Boston Cooking School ตำราอาหาร ที่เปลี่ยนโลกด้วย “ถ้วยตวง”
Lite

Boston Cooking School ตำราอาหาร ที่เปลี่ยนโลกด้วย “ถ้วยตวง”

Focus
  • ตำราอาหารของอเมริกามีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1796 แต่ตำราอาหารของ แฟนนี ฟาร์เมอร์ นั้นคือต้นแบบของตำราอาหารในปัจจุบันที่มีการชั่งตวงวัดสูตรต่าง ๆ และบอกวิธีทำอย่างเป็นขั้นตอนอย่างละเอียด
  • แฟนนี ฟาร์เมอร์ จบการศึกษาจากโรงเรียนสอนทำอาหารบอสตัน และเป็นลูกจ้างของโรงเรียนจนได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน
  • แฟนนี ฟาร์เมอร์ เขียนหนังสือตำราอาหารชื่อ The Boston Cooking-School Cookbook by Fannie Merritt Farmer ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1896 และเป็นตำราอาหารเล่มแรกที่ใช้ระบบชั่ง ตวง วัด

ในบรรดาหนังสือสูตรอาหารคลาสสิกของอเมริกา The Fannie Farmer Cookbook หรือ Boston Cooking School  Cookbook คืออีกเล่มที่ยังคงได้รับการตีพิมพ์แม้เวลาจะผ่านมาเป็นร้อยปี เพราะนี่คือหนังสือ ตำราอาหาร เล่มแรกในโลกที่มีการชั่งตวงวัดส่วนผสมทุกอย่างด้วยระบบชุด “ถ้วยตวง” มาตรฐาน และบอกวิธีการทำอย่างละเอียดทีละขั้นตอนจนสามารถเรียกได้ว่าปฏิวัติวงการหนังสือสูตรอาหารที่มีมาเลยก็ว่าได้ เพราะเดิมทีการเขียนตำราอาหารมักจะใช้การบรรยาย และแต่ละบ้าน แต่ละเมืองก็มีการชั่ง ตวง วัด ด้วยภาชนะที่แตกต่างกันไป และก็มีตำราอาหารหลายเล่มที่ระบุส่วนผสมลงไปว่าตามใจคนปรุงจะชอบ

 Boston Cooking School
 Boston Cooking School

ตำราอาหาร The Fannie Farmer Cookbook คิดค้นโดย แฟนนี ฟาร์เมอร์ (Fannie Merritt Farmer) เธอจบการศึกษาจากโรงเรียนสอนทำอาหารบอสตัน (Boston Cooking School) เมื่อ ค.ศ.1889 และเป็นลูกจ้างของโรงเรียนจนเมื่อปี ค.ศ.1894 เธอได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ต่อมาเธอได้เขียนหนังสือ ตำราอาหาร ชื่อ The Boston Cooking-School Cookbook by Fannie Merritt Farmer ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีวันที่ 7 มกราคม ค.ศ.1896

 Boston Cooking School

The Boston Cooking School Cookbook by Fannie Merritt Farmer ไม่ใช่หนังสือ ตำราอาหาร เล่มแรกในอเมริกา (ตำราอาหารของอเมริกามีมาตั้งแต่ค.ศ. 1796) แต่เป็น ตำราอาหาร เล่มแรกที่ถือได้ว่าปฏิวัติวิถีการทำครัวของคนอเมริกัน และกลายเป็นต้นแบบของ ตำราอาหาร ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการระบุสูตรส่วนผสมที่มีการชั่งตวงวัดอย่างแม่นยำของแต่ละเมนู พร้อมระบุวิธีการทำแต่ละเมนูอย่างเป็นลำดับขั้นตอน เพื่อให้คนอ่านสามารถทำตามได้รสชาติที่ใกล้เคียงที่สุด รวมไปถึงยังมีการแนะนำไอเดียการจัดเมนูและจัดโต๊ะอาหารในวาระต่าง ๆ อีกด้วย และจากการปฏิวัติวงการ ตำราอาหาร ด้วยถ้วยตวงนี่เองที่ทำให้แฟนนี ฟาร์เมอร์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น The Mother of Level Measurements หรือ มารดาแห่งการชั่งตวงวัด 

 Boston Cooking School

ต่อมา แฟนนี ฟาร์เมอร์ ยังได้ออก ตำราอาหาร แนวโภชนาการบำบัด Food and Cookery for the Sick and Convalescent ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับโภชนาการ สารอาหารที่มีผลต่อร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นต้นแบบของตำราอาหารที่เน้นโภชนาการอาหารเช่นกัน

ปี ค.ศ. 1902 แฟนนี ฟาร์เมอร์ ได้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนสอนทำอาหารบอสตัน และเปิดกิจการโรงเรียนสอนทำอาหารของตัวเองในชื่อ Miss Farmer’s School of Cookery เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1902 เน้นการสอนทำอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการให้กับแม่บ้านและพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วย โดยโรงเรียน Miss Farmer’s School of Cookery ที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 30 ถนนฮันติงตัน อเวนิว เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์สหรัฐอเมริกา

แฟนนี ฟาร์เมอร์ เสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ.1915 ขณะเธออายุได้ 57 ปีส่วนโรงเรียน Miss Farmer’s School of Cookery ยังมีผู้สืบทอดกิจการต่อเนื่องจนถึงปีอค.ศ.1944 จึงปิดกิจการอย่างถาวร แต่ทุกวันนี้ ตำราอาหาร ต้นแบบของแฟนนี ที่รู้จักในชื่อ The Fannie Farmer Cookbook ยังคงมีขายและได้รับการตีพิมพ์ซ้ำอยู่ เป็นหนังสือตำราอาหารฉบับคลาสสิกที่คนทำอาหารต้องมีไว้ในครอบครอง โดยในช่วง 70 ปีแรก มีการตีพิมพ์มากถึง 12 เวอร์ชันด้วยกัน

ส่วนหนังสือ ตำราอาหาร อื่น ๆ ของเธอได้แก่ Chafing Dish Possibilities (1898), Food and Cookery for the Sick and Convalescent (1904), What to Have for Dinner (1905), Catering for Special Occasions, with Menus and Recipes (1911) และ A New Book of Cookery (1912)

Fact File

  • ชุดถ้วยตวงมาตรฐานที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลกมักจะประกอบด้วย 4 ถ้วย ได้แก่ 1 ถ้วย ½ ถ้วย ⅓ ถ้วย และ ¼ ถ้วย

อ้างอิง


Author

ทศพร กลิ่นหอม
นักเขียนสายบันเทิง สังคม ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ เคยประจำการอยู่ที่ เมเนจเจอร์ออนไลน์ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และรายการ ET Thailand ปัจจุบันรับจ้างทั่วไป