ชวนจิบกาแฟใน “คุก” จากฝีมือการชงของบาริสตาที่เป็นผู้ต้องขัง
Better Living

ชวนจิบกาแฟใน “คุก” จากฝีมือการชงของบาริสตาที่เป็นผู้ต้องขัง

Focus
  • เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จังหวัดเชียงราย เป็นเรือนจำชั่วคราวแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำหรับประชาชนทั่วไปและฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขัง
  • จุดเช็กอินยอดนิยมในบริเวณเรือนจำคือ ร้านกาแฟ Inspire by Princess ที่พนักงานทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังชายใกล้พ้นโทษ
  • บาริสตาของร้านกาแฟทุกคนผ่านการอบรมจากเทรนเนอร์ของร้านกาแฟดอยตุง ปัจจุบันผ่านการอบรมมาแล้ว 2 รุ่น รุ่นละ 12 คน

ร้านกาแฟ Inspire by Princess อาจเหมือนร้านกาแฟทั่วไปที่มีเมนูเครื่องดื่มร้อน-เย็นนับสิบเมนูให้เลือกพร้อม Wi-Fi ให้ใช้ฟรี แต่ที่แตกต่างคือพนักงานในร้านทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังชายใกล้พ้นโทษ ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยไม่ต้องตรวจบัตรหรือตรวจค้นตัวเหมือนการเข้าพื้นที่เรือนจำโดยทั่วไปและพูดคุยกับผู้ต้องขังได้อย่างอิสระ 

จุดเช็กอินสุดฮิตคือ ที่นั่งบนระเบียงต้นไม้ใหญ่เห็นวิวมุมสูงของเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง อันเป็นที่ตั้งของ ร้านกาแฟ ในพื้นที่ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นเรือนจำชั่วคราวแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสืบเนื่องจากโครงการกำลังใจในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูจิตใจคนในเรือนจำ

ร้านกาแฟ
ร้านกาแฟบนต้นไม้ประจำดอยฮาง

ร้านกาแฟ เป็นหนึ่งในบริการของเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง พื้นที่กว่า 75 ไร่ของเรือนจำยังแบ่งเป็นโซนการเกษตรต่างๆ ตั้งแต่โรงเลี้ยงไก่ไข่ โรงเพาะเลี้ยงไส้เดือน บ่อเลี้ยงปลา แปลงนาข้าว เครื่องสีข้าว ไปจนถึงบ้านพอเพียงแปลงองุ่น สวนยาง และโรงผลิตปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ

“หัวใจสำคัญอยู่ที่การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในเรือนจำ  ผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษได้ฝึกอาชีพเตรียมความพร้อมออกไปใช้ชีวิตเยี่ยงสุจริตชน และคนเข้ามาเที่ยวได้เรียนรู้วิถีเกษตรพอเพียง” ศาสตรานนท์ บุญอินเขียว หัวหน้าเรือนจำฯ กล่าวถึงการพัฒนาผู้ต้องขังผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวในเรือนจำ

สวนเกษตรพอเพียงเพื่อเตรียมความพร้อมของผู้ต้องขัง

เรือนจำชั่วคราวดอยฮางรับผู้ต้องขังชายใกล้พ้นโทษมาเตรียมพร้อมก่อนออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ปกติจะมีจำนวนผู้ต้องขังอยู่ราว 200 คน โดยมีกลุ่มที่อยู่ในโครงการกำลังใจ รุ่นละ 50 คน ในปี 2561 นับเป็นรุ่นที่ 8 แล้วและผู้ต้องขังกลุ่มนี้จะได้เรียนรู้ด้านต่างๆ ตามหลักสูตรของโครงการ

ร้านกาแฟ
กิจกรรมวิถีเกษตรพอเพียงเพื่อสร้างกำลังใจ

ฝึกอาชีพก่อนกลับสู่โลกอิสระ

ร้านกาแฟ ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของเรือนจำและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะที่นั่งจิบกาแฟบนระเบียงต้นไม้ใหญ่ หัวหน้าเรือนจำฯ เล่าว่าจุดกำเนิดมาจากอาจารย์หมอจากโรงพยาบาลธัญญารักษ์ เชียงใหม่ มาจัดอบรมให้ผู้ต้องขังในโครงการกำลังใจ พอเดินดูทั่วเรือนจำอาจารย์หมอแนะนำว่าควรมีร้านกาแฟเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

“คุยกับอาจารย์ว่าอยากทำ แต่ไม่มีทุน สองเดือนเศษๆ หลังจากนั้นมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ นำทีมงานมาทำร้านกาแฟให้โดยเป็นเจ้าของด้วยงบประมาณล้านกว่าบาท และบางส่วนใช้แรงงานผู้ต้องขังช่วย ก็ได้อาคารที่ตั้งร้านปัจจุบันในเวลาประมาณ 45 วัน เพื่อเร่งให้เสร็จทันรับเสด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (พระนามในขณะนั้น) เมื่อวันที่28 ธันวาคม 2560” 

เครื่องดื่มร้อน-เย็นทุกแก้วของร้าน Inspire by Princess ชงโดยผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมหลักสูตรบาริสตา (barista) จากเทรนเนอร์ของร้านกาแฟดอยตุง

ร้านกาแฟ
กิจกรรมอบรมผู้ต้องขังที่มีหลากหลายรูปแบบ

“อบรมรุ่นแรกประมาณ 12 คน วันรับเสด็จเราก็ให้ผู้ต้องขังของเราเป็นบาริสตาชงกาแฟในการรับเสด็จ” ศาสตรานนท์กล่าว

โบวี่ (นามสมมุติ) เป็นหนึ่งในผู้ต้องขังที่เข้ารับการอบรมเป็นบาริสตารุ่นแรก โบวี่ต้องขังด้วยคดียาบ้าโทษ 4 ปี 3 เดือน และตอนนี้เหลือโทษอีกไม่ถึง 2 ปี  บาริสตารุ่นแรกตอนนี้เหลือ 3 คนเพราะคนอื่นต่างทยอยพ้นโทษ และรุ่น 2 มาสมทบอีก 12 คน โดยมีการจัดกลุ่มออกมาประจำร้านวันละสี่ถึงห้าคนตามตำแหน่งงาน

“เมนูขายดีคือเอสเพรสโซเย็น โดยใช้กาแฟช็อตกับนมเติมลงในน้ำแข็ง ต่างกับอเมริกาโนที่เป็นกาแฟดำผสมน้ำ ร้านเราชงแบบไม่ใส่น้ำตาล หากต้องการหวานลูกค้าเติมเอง  เราใช้เมล็ดกาแฟของดอยตุง” 

เมล็ดกาแฟถุงละครึ่งกิโลกรัมชงได้ 25 แก้ว ร้าน Inspire ใช้วันละ 2-3 ถุง บอกความนิยมของผู้บริโภคและยอดขายไปพร้อมกัน จากปลายปี 2560 ที่เริ่มทำร้านจนเมื่อปีที่แล้วมีการจัดประกวดเรือนจำชั่วคราวทั่วประเทศ ดอยฮางคว้าที่ 3 ได้รางวัลเงินสด  4 หมื่นบาท จึงนำมาขยายร้านและสร้างระเบียงบนต้นไม้ ที่กลายเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของร้าน ปัจจุบันระเบียงบนต้นไม้รองรับได้ 30 ที่นั่งและในร้านอีก 20 ที่นั่ง

ราคากาแฟเริ่มตั้งแต่แก้วละ 25 ถึง 45 บาท รายได้วันธรรมดาไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ลูกค้าเพิ่มเป็นสองเท่า

ร้านกาแฟ ที่ไม่ได้มุ่งขายกาแฟ

ดิว (นามสมมุติ) หนึ่งในจำนวน 12 คนของบาริสตารุ่น 2 ที่ต้องโทษคดียาเสพติด เล่าถึงประสบการณ์การทำงานว่า “ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว พอเขารู้ว่าเราเป็นผู้ต้องขังบางคนก็กลัว บางคนก็เฉยๆ  ถ้าได้คุยกันเราจะบอกเขาตรงๆ เลยหลังจากที่ผมได้มาเข้าคอร์สเรียนเรื่องกาแฟก็ได้รู้ถึงความแตกต่างกาแฟแต่ละสายพันธุ์ เมื่อได้ออกไปคิดว่าจะไปสมัครงานในร้านกาแฟ”

บรรยากาศในร้านกาแฟ

บาริสตารุ่นแรกที่พ้นโทษไปแล้วยังไม่มีใครเปิดร้านกาแฟ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเงินลงทุน สำหรับคนที่ออกจากเรือนจำมือเปล่า การสมัครเป็นบาริสตาตามร้านกาแฟอื่นอาจง่ายกว่า หนึ่งในนั้นคือแบงค์ที่พ้นโทษแล้ว และปัจจุบันทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟดอยตุงสาขาสนามบินเชียงราย

แบงค์ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ได้เงินเดือนเริ่มต้น 1.1 หมื่นบาท  “เพื่อนร่วมงานดีกับเรา  เขาไม่ได้รังเกียจว่าเคยผ่านเรือนจำมา ช่วงมาใหม่ๆ เพื่อนก็ช่วย เงินเดือนไม่ทันออกเพื่อนก็ให้ยืมเงินเดือนถ้าใช้อย่างประหยัดก็คงพออยู่ได้ เพราะเราเรียนเรื่องความพอเพียงมาแล้วจากดอยฮาง” 

หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวดอยฮางย้ำว่า ร้านกาแฟ แห่งนี้ไม่ได้มุ่งขายกาแฟ แต่เน้นฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังและนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้เห็นเป็นรูปธรรม

ต้นเรื่อง : นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 410 เดือนเมษายน 2562

Fact File

  • เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
  • เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวันในเวลาราชการ โทร. 0-5317-0551