![IceDEA ไอศกรีมสุดครีเอตที่เกิดจาก “นักออกแบบไอศกรีม” ผู้อยู่เบื้องหลังงานอีเวนต์](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedeaopen2.jpg)
IceDEA ไอศกรีมสุดครีเอตที่เกิดจาก “นักออกแบบไอศกรีม” ผู้อยู่เบื้องหลังงานอีเวนต์
- จากประสบการณ์ที่ได้จากอาชีพ Icecream Designer ที่ ติ๊บ-พริมา จักรพันธุ์ หวั่งหลี ทำหน้าที่ออกแบบรสชาติและรูปลักษณ์ไอศกรีมใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เกิดเป็นร้านไอศกรีม IceDEA ที่เธอตั้งใจใส่ไอเดียลงไปในทุกๆ ส่วนของไอศกรีม
- จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าไม่สามารถไปนั่งที่ร้านได้อย่างเคย แต่ IceDEA ยังคงมีบริการดีลิเวอรีเพื่อส่งต่อความหวานเย็นมีไอเดียให้ถึงบ้าน
การได้กินของอร่อยที่ถูกใจสามารถเติมความสุขให้เราได้เสมอ ยิ่งในยามที่เกิดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 และท่ามกลางอากาศร้อนของเมืองไทย รสชาติ กับความเย็นชื่นใจของไอศกรีมยังคงเป็นหนึ่งโมเมนต์เล็กๆ ที่ยังคงเรียกรอยยิ้มให้กับเรา ยิ่งได้เห็นของหวานดับร้อนนี้ทำออกมาเป็นรูปร่างต่างๆ อย่างทุเรียน มังคุด ดอกไม้ ก็ยิ่งดึงดูดและเพิ่มดีกรีความชุ่มฉ่ำใจให้กับเราเข้าไปอีก
เชื่อว่าหลายๆ คนทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจน่าจะต้องเคยเห็นไอศกรีมสุดครีเอตของ IceDEA ชื่อแบรนด์ที่มาจากประโยค ‘Idea in Icecream’ คอนเซ็ปต์ของร้านที่ ติ๊บ-พริมา จักรพันธุ์ หวั่งหลี ผู้อยู่เบื้องหลัง ตั้งใจสอดแทรกไอเดียลงไปในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับไอศกรีมตั้งแต่รสชาติ หน้าตา วิธีการนำเสนอไปจนถึงวิธีการกิน และเพราะหน้าตาของไอศกรีมนี่แหละที่ทำให้ลูกค้าIceDEA อดยกกล้องขึ้นมาถ่ายแล้วแชร์ต่อกันไม่ไหว ในโอกาสที่IceDEA โผล่ขึ้นมาในหน้าไทม์ไลน์โซเชียลมีเดียของเราอีกครั้ง Sarakadee Lite เลยขอพาทุกคนไปรู้จักแบรนด์นี้ให้มากขึ้น
![IceDEA](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea3.jpg)
การออกแบบที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สิ่งของ
“ที่บ้านชอบกินไอศกรีม คุณพ่อก็ชอบทำไอศกรีมให้กินตั้งแต่เด็กๆ ในช่วงที่ติ๊บเรียนจบจากคณะสถาปัตย์ฯ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรมมาใหม่ๆ ธุรกิจไอศกรีมกำลังได้รับความนิยม ในขณะที่รสชาติในตลาดยังมีแค่รสชาติทั่วไป เราก็คิดว่าหนึ่งเราเรียนจบทางด้านออกแบบมา และช่องทางการตลาดก็มีช่องว่างตรงนี้อยู่ แล้วทำไมเราไม่ออกแบบไอศกรีมให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้านต่างๆ เลยเกิดเป็นอาชีพ Icecream Designer ขึ้นมา แต่ก็ทำอยู่เบื้องหลังคือออกแบบให้กับร้านอาหาร งานอีเวนต์ ยังไม่มีหน้าร้านเป็นของเราเอง จนประมาน ค.ศ.2009 ทางหอศิลปกรุงเทพฯ เห็นว่าไอศกรีมของเราถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เลยชวนให้มาใช้พื้นที่จัดแสดงไอศกรีมให้คนทั่วไปเห็นว่ามันก็เป็นงานศิลปะ ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายเพราะเป็นอาหาร”
ติ๊บเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการหันมาออกแบบไอศกรีม เพราะเห็นว่าการออกแบบสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกสิ่งรอบตัว และกล่าวเสริมว่า การออกแบบอาหารนั้นมีข้อจำกัด แต่ก็มีข้อดีตรงที่มีมิติของรสชาติที่สามารถเข้าถึงความรู้สึกของคนได้มากกว่าแค่มองเห็นหรือจับต้อง
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea1-1.jpg)
หลังจากนั้นติ๊บจึงเดินหน้าแบรนด์IceDEA เต็มกำลัง ซึ่งมากกว่าการออกแบบรสชาติใหม่ๆ เธอยังใส่ไอเดียในการดีไซน์หน้าตาของไอศกรีมให้เป็นรูปร่างต่างๆ เพราะเห็นว่าเอื้อต่อการประชาสัมพันธ์มากกว่าการสื่อด้วยรสชาติเพียงอย่างเดียว อีกอย่างเธอยังมองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ในยุคนี้ที่ชอบถ่ายรูปก่อนค่อยกิน จึงเกิดเป็นโจทย์หลักที่ว่า จะทำอย่างไรให้คนเห็นแล้วอยากถ่ายรูป นำไปโพสต์ หรือแชร์ต่อ
หลังทำโชว์รูม หรือจะเรียกว่าเป็นสตูดิโอไอศกรีมขนาดย่อมรวบรวมผลงานไอศกรีมที่เธอเคยออกแบบมาเปิดกลางหอศิลป์กรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกค้ารายใหม่ได้เห็นและชิมเป็นตัวอย่างแล้ว ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับที่ดีเกินคาด เพราะไม่เพียงกับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาคนออกแบบไอศกรีมเท่านั้น แต่คนทั่วไปที่มาเห็นก็รู้สึกอยากกินไปด้วย เมื่อเสียงเรียกร้องเริ่มมากขึ้น เธอจึงตัดสินใจเช่าพื้นที่ส่วนหนึ่งของหอศิลป์กรุงเทพฯ ชั้น 4 เปิดเป็นร้านไอศกรีม IceDEA ขึ้นมา
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea4.jpg)
เธอเริ่มออกแบบเมนูโดยการหยิบแรงบันดาลใจที่ได้จากสิ่งต่างๆ รอบตัว บวกกับประสบการณ์จากการดีไซน์ไอศกรีมสำหรับงานอีเวนต์ แล้วสังเกตเห็นว่ามีคนพูดถึง “ไอศกรีมซูชิ” ที่หน้าตาเหมือนอาหารญี่ปุ่นจริงๆ ค่อนข้างเยอะ จึงนำคอนเซ็ปต์ที่นำรูปแบบของอาหารมาแปลงเป็นไอศกรีมมาใช้ เกิดเป็นเมนูเซตแรกๆ ของIceDEA เช่น “ไอศกรีมหมูทงคัตสึ” ที่นำไอเดียไอศกรีมทอดแบบที่คนไทยชอบมาต่อยอดกับรูปลักษณ์ของหมูทงคัตสึที่เป็นอาหารญี่ปุ่น แต่เปลี่ยนจากแป้งทอดของไอศกรีมปกติให้เป็นเกล็ดขนมปังที่ใช้สำหรับทำทงคัตสึแทน มากกว่านั้นคือการจัดเสิร์ฟให้เหมือนกับอาหารญี่ปุ่นจริงๆ
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea5.jpg)
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea6.jpg)
นอกจากนี้เธอยังหยิบกระแสเหตุการณ์ต่างๆ และความต้องการของลูกค้ามาตั้งเป็นโจทย์ โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่การออกแบบให้มีเอกลักษณ์ตามคอนเซ็ปต์ของ IceDEA เช่น เมนูยอดนิยมอย่าง “ไอศกรีมสเต๊ก” ที่เกิดจากเสียงเรียกร้องของลูกค้าที่อยากกินไอศกรีมชิบูย่าฮันนี่โทสต์ เธอจึงเกิดไอเดียการเสิร์ฟพาเมซานชีสโทสต์ คู่กับไอศกรีมสเต๊ก (รสบราวนี) ที่สั่งได้ว่าต้องการแบบมีเดียมแรร์ (เพิ่มการสอดไส้ไอศกรีมรสนมเย็นด้านใน) หรือเวลดัน มีเครื่องเคียงเป็นเฟรนช์ฟรายส์ที่ดัดแปลงเป็นกล้วยเผาราดคาราเมล จุดนี้เห็นแล้วต้องเกิดคำถามกันบ้างแหละว่าที่เห็นคือไอศกรีมจริงๆ หรือเปล่า
ตัวฮอตฮิตและทำให้คนรู้จัก IceDEA มากขึ้นอีกเมนูคือ “ไอศกรีมทุเรียน” ที่เธอคิดค้นขึ้นมาซัพพอร์ตลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea13.jpg)
“นักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียมาเมืองไทยเขาชอบทุเรียนอยู่แล้ว ก็มาถามหาว่ามีไอศกรีมทุเรียนไหม ฟีดแบ็กจากลูกค้าหลายๆ ท่านก็ถามหาไอศกรีมทุเรียนเยอะ เลยคิดว่าจะทำไอศกรีมทุเรียนสำหรับกลุ่มลูกค้านี้ แต่ทำเป็นสกู๊ปเฉยๆ ก็เป็นอะไรที่ไม่ใช่ IceDEA ส่วนหนึ่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนสามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย เพราะเมนู ณ ตอนนั้น ต้องนั่งกินที่ร้านหมด เลยคิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่คนสามารถซื้อกลับบ้านได้ เอาไปฝากหรือดีลิเวอรีได้
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea8.jpg)
“เลยคิดเป็นไอศกรีมทุเรียนที่หน้าตาเหมือนกับทุเรียนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเปลือก พลูหรือเม็ดที่อยู่ข้างใน ทุกอย่างมีดีเทลเหมือนทุเรียนจริงๆ แต่สามารถกินได้ทั้งหมด ตัวหนามทุเรียนจะเป็นไอศกรีมทุเรียนหมอนทอง ชาเขียวและชั้นอัลมอนด์อบกรอบให้สัมผัสเหมือนกับเคี้ยวหนามทุเรียน ด้านในไอศกรีมเนื้อทุเรียนมีถั่วพีแกน ที่สามารถกินไปด้วยกันได้และช่วยเติมรสชาติของตัวเนื้อให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น”
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea10.jpg)
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea12.jpg)
จาก ไอศกรีมทุเรียน ที่กลายเป็นเมนูเด่นของทางร้าน ก็ได้มีการต่อยอดเป็นไอศกรีมมังคุด ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วง (ซอร์เบทมะม่วงน้ำดอกไม้และไอศกรีมกะทิมะพร้าวอ่อนราดซอสกะทิโรยถั่วทองกรุบกรอบ) ไอศกรีมข้าวโพดชีส และไอศกรีมรูปร่างอื่นๆ ตามมา
เห็นได้ว่าเธอมักหยิบสิ่งต่างๆ ที่พบเจอมาเป็นโจทย์ในการออกแบบไอศกรีมอยู่เสมอ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ก็ทำให้IceDEA ต้องเจอกับโจทย์ใหม่ที่ทำให้ต้องปรับรูปแบบ เน้นช่องทางการขายทางดีลิเวอรีเป็นหลัก
“ส่วนใหญ่แล้วเราจะขายที่ร้านที่หอศิลป์ กับมีตู้ไปลงที่ทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม แล้วก็จะมีลูกค้าที่นำไอศกรีมของเราไปลงตามจุดต่างๆ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ ตลาดอ.ต.ก. ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี ร้อยเอ็ด ส่วนดีลิเวอรีก็มีบ้างแต่ไม่ได้โปรโมตหนักมาก”
เธอเล่าถึงอีกหนึ่งช่องทางการขายของIceDEA ที่โดยปกติจะเน้นขายส่งมากกว่าการดีลิเวอรี ก่อนจะเล่าเสริมถึงการปรับตัวของแบรนด์เพื่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน
“ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะลูกค้าเราเองส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว และอยู่ในจุดที่จำเป็นต้องปิด ทุกที่ที่ขายส่งอย่างตลาดน้ำสี่ภาคนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เขาโดนผลกระทบมาตั้งแต่ช่วงแรกแล้ว คือเงียบมาตั้งแต่ก่อนสถานการณ์จะหนักขึ้นเสียอีก ทำให้ในส่วนของช่องทางการขายที่มีอยู่ก็เท่ากับว่าไม่ได้เลย ต้องมาเน้นในส่วนที่เป็นดีลิเวอรีเพียงอย่างเดียว”
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea2-1.jpg)
“จากเดิมที่เราไม่ได้เน้นเรื่องดีลิเวอรีเลย ตอนนี้ก็ทำในเรื่องของการตลาด โปรโมตให้ลูกค้าเห็นว่าเรามีตัวดีลิเวอรีอยู่ให้มากขึ้น เพราะของเดิมไม่ได้มีการทำการตลาดมาก แต่ใช้วิธีอาศัยการบอกต่อ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เขาก็จะโปรโมตให้เราไปด้วยในตัว ตอนนี้เราก็ต้องหันมาโปรโมตเองนิดหนึ่งว่าเรามีดีลิเวอรีตัวไหนอยู่บ้าง”
เดิมที IceDEA จะเน้นเป็นดีลิเวอรีไอศกรีมรูปทรงต่างๆ เพราะเป็นสิ่งที่คนนึกถึงและจำได้ แต่ช่วงนี้ได้มีการดึงไอศกรีมสกู๊ปรสชาติต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วถือเป็นจุดเริ่มต้นของIceDEA กลับมาโปรโมตใหม่ เพราะช่วงนี้ถือว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ จากกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นนักท่องเที่ยวหายไป
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2020/04/icedea14.jpg)
โดยไอศกรีมสกู๊ปจะจำหน่ายเป็นชุดละ 12 ถ้วย ราคา 828 บาท และชุดละ 24 ถ้วย ราคา 1,658 บาท มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย เช่น ขนมเบื้อง ข้าวต้มมัด ตะโก้แห้วมะพร้าวอ่อน โดยสามารถเข้าไปดูรสชาติทั้งหมดได้ทางเพจของร้าน
ทั้งนี้ไอศกรีมรูปทรงต่างๆ อย่างไอศกรีมผลไม้ และไอศกรีมรูปน้องหมายอดฮิตก็ได้มีการนำมาจัดเซตเพื่อจำหน่ายแบบดีลิเวอรีด้วยเช่นกัน โดยคุณติ๊บแนะนำว่าควรกินภายใน 7 วันหลังจากสั่งซื้อสำหรับการเก็บในอุณหภูมิช่องแข็งทั่วไป เพื่อคงเท็กเจอร์ รสชาติและความสดใหม่ แต่หากเก็บที่อุณหภูมิ -20 องศาลงไปก็สามารถเก็บได้ร่วมเดือน
ในวิกฤติโควิด-19 ที่ดีกรีความตึงเครียดพุ่งสูงสู้ระดับความร้อนของอากาศ รสชาติหวานเย็นของไอศกรีม น่าจะช่วยเรียกความสดชื่น บวกกับรูปลักษณ์ของไอศกรีมIceDEA ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจ ก็น่าจะช่วยเรียกรอยยิ้มให้เราได้ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เห็นแล้วต้องเทใจให้ทั้งดวงแน่นอน
Fact File
- ร้าน IceDEA ชั้น 4 หอศิลป์กรุงเทพฯ เวลาทำการ 11.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
- สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Line: @icedea, www.facebook.com/icedea หรือโทร. 08-1907-1814
- ภาพ : IceDEA
![](/wp-content/uploads/2019/12/logo-greyscale-1.png)