ส่งต่อวิถีการกินยั่งยืนกับ 3 ร้านรางวัล ดาวมิชลินรักษ์โลก มิชลิน ไกด์ 2566
Better Living

ส่งต่อวิถีการกินยั่งยืนกับ 3 ร้านรางวัล ดาวมิชลินรักษ์โลก มิชลิน ไกด์ 2566

Focus
  • รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก หรือ MICHELIN Green Star จึงเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนร้านอาหารที่สามารถจัดการขยะและจัดการมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกิจการร้านอาหาร
  • PRU จากจังหวัดภูเก็ตเป็นร้านแรกในประเทศไทยที่สามารถคว้ารางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกมาครองได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการประกาศรางวัลนี้ และก็สามารถรักษาดาวสีเขียวมาได้ถึง 3 ปีซ้อน

เมื่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องที่ทุกอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ รางวัล ดาวมิชลินรักษ์โลก หรือ MICHELIN Green Star จึงเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนร้านอาหารที่สามารถจัดการขยะและจัดการมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกิจการร้านอาหาร รวมทั้งส่งต่อความยั่งยืนของอาหารสู่คนกิน และสำหรับ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย 2566 ที่ประกาศผลไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 รางวัล MICHELIN Green Star ร้านอาหารซึ่งใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเปิดทางให้กับวิถีการกินอย่างยั่งยืน มีด้วยกันทั้งหมด 3 ร้าน ได้แก่ PRU, Jampa และ Haoma

ดาวมิชลินรักษ์โลก

PRU รางวัลมิชลินรักษ์โลก 3 ปีซ้อน

PRU หรือชื่อไทม พรุ คือร้านอาหารจากจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นร้านแรกในประเทศไทยที่สามารถคว้ารางวัล ดาวมิชลินรักษ์โลก มาครองได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการประกาศรางวัลนี้และก็สามารถรักษาดาวสีเขียวได้ต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน โดยร้านพรุไม่ได้เน้นแค่รสชาติที่มีต้นกำเนิดจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ทว่ายังรักษาความสมดุลระหว่างวัตถุดิบ รสชาติตามปรัชญาที่ว่า “ปลูก-ดูแล-เข้าใจ” โดยทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบจากเกษตรกรทั่วภูมิภาค ทั้งพังงา นครพนม และจาก “พรุจำปา” ฟาร์มออร์แกนิกบนเนื้อที่กว่า 600 ไร่ของร้าน โดยมี เชฟจิมมี่ โอฟอร์สต์ (Jimmy Ophorst) เชฟชาวเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้ดูแลการปรุงอาหารทุกขั้นตอน รวมถึงการตกแต่งจานอย่างประณีตเติมเต็มความประทับใจให้มื้อของคุณด้วยวัตถุดิบชั้นยอดที่คัดสรรมาจากหลายแหล่ง รวมไปถึงอาหารทะเลที่โด่งดังของท้องถิ่น คือล็อบสเตอร์ภูเก็ต

ดาวมิชลินรักษ์โลก

Jampa น้องใหม่ที่เน้นขยะเป็นศูนย์

Jampa หรือชื่อไทย จำปา ร้านอาหารน้องใหม่ในเครือของร้านพรุ จังหวัดภูเก็ต ที่ตั้งชื่อตามหมู่บ้านพรุจำปา และดอกไม้หอมประจำถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ โดยมี เชฟ Rick Dingen เป็นหัวหน้าเชฟู้บรรจงสร้างสรรค์เมนูยุโรปร่วมสมัยโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของธรรมชาติ ที่จำปายึดคอนเซปต์ zero waste หมายถึงขยะต้องเป็นศูนย์ เป็นวิถีการครัวที่พยายามใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เหลือทิ้ง เมนูแนะนำคือ whole spring chicken ไก่ย่างเตาถ่านที่เนื้อนุ่มหอมแต่หนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสบาร์บีคิวโฮมเมด ส่วนคอเครื่องดื่มอย่าลืมสั่งค็อกเทลแบบแอลกอฮอล์ต่ำ (low ABV) ที่พิเศษด้วยการใช้วัตถุดิบที่ปลูกอยู่ไม่ไกลจากร้าน

ดาวมิชลินรักษ์โลก

HAOMA ร้านอาหารอินเดียที่ไม่ทิ้งวัตถุดิบใดๆ

ร้านอาหารอินเดียโมเดิร์นที่ปีนี้นอกจากจะได้รางวัลความยั่งยืนแล้วก็ยังได้ดาวมิชลิน 1 ดาวไปครองเป็นครั้งแรก เรียกว่าเป็นดาวรุ่งวงการร้านอาหารที่น่าจับตามอง ทั้งนี้ในภาษาเปอร์เซียน Haoma หมายถึงต้นฮอลลี และที่ Haoma กรุงเทพฯ นี้ได้ปลูกผักเกือบ 40 ชนิดไว้ใช้เอง ทั้งยังมีระบบรองน้ำฝนไว้สำหรับรดน้ำผัก ตามคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่า We grow what we cook, we cook what we love โดยทางร้านเน้นเรื่องความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ที่นี่จึงไม่มีการทิ้งวัตถุดิบใดๆ เลย ด้านเมนูมีให้เลือกทั้ง Tasting menu ตามฤดูกาล À la carte และเมนูมังสวิรัติ ทุกจานปรุงรสและเผยเสน่ห์ของเครื่องเทศสไตล์อินเดียที่จับคู่กับไวน์และมี Sommelier ผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ


Author

ศรัณยู นกแก้ว
Online Editor ที่ผ่านทั้งงานหนังสือพิมพ์ พ็อกเก็ตบุ๊ค และนิตยสาร ปัจจุบันยังคงสมัครใจเป็นแรงงานด้านการผลิตคอนเทนต์