแจ เมนโวคอลจากวง GOT7 ร่วมด้วย พัค จีมิน ศิลปินสาวแชมป์การประกวด K-pop Star Season 1 โดยยองแจเป็นศิลปินที่มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีบำบัดผู้ป่วยอยู่ก่อนแล้ว การได้มาทำเพลงนี้จึงเป็นเหมือนการทำให้ความฝันของเขาสำเร็จลุล่วงไปอีกหนึ่ง

เขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงเพลงนี้ว่า “ในช่วงวัยรุ่นผมเคยมีปัญหาอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความกังวลในอนาคตของตัวเอง รวมไปถึงความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ด้วย ผมรู้ดีว่ามันสำคัญมากแค่ไหนกับการมีใครสักคนหนึ่งคอยรับฟังปัญหาของเรา ผมหวังว่าบทเพลงนี้จะเป็นเพลงที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจที่เข้มแข็งให้วัยรุ่นทุกคน”

วัยรุ่น เป็นช่วงอายุที่มีการผลัดเปลี่ยนทั้งทางด้านอารมณ์ ร่างกาย ความคิด จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขาจะสามารถผ่านการเปลี่ยนแปลงนี้มาได้ การต้องเผชิญกับปัญหาการเรียน การเลือกเส้นทางอาชีพในอนาคต ความสัมพันธ์ต่อครอบครัว คนรอบข้าง หรือไม่ว่าปัญหาอะไรก็ตามที่ถูกซ่อนเอาไว้ที่ทำให้จิตใจของพวกเขาบอบช้ำ “ฉันจะเป็นคนรับฟังและอยู่ข้างๆ เธอเอง” เป็นเนื้อความสำคัญของเพลงนี้ ซึ่งถ้าหากคุณอยากได้ใครสักคนเป็นเพื่อนคอยรับฟัง หรือต้องการกำลังใจ เพลงนี้ทำหน้าที่นั้นได้สมบูรณ์ทีเดียว

ซึมเศร้า
ภาพ IG : leehi_hi

Breathe, Lee Hi

เป็นอีกหนึ่งเพลงที่คนกำลังเศร้าหรือต้องการกำลังใจควรเพิ่มอยู่ในลิสต์ แต่งและโปรดิวซ์โดยจงฮยอนอดีตสมาชิกวง SHINeeที่ได้จากเราไปพร้อมโลกแห่งความ ซึมเศร้า เมื่อหลายปีก่อนBreathe เป็นเพลงไตเติลหลักในอัลบัมของนักร้อง Lee Hi (อีฮา-อี) หลังจากได้ห่างหายจากวงการเพลงไปเพราะโรคแพนิค (panic disorder) หรือโรคตื่นตระหนก ซึ่งทำให้เธอหายใจค่อนข้างลำบากและมีอาการหดหู่กับตัวเองตลอดเวลา เมื่อเธอได้มีโอกาสกลับมาทำเพลงอีกครั้ง เธอจึงอยากทำเพลงเกี่ยวกับการหายใจ เพื่อให้คนที่ได้ฟังรู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยา และได้พักสักครู่หนึ่ง เช่นเดียวกับเธอ

ด้วยเหตุนี้จึงตอบข้อสงสัยได้เป็นอย่างดีว่าทำไมเพลงนี้ถึงเหมาะที่จะเป็นเพื่อนคนที่กำลังรับมือกับโรคภาวะทางอารมณ์นี้มากที่สุดอีกเพลงหนึ่ง “ไม่มีใครเข้าใจคนที่กำลังโดดเดี่ยว ได้เท่ากับคนที่โดดเดี่ยวเหมือนกัน” การแบกความหม่นหมองไว้ ทำได้เพียงระบายมันออกมาผ่านการถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงคุณจะถอนหายใจลึก-สั้นเพียงใด หรือทำผิดพลาดอีกสักเท่าไร มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณแพ้ หรือคุณกำลังดูแย่ในสายตาคนอื่น การพยายามหายใจ พยายามผ่านแต่ละวัน แต่ละนาทีไปได้นั้นกลับเป็นเครื่องหมายการันตรีที่แสดงว่า “คุณคือคนเก่งที่สุดแล้ว”

K-pop
ภาพ : tartfroyo.com

I’ll Be on Your Side, Coffee Boy(Feat.Ha Eun)

Coffee Boyศิลปินมากความสามารถผู้ซึ่งเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และนักเปียโน โชว์ความสามารถด้านดนตรีออกมาด้วยปณิธานที่แน่วแน่ว่าอยากจะมอบความผ่อนคลาย ความสบาย และความสุข ผ่านเสียงเพลงทำนองนุ่มหู โดย I’ll Be on Your Side เป็นผลงานเพลงในอัลบัม 3rd Music Roastingร่วมกับศิลปินหญิง Ha Eun โดยเนื้อเพลงในช่วงต้นสื่อถึงความโดดเดี่ยว ไร้ที่พักพิง การพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอว่าไม่เป็นไร เพื่อที่จะต้องกลับมารู้สึกเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ความรู้สึกเหล่านี้สามารถถูกเกลาและเยียวยาให้ดีขึ้นได้ เพียงแค่ใครสักคนที่เข้าใจและอยู่ข้างๆ ดังเช่นที่เสียงของผู้ชาย (Coffee Boy) ร้องตอบความกังวลให้แก่เสียงของฝ่ายหญิง (Ha Eun) ในเวลาต่อมาว่าเธอคือคนที่มีค่าที่สุด ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

เพลงนี้เคยใช้ประกอบซีรีส์เรื่อง Middle School Student A ซึ่งเป็นเรื่องราวสะท้อนชีวิตเด็กวัยรุ่นในสังคมปัจจุบัน วัยที่ต้องเจอกับภาวะกดดันรอบด้าน ความทุกข์จากแรงกดดันนี้ ก่อให้เกิดความเศร้าซึม เมื่อสะสมมากเข้าความคิดอยากตายจึงเริ่มผุดเข้ามาในหัว (ในซีรีส์ปรากฏภาพที่ตัวละครยืนอยู่ที่ขอบตึกสูงอยู่หลายครั้ง) ทว่าในเวลาเดียวกันมันก็เป็นวัยที่ได้ค้นพบกำลังใจจากมิตรภาพที่อยู่รอบตัวด้วยเช่นกัน

เสียงเปียโนเบาๆ เคล้าเสียงอบอุ่นของ Coffee Boyสำหรับผู้เขียนแล้วเพลงนี้มีค่ามากกว่าการร้องคู่ชายหญิง มันเป็นมากกว่าเพลงสื่ออารมณ์เพื่อประกอบซีรีส์ ทว่ามันมีความอบอุ่น ความเข้าใจให้ความรู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างๆ ที่พร้อมจะประคองเราไว้ทุกเมื่อที่เราล้ม หลังจากฟังเพลงนี้จบ คุณจะรู้สึกถึงกำลังใจและความผ่อนคลายดังเช่นปณิธานที่ผู้ทำเพลงนี้ตั้งใจไว้

K-pop
ภาพ : www.facebook.com/BTOBofficial

It’s Okay, BTOB

จริงอยู่ที่ว่า BTOB บอยแบนด์จากค่าย Cube Entertainment จะเดบิวต์เปิดตัวมาด้วยเพลงแดนซ์มันๆ ตามฉบับไอดอลเกาหลี ซึ่งนั่นทำให้วงนี้ดังเป็นพลุแตกด้วยเพลง Insane และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากเพลง WOW แต่แล้ว BTOB ก็ได้สร้างอีกหนึ่งภาพน่าจดจำ นั่นคือการมีเสียงร้องที่ไพเราะซึ้ง ทว่ากลับทรงพลัง เมื่อได้ปล่อยเพลง It’s Okay เมื่อปี พ.ศ. 2558ขับร้องนำโดยโวคอลไลน์ทั้ง 4 คน คือ อึนกวัง ซองแจ ฮยอนชิก และ ชางซอบ ตัดมู้ดแอนด์โทนด้วยการร้องแร็ปผสานจาก มินฮยอก อิลฮุน และพีเนียล เพลงนี้จึงมีรสที่กลมกล่อมเกินกว่าที่จะบอกว่ามันแค่ Okay

นั่นจึงกล่าวได้ว่า It’s Okay เป็นเพลงประกาศศักดาความสามารถด้านการร้องของ BTOBอย่างแท้จริง สื่อความหมายว่า ท้ายที่สุดแล้ว หากพยายามทำให้ดีขึ้นทว่าทุกอย่างยังคงเลวร้ายถ้าอย่างนั้นลองพักมาฟังเพลงนี้ดูก่อนดีไหม “ขอให้เพลงนี้ทำให้เธอมีความหวังอีกครั้ง เราเชื่อในตัวเธอนะ” ซึ่งเป็นท่อนร้องหลักในเพลง นอกจากนี้ยังมีท่อนแร็ปที่เสริมเข้ามา บอกเล่าแกมบ่นถึงปัญหาในชีวิตประจำวัน การตกงาน ความกลัว ความว้าเหว่ เหมือนตัวเองเป็นดั่ง “เรือกระดาษที่แล่นไปโดยไม่มีจุดหมาย”อ่อนแอ เปราะบาง สิ้นหวังสักเพียงใด ก็ยังต้องทำตัวเองเหมือนว่าไม่เป็นอะไร แต่ถึงแม้คุณจะฟังเพลงนี้จนจบอีกสักกี่รอบ เรื่องราวของเราก็ยังคงมีอีกยาวไกล ฉะนั้นพักผ่อนสักหน่อย แล้วลองเติมกำลังใจด้วยเพลงนี้กันดู

K-pop
ภาพ : https://www.facebook.com/bangtan.official

00:00 (Zero O’Clock), BTS

หากจะเอ่ยถึงวง K-pop ที่มาแรงทั้งกระแสนิยมและคุณภาพงานเพลงของโลก คงต้องบรรจุ BTS เข้าเป็นหนึ่งในลิสต์นี้อย่างไร้ข้อกังขาการันตีด้วยการสร้างปรากฏการณ์ช็อกวงการเพลงมาแล้วหลายหน ทั้งการเป็นเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวที Billboard Music Awards2018 สำหรับอัลบั้ม Love Yourself: Tear ซึ่งสร้างสถิติขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต U.S. Billboard Top 200 นับว่าเป็นศิลปินสัญชาติเกาหลีกลุ่มแรกที่ทำสำเร็จ

นอกจากนี้แนวเพลงของ BTS ยังกล้านำเสนอสิ่งที่เหนือความคาดหมาย อย่างการกล้าหยิบยกประเด็นทางสังคม เช่น ชนชั้นทางสังคม การศึกษา การทำร้ายกลั่นแกล้ง (bullying) อภิชนนิยม (elitism)โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือเรื่องปัญหาสุขภาพจิตของวัยรุ่น เป็นที่มาของการทำเพลงแนวให้กำลังใจเสมอมา ด้วยความตั้งใจตั้งแต่ตอนเดบิวต์แล้วว่า “จะเป็นดั่งเกราะกันกระสุนให้แก่วัยรุ่นที่ต้องเจอกับภาวะกดดัน แรงกดขี่มากมายจากสังคม

มีประโยคหนึ่งที่มักกล่าวกันในหมู่อาร์มี่ (ชื่อกลุ่มแฟนคลับของ BTS) ว่า “บังทันและเพลงของบังทันจะมาหาเราในช่วงเวลาที่เราต้องการพอดี” ซึ่งมันตรงกับประสบการณ์ของแฟนวัยรุ่นหลายคนเหมือนกัน ปาฏิหาริย์นี้จะเกิดขึ้นกับพวกเขาในช่วงเวลาที่รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือโดยความบังเอิญ เพลงของ BTS ก็มักจะช่วยให้กำลังใจเราได้เสมอ

อีกหนึ่งการสร้างปาฏิหาริย์แห่งกำลังใจนี้ คือเพลง Zero O’Clockร้องโดยโวคอลไลน์ทั้ง 4 คน ได้แก่ จองกุก, วี, จิน, จีมิน ที่ช่วยปลอบประโลม และฮีลใจได้ดีมากๆ เมโลดี้เน้นฟังสบาย เนื้อหาเล่าถึงช่วงเวลาที่หนักหนา แต่ถึงแม้วันนี้มันจะเลวร้ายสักเพียงใด อีกไม่นานมันก็ต้องจบลง เมื่อเข็มนาฬิกามาบรรจบกันที่เลข 0 เราก็จะได้เริ่มต้นทุกอย่างใหม่ได้แล้ว ปล่อยความโหดร้ายของเมื่อวานทิ้งไว้แค่ตรงนั้น แล้วนับเริ่มต้นใหม่กันเถอะนะ เพื่อความสุขของตัวเราเอง

เกราะป้องกันความเศร้า ให้พลังและกำลังใจจาก BTS ยังมีอีกหลายเกราะด้วยกัน ผู้เขียนอยากให้ทุกคนลองไปฟังกันดูไม่ว่าจะเป็นEuphoria, Epiphany, Never Mind, Tomorrow, Magic Shop, Answer : Love Myself, Lost, Outro : Wings, Young Foreverเป็นต้น
  

ดังเช่นใจความของเพลง 00:00 และอีก 5 เพลง ที่กำลังบอกผู้ที่กำลังเผชิญกับห้วงเวลาและความซึมเศร้าอยู่นี้ ว่าลองปล่อยให้อดีต เรื่องราวที่เลวร้ายในเมื่อวาน หรือในวันนี้จบลงเพียงแค่วันนี้ เพราะอีกไม่ช้าก็จะเข้าสู่วันใหม่ วันที่เราเริ่มต้นใหม่ได้ พวกเขาอยู่ข้างๆ คุณนะ

“เราทุกคนสามารถมีความสุขได้ แต่ตอนนี้เราต้องอนุญาตให้ตัวเองมีความสุขก่อน”

อ้างอิง


Author

กวินนา จันทร์ดิษฐ
มนุษย์ที่เติบโตมากับรายการโทรทัศน์สารคดีสัตว์โลก ละคร ภาพยนตร์ และซีรีส์ พยายามเรียนรู้ คลุกคลี ลุ้นเอาดีกับงานเขียน มีปลายทางฝันเป็นบ้านหลังเล็กที่มีสุนัขสายพันธุ์โกลเด้นวิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้า